- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 07 March 2017 17:46
- Hits: 4090
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (7/03/60)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้'ร่วงลงจากความกังวลเฟด'
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวแดนลบตลอดวัน หลังเผชิญแรงขายอย่างหนัก ท่ามกลางความกังวลขึ้นดอกเบี้ยของเฟด หลังล่าสุดตลาดให้โอกาสปรับขึ้นรอบประชุมวันที่ 14-15 มี.ค. สูงถึง 90% ซึ่งส่งผลต่อกระแสเงินทุนไหลออก และกดดันหุ้นกลุ่ม Big Cap วานนี้ นำโดย หุ้นกลุ่มพลังงาน (-1.5%DoD), กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (-1.0%DoD) ขณะที่ปัจจัยในประประเทศยังไม่มีอะไร โดยดัชนีลงทดสอบจุดต่ำสุดของวันที่ 1,551.30 จุด ก่อนดีดตัวขึ้นมาปิดที่ 1,553.61 จุด ลดลง 12.59 จุด (-0.8%DoD) ด้วย Vol. 38,748 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ทางการเกาหลีใต้ประกาศห้ามการนำเข้าผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจากสหรัฐ หลังจากมีการตรวจพบการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7 เป็นบวกกับผู้ส่งออกไก่ของไทย (CPF GFPT TFG)
(+) ตลาดหลักทรัพย์สรุปปี 59 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 30.41%YoY
(+) ค่าระวางเรือ (BDI) เพิ่มขึ้น 40 จุด มาอยู่ที่ 979 จุด (+4.25%) เป็นปัจจัยบวกสำหรับกลุ่มเรือ TTA, PSL
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA -51.37 จุด (-0.24%) S&P500 (-0.33%) และ Nasdaq (-0.37%) โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ด้านการเมืองหลังจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 4 ลูกรวมถึงการที่คณะทำงานของทรัมป์เรียกร้องให้สภาคองเกรสสืบสวนคดีที่ทรัมป์กล่าวหาว่าอดีตประธานาธิบดีโอบามา สั่งให้ดักฟังโทรศัพท์ในอาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ในช่วงก่อนการเลือกตั้งเมื่อปีก่อน
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับลดลงทุกตลาดหลังได้รับแรงกดดันจากการที่ดอยซ์แบงก์เตรียมเพิ่มทุน 8 พันล้านยูโรในวันที่ 21 มี.ค. นี้ โดย CAC-40 -0.46% DAX -0.57% และ FTSE 100 -0.33%
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI -0.2% มาอยู่ที่ 53.20 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลเรื่องจีนปรับลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและความไม่มั่นใจว่ารัสเซียจะให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตหลังปริมาณการผลิตเดือน ก.พ. ยังคงทรงตัวที่ระดับ 11.11 ล้านบาร์เรล/วัน
(-) กรอ.เผยยอดขอ ร.ง.4 ช่วง 2 เดือนแรกของปี 60 มูลค่าลดลง 29%YoY แม้ปริมาณจะเพิ่มขึ้น 2.8%ก็ตาม
(-) ราคายางพารา (TOCOM) วานนี้เพิ่มขึ้น 1.3% มาอยุ่ที่ 307 Yen/Kg. แต่เช้านี้ราคาปรับลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 303.2 Yen/Kg
(-) ราคาถ่านหินปรับลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันอีก -0.87% มาอยู่ที่ 80.20 US/Tons
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
การพรีวิวงบกลุ่มธนาคารในช่วงปลายเดือน
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ ได้แก่ US ดุลบัญชีการค้า (7 มี.ค.) ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.พ (10
มี.ค.) จีน ดุลบัญชีการค้า (8 มี.ค.) ไทย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ. (9 มี.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน “ไร้ปัจจัยบวก...แกว่งตัวในกรอบแคบ”
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามากระตุ้น ขณะที่การประชุมเฟดรอบกลางเดือน มี.ค. โอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ขึ้นมาสูงถึง 96% ทำให้ตลาดหุ้นบ้านเรายังคงต้องเจอแรงขายจากต่างชาติอยู่ แนะนำเก็งกำไรหุ้น Laggard เพื่อลดความเสี่ยงในการเก็งกำไร
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
CPF เก็งกำไร
Demand ไก่ส่งออกยังดูดีโดยเฉพาะตลาดใหม่อย่างเกาหลีใต้หลังสั่งห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกของสหรัฐ
กุ้งยังเติบโตได้ต่อเนื่อง จากคู่แข่งอย่างเอกวาดอร์มีปัญหาในการเลี้ยง
เป็นหุ้น Laggard ปรับตัวลดลง 4.2% YTD เทียบกับ TU ลดลง 2.9%, GFPT เพิ่ม 6.8%, BR ปรับเพิ่มขึ้น 7.8%
AU เก็งกำไร
มองเป็นตัวแทนหุ้น Laggard ในช่วงต้นปี ปรับตัวลดลง 9.8% YTD
ตลาดคาดผลประกอบการ 1Q60 เติบโตต่อจากการขยายสาขาในปีก่อน
ราคาเป้าหมายปี 60 ตาม Bloomberg consensus ที่ 14.20 บาท
ทีมวิเคราะห์