- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 03 March 2017 17:49
- Hits: 3778
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (3/03/60)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “เคลื่อนไหวในกรอบจำกัด”
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้แม้ปิดบวกต่อเนืองวันที่ 2 ตามตลาดภูมิภาคหลังขานรับถ้อยแถลงนโยบาย ปธน. ทรัมป์เกี่ยวกับการกระตุ้น ศก. และการจ้างงาน แต่การเคลื่อนไหวถือว่าค่อนข้างจำกัด หลังในประเทศไม่มีปัจจัยใหม่กระตุ้นตลาด บวกกับหมดรอบประกาศผลประกอบการ บจ. โดยแรงซื้อหลักวานนี้ยังคงมาจากหุ้นกลุ่ม ธพ. จากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่อาจเกิดเร็วกว่าคาด รวมถึงทิศทางดอกเบี้ยในประเทศคาดได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว หนุนดัชนีโดยรวมปิดปรับตัวที่ 1,569.94 จุด เพิ่มขึ้น 2.75 จุด ด้วย Vol. 44,531.53 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ค่าระวางเรือ (BDI) เพิ่มขึ้น 33 จุดมาอยู่ที่ 904 จุด (+3.79%) เป็นปัจจัยบวกสำหรับกลุ่มเรือ TTA, PSL
(+) ราคายางพารา (TOCOM) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย +0.4% มาอยุ่ที่ 306 Yen/Kg.
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA -112.58 จุด (-0.53%) S&P500 (-0.59%) และ Nasdaq (-0.73%) โดยได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่จะประชุมกันในวันที่ 14-15 มี.ค. นี้ โดยผลสำรวจล่าสุดของ CME Group Fedwatch ระบุว่านักลงทุนเชื่อว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยสูงถึง 78% ในการประชุมเดือน มี.ค.
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI -2.3% มาอยู่ที่ 53.83 ดอลลาร์/บาร์เรล จากแรงกดดันต่อเนื่องจากรายงานสต๊อกน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรลและรายงานตัวเลขแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานแล้วสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้น 5 แท่นสู่ระดับ 602 แท่น
(-) นักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิตราสารหนี้ไทยกว่า 13,018 ล้านบาทในช่วง 4 วันที่ผ่านมา
(-) รฟท.เสนอซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง ล้มประมูลก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 สาย แก้ไขทีโออาร์เปิดกว้างให้มีผู้ประมูลมากขึ้น
(-) ท่องเที่ยวภาคเหนือส่อซบเซาลากยาวถึงสงกรานต์หลังไทยปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ จีนหนีเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านแทน
(+/-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวบวกลบสลับกันไป โดย CAC-40 +0.06% DAX -0.06% และ FTSE 100 -0.01%
(+/-) ราคาถ่านหินปรับลดลง -0.7% มาอยู่ที่ 82.2 US/Tons
(+/-) คมนาคม มอบหมายให้การบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ศึกษาโครงสร้างเพดานค่าโดยสารแยกตามรูปแบบการให้บริการของสายการบินระหว่างต้นทุนต่ำกับสายการบินฟูลเซอร์วิสจากปัจจุบันที่ใช้ร่วมกัน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
การแถลงสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ที่ Executives' Club of Chicago ในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ ได้แก่ US ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.พ. และดัชนีภาคการผลิต (ISM) เดือนก.พ.
กลยุทธ์การลงทุน “โมเมนตัม Trump หมด”
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มแกว่งตัวลบ โดยคาดว่าตลาดจะมีแรงขายล็อคกำไรในหุ้นกลุ่มธนาคารที่แกว่งขึ้นก่อนหน้า ประกอบกับได้แรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ยังคงแนะนำเก็งกำไรกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากปัจจัยเฉพาะ เช่น ราคายางมะตอยที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และกลุ่มนิคมฯ ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐ สำหรับหุ้น Big Cap แนะนำทยอยลดน้ำหนัก โดยมองว่ามีปัจจัยหนุนจำกัด
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
AU เก็งกำไร
มองเป็นตัวแทนหุ้น Laggard ในช่วงต้นปี ปรับตัวลดลง 13.8% YTD
ตลาดคาดผลประกอบการ 1Q60 เติบโตต่อจากการขยายสาขาในปีก่อน
ราคาเป้าหมายปี 60 ตาม Bloomberg consensus ที่ 14.20 บาท
CPF เก็งกำไร
Demand ไก่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากต่างประเทศเพราะเกิดไข้หวัดนกที่จีน
กุ้งยังเติบโตได้ต่อเนื่อง จากคู่แข่งอย่างเอกวาดอร์มีปัญหาในการเลี้ยง
คาดกำไรปี 17 โตได้ดี +11% YoY ประกาศจ่ายปันผลที่ 0.45 บาท
ทีมวิเคราะห์