- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 03 March 2017 17:47
- Hits: 3579
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
โอกาส Fed จะขึ้นดอกเบี้ยมีสูง
คาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงวันนี้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลกจากที่คาดการณ์กันมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในการประชุมในระหว่างวันที่ 14-15 มี.ค. นี้ หลังจากที่ผู้บริหารธนาคารกลางสหรัฐต่างออกมาแถลงความเห็นในแนวทางเดียวกันถึงความจำเป็นที่จะต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยในทันทีจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐล่าสุด ดังนั้นความวิตกว่าเงินทุนบางส่วนจะไหลออกจากเอเชียจึงกลับมา ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ไม่น่ามีผลต่อตลาดโดยรวมมากนัก
หุ้นเด่นวันนี้ : TASCO (ราคาปิด 27.00 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายของ AWS ปี 2560 ที่ 33 บาท)
TASCO จะได้ประโยชน์จากดีมานด์ของยางมะตอยที่ดีขึ้นในประเทศจากการทุ่มการใช้จ่ายภาครัฐสำหรับการก่อสร้างและซ่อมถนนในภูมิภาค นอกจากนี้ดีมานด์ในต่างประเทศก็คาดว่าจะมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นอย่างมากในปีนี้หลังจากซบเซาไปเมื่อปีก่อน สัดส่วนการขายยางมะตอยของ TASCO ระหว่างตลาดในประเทศและต่างประเทศคิดเป็น 25%:75% ผู้บริหารบริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายยางมะตอยในปีนี้ที่ 2.4 ล้านตันเพิ่มขึ้น 10% YoY โดยปีที่แล้วยอดขายในประเทศสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 542,000 ตันเพิ่มขึ้น 9% YoY และเราคาดว่าปีนี้ยอดขายจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้คาดว่าในปีนี้ปริมาณการขายต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัดจาก จีน อินโดนีเซีย และเวียดนาม ซึ่งกลับมาเพิ่มงบประมาณซ่อมสร้างถนน หลังจากตัดงบไปเมื่อปีก่อน ราคายางมะตอยในตลาดต่างประเทศราคาปรับเพิ่มขึ้นมาเป็น 310 ดอลลาร์ต่อตันในไตรมาส 1/60 จากระดับที่ต่ำมากในไตรมาส 4/59 ที่ 180 ดอลลาร์ต่อตัน หลังจากที่ผู้ผลิตยางมะตอยรายใหญ่ของเอเชีย คือ SK โฮลดิ้ง จากเกาหลีใต้ ได้ลดการผลิตตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2559 ทำให้ราคายางมะตอยในเอเชียปรับตัวสูงขึ้น TASCO ทำการขายล่วงหน้าในระดับราคาที่สูงไปได้อย่างน้อยจนถึงเดือน เม.ย.60 แล้ว จึงคาดได้ว่างบการเงินครึ่งแรกของปี 2560 จะออกมาดีอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/59 ที่มีกำไร 893 ล้านบาท เรามองว่าธุรกิจยางมะตอยมีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่พักตัวในระดับ 50-60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นระยะเวลานาน หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีนโยบายที่จะให้สหรัฐฯ ขุดเจาะสำรวจ Shale Oil and Gas มาใช้ในประเทศและลดการพึ่งพาการนำเข้า และต่อไปอาจจะส่งออกด้วย เราจึงคาดว่าสเปรดของยางมะตอยในปี 2560 จะกลับมาดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน เราคาดการณ์กำไรสุทธิของ TASCO จะเติบโตแข็งแกร่ง 23% ในปี 2560 และ 10% YoY ในปี 2561 เราแนะนำซื้อ และให้ราคาเป้าหมายที่ 33 บาทอิงกับค่า PER เฉลี่ยของอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างในระดับภูมิภาคที่ 13.5 เท่า มี Upside จากราคาปัจจุบันประมาณ 22% Price Pattern ของ TASCO มีความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลางจากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal โดยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มหลักจากขาลง (Downtrend) ไปสู่แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ยังต้องรอการกลับมาเกิด Monthly Buy Signal ครั้งใหม่เสียก่อน โดยต้องปิดตลาดรายเดือนได้เหนือ 27.25 บาท หากราคาหุ้นสามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือเป้าหมายเบื้องต้นที่ 26.25 บาทไปได้แล้ว จะมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 29.50 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 32.75 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ TASCO มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 25.75 บาท (Resistance: 27.25, 27.50, 28.00; Support: 26.75, 26.50, 26.00)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
สั่งกรมการบินพลเรือนปรับโครงสร้างตั๋วเครื่องบิน ก.คมนาคมฯ สั่งให้กรมการบินพลเรือนเพื่อตรวจสองโครงสร้างต้นทุนที่ใช้คำนวณค่าตั๋วเครื่องบินเพราะโครงสร้างปัจจุบันกำหนดเพดานค่าโดยสารสูงสุด 13 บาทต่อ กม. ถ้าโครงสร้างใหม่กำหนดอัตราได้มากกว่าหนึ่ง เช่น กำหนดแยกเที่ยวบินที่ไม่มีบริการพื้นฐานบนเครื่องบินกับเที่ยวบินที่มีบริการ ราคาค่าโดยสารอาจจะต่ำกว่า 13 บาทต่อ กม. ได้ เพดานค่าโดยสารจะประกาศราวกลางปี 60 (Bangkok Post)
FTA ผลักดันส่งออก ก.ต่างประเทศเปิดเผยว่า ไทยส่งออกสินค้าภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ได้ทำกับประเทศต่าง ๆ ทุกกรอบความตกลงฯ รวมมูลค่าถึง 52,465 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.82% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ที่ใช้สิทธิ 50,534 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิ 56% จากยอดการส่งออกสินค้าที่ได้สิทธิเอฟทีเอรวมมูลค่า 92,907 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงมีช่องทางในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการหันมาใช้สิทธิเอฟทีเอในการส่งออกให้มากขึ้นเพื่อส่งเสริมการเติบโตของการส่งออก (เดลินิวส์)
กสทช.ช่วยจ่ายค่าเช่าโครงข่ายดาวเทียม โดยจะนำเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ(กองทุน กทปส.) วงเงิน 2,500 ล้านบาท มาช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบทีวีดิจิทัลเป็นระยะเวลา 3 ปี ที่ต้องรับภาระจากการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (มัสต์ แครี่) โดยขณะนี้ กสทช.ได้เจรจาเบื้องต้นกับ THCOM (19.10 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 23 บาท) เพื่อขอให้ปรับลดค่าใช้จ่ายลงแต่ทางไทยคมแจ้งว่าไม่สามารถปรับลดราคาลงได้ เนื่องจากราคาที่ให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลเช่าโครงข่ายนั้นเป็นราคาต่ำแล้ว (ไทยรัฐ)
SCC (522.00 บ. ซื้อ ราคาเป้าหมาย AWS 638.00 บ.) ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับ Qatar Petroleum lnternational เพื่อซื้อหุ้นทั้งหมด 25% ของ Qatar Petroleum ที่มีอยู่ใน Long Son Petrochemicals Company Limited ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์แห่งแรกในเวียดนามด้วยกำลังการผลิตโอเลฟินส์ต่อปีที่ 1.6 ล้านตัน ตั้งอยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นตลาดหลักและเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามเพียง 100 กิโลเมตร ธุรกรรมดังกล่าวมีมูลค่า 1.3 พันลบ. ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของ SCC ในโครงการ Long Son เพิ่มขึ้นเป็น 71% จากเดิม 46% ขณะที่ฝ่ายผู้ร่วมทุนเวียดนามยังคงถือสัดส่วน 29% คาดว่าโครงการจะมีข้อสรุปเรื่องการลงทุน (Final lnvestment Decision) ภายในครึ่งแรกของปี 60 ประเมินจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 5 ปี และจะเริ่มผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2564 (SET)ความเห็น: เรามีมุมมองเชิงบวกต่อประเด็นข้างต้นที่โครงการดังกล่าวที่มีความล่าช้ามานานจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ หลังจากผู้ร่วมทุน Qatar ถอนตัวออกไปเมื่อปีที่แล้ว โครงการลงทุนดังกล่าวที่จะผลิตเพื่อการบริโภคในเวียดนามที่มีศักยภาพการเติบโตสูงถือเป็น Upside ต่อประมาณการของเราที่ยังไม่ได้รวมเข้าไปเนื่องจากรอตัวเลขงบลงทุนและรายละเอียดการลงทุนต่างๆ งบดุลที่แข็งแรงของ SCC รวมไปถึงกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งจะช่วยสนับสนุนการลงทุนดังกล่าว
ต่างประเทศ :
นางเจเน็ท เยลเลน ประธานเฟดและนายแสตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟดมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์นี้ และอาจบ่งชี้อย่างชัดเจนว่าจะมีการเคลื่อนไหวขึ้นดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า นายเจอโรม พาวเวลล์ หนึ่งในคณะกรรมการเฟดกล่าวเมื่อวันพฤหัสว่ากรณีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. ได้รับแรงสนับสนุนและจะนำมาพิจารณาเมื่อผู้กำหนดนโยบายพบกันในเดือนนี้ ผลสำรวจล่าสุดของ CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนเชื่อว่ามีโอกาสสูงถึง 80% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายเฟดระหว่างวันที่ 14-15 มี.ค. เพิ่มขึ้นจากที่ระดับ 31% เมื่อวันจันทร์ (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 ปีทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีครึ่งเมื่อวันพฤหัส ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอื่น ๆ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนจากความคาดหวังเพิ่มขึ้นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. นี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี และ 7 ปี แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ที่ 3.092% และ 2.329% ตามลำดับ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 2.032% (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันพฤหัส จากความคาดหวังมากขึ้นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะอันใกล้นี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า 0.45% เทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลที่ระดับ 102.24 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่วันที่ 11 ม.ค. (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงเมื่อวันพฤหัส เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากที่หุ้นปรับตัวขึ้นมากเมื่อวันพุธอันเป็นผลมาจากการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต่อสภาคองเกรสอย่างระมัดระวังและนุ่มนวล ซึ่งทำให้นักลงทุนมองบวกมากขึ้น หุ้นกลุ่มการเงินเป็นตัวนำตลาดลงในขณะที่หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ร่วงหนักหลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐได้เข้าตรวจค้นสำนักงานของบริษัทในรัฐอิลลินอยส์เกี่ยวกับประเด็นกำไรที่ได้รับจากบริษัทย่อยในสวิสฯ (Reuters)
จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงเกือบต่ำสุดในรอบ 44 ปี ชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงตึงตัวแม้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจดูเหมือนจะทรงตัวในระดับปานกลางในไตรมาส 1/59 จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการดังกล่าวลดลง 19,000 รายสู่ระดับ 223,000 รายในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 ก.พ. ซึ่งเป็นจำนวนน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2516 ทั้งนี้ จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการฯ ยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 104 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับแต่ปี 2513 (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดีพักฐาน แม้ว่าบริษัทจดทะเบียนฯ จะรายงานผลประกอบการออกมาดีก็ตาม เนื่องจากช่วงก่อนหน้านี้ตลาดได้ปรับตัวสูงขึ้นไปมากแล้ว (Reuters)
ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนงวด 4Q59 ออกมาน่าประทับใจ โดยกว่า 75% ของหุ้นในดัชนี STOXX600 รายงานกำไรสุทธิเติบโต 12.1% YoY สูงสุดนับตั้งแต่งวด 4Q56 (Reuters)
เงินเฟ้อยูโรโซนเดือนก.พ. ขยายตัวแตะ 2% จาก 1.8% ในเดือนม.ค. ก่อนหน้า ซึ่งนับว่าเข้าสู่เป้าหมายของ ECB ที่ระดับ 2% และอาจนำไปสู่การลดการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินของ ECB (Reuters)
เอเชีย :
อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 13 เดือน: ดัชนีราคาผู้บริโภคหลักของญี่ปุ่น(เงินเฟ้อพื้นฐาน๗เพิ่มขึ้น 0.1% YoY ในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น YoY เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2558 จากการแถลงข้อมูลของรัฐบาลในวันศุกร์ โดยอัตราเงินเฟ้อดังกล่าวเพิ่มขึ้น 0.2% YoY ในเดือนมกราคม เป็นอัตราที่ไม่รวมผลกระทบของการใช้พลังงานและราคาอาหารสด แต่รวมถึงค่าใช้จ่ายอาหารแปรรูป (Reuters)
การใช้จ่ายในครัวเรือนของญี่ปุ่น (ปรับราคาแท้จริงแล้ว) ลดลง 1.2% YoY ในเดือนมกราคม เทียบกับประมาณการเฉลี่ยที่คาดว่าจะลดลง 0.4% (Reuters)
อัตราการว่างงานของญี่ปุ่นลดลงมาอยู่ที่ 3.0% ในเดือนมกราคม และตำแหน่งงานไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนธันวาคม อัตราการว่างงานที่ปรับฤดูกาลตรงกับการคาดการณ์เฉลี่ยของนักเศรษฐศาสตร์ และลดลงเมื่อเทียบกับ 3.1% ในเดือนธันวาคม อัตราส่วนงานต่อการสมัครงานคิดเป็น 1.43 ไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่เดือนธันวาคม (Reuters)
การประชุมประจำปีของจีนของรัฐสภา: สมาชิกผู้แทน 3,000 คน ได้รับมอบหมายให้มีการประชุมประจำปีของรัฐสภาประชาชนแห่งชาติของจีน ในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 5 มีนาคม เป็นเวลา 10 วัน สมาชิกสภานิติบัญญัติของจีนที่ร่วมในการประชุมในปีนี้ จะมีการปฏิรูปและกำหนดขั้นตอนเพื่อลดการพึ่งพาอย่างหนักของจีนเกี่ยวกับสินเชื่อประเภทหนี้และความเสี่ยงเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย นายหลี่ เค่อเฉียง จะประกาศเป้าหมายเศรษฐกิจที่สำคัญ คือเป้าหมายการเติบโตปีนี้ ที่คาดว่าจะลดลงมาที่ 6.5% จากกรอบในปีที่ผ่านมาที่ 6.5-7% ขณะที่เศรษฐกิจจีนขยายตัว 6.7% ในปี 2559 (Reuters)
นักลงทุนต่างชาติลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลของจีนเป็นเดือนที่สองในเดือนกุมภาพันธ์ นักลงทุนต่างชาติถือครองของพันธบัตรตั๋วเงินคลังจีนลดลง 3.8 พันล้านหยวน (552.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ในเดือนที่ผ่านมา มาอยู่ที่ 418 พันล้านหยวน โดยในเดือนมกราคม สถาบันต่างประเทศถือครองพันธบัตรจีนลดลง 1.9 พันล้านหยวน ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันดิบลบกว่า 2% วันพุธ หลังการผลิตของรัสเซียยังไม่เปลี่ยนแปลงใน ก.พ. แสดงว่าการที่ผู้ผลิตน้ำมันร่วมกันลดกำลังผลิตเพื่อลดอุปทานโลกเพื่อแก้ปัญหาน้ำมันล้นตลาด น้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้าส่งมอบ พ.ค. ลบ 1.28 ดอลลาร์สหรัฐ (-2.3%) ปิด 55.08 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐลบ 1.22 ดอลลาร์สหรัฐ (-2.3%) ปิด 52.61 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองคำเป็นลบวันพฤหัสและร่วงรายวันมากสุดนับแต่ ธ.ค. กดดันโดยดอลลาร์สหรัฐที่แข็งแรงขึ้นและคาดการณ์ว่าสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยใน มี.ค. หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีและความเห็นเชิงขึ้นดอกเบี้ยของผู้บริหาร Fed ราคาทองคำตลาดจรลบ 1.3% ปิดที่ 1,232.61 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ รายวันแล้วร่วงหนักสุดนับแต่ 15 ธ.ค. (Reuters)
ทองแดงร่วงจากดอลลาร์แข็งวันพฤหัส หลังจากขึ้นมามากทำให้นักลงทุนพร้อมจะทำกำไร แต่อารมณ์ตลาดก็ยังนาโดยตัวเลขการผลิตจากจีนที่และที่อื่นที่ชี้ว่าอุปสงค์ดีขึ้น ทองแดงอ้างอิงตลาด LME ลบ 1.4% ปิด 5,930 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันจากก่อนหน้านี้ขึ้นสูงสุดนับแต่ 21 ก.พ. เมื่อวานนี้และได้ขึ้นไปสูงสุดรอบ 21 เดือนเมื่อเดือนก่อนเพราะการผลิตติดขัดในชิลีและอินโดนีเซีย (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094