- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 02 March 2017 17:53
- Hits: 1625
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
โมเมนตัมเป็นบวกต่อ
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ SET Index บวกขึ้น 7.63 จุดปิดที่ 1567.19 โดยมีแรงซื้อในกลุ่มแบงค์ พลังงาน และหุ้นกลาง-เล็กที่มีแนวโน้มกำไรเติบโตดีในปี 60 ส่วนสุนทรพจน์ทรัมป์ถือว่าค่อนไปทางบวกในแง่ที่ยืนยันดำเนินการตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้แม้ว่าบางเรื่องจะถูกคัดค้านจากหลายฝ่าย เช่น เรื่องการเพิ่มงบด้านกลาโหมแต่ตัดงบด้านต่างประเทศ หรือบางเรื่องอาจทำได้ยาก เช่น การยกเลิกโอบามาแคร์ เป็นต้น นักลงทุนสถาบันในประเทศนำซื้อสุทธิ ส่วนต่างชาติและรายย่อยขายสุทธิ สำหรับปัจจัยสำคัญในช่วงนี้ ได้แก่
+ ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นแรงทำ Record High (ดัชนี DJIA พุ่งขึ้น 303 จุด) ตอบรับนโยบายทรัมป์ที่จะอัดฉีดเงิน 1 ล้านล้านUS$ ลงทุนสาธารณูปโภค จะลดภาษีภาคธุรกิจ & ชนชั้นกลาง ผ่อนคลายกฎระเบียบภาคการเงิน & อุตสาหกรรม
• จับตาประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์ศุกร์ 3 มี.ค.นี้ เพื่อจับสัญญาณดอกเบี้ย ล่าสุดโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยกลางมี.ค.พุ่งขึ้นเป็น 69%
• ราคาน้ำมันดิบทรงตัว แม้สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะเพิ่มสู่ระดับ Record High แต่กลุ่มโอเปกก็ลดการผลิตต่อในเดือนก.พ.60
+ CPN : จับมือกับ DTC พัฒนาที่ดินทรัพย์สินฯเป็น Mixed Use บริเวณแยกสีลม เรามองเป็นบวกในระยะยาว ส่วนธุรกิจให้เช่าพื้นที่บริษัทไปได้ดี OR Rate 4Q59 ยังสูงที่ 94% กำไรปีก่อน +17% คาดปี 60 +8% และปี 61 +24% แนะนำซื้อลงทุน ราคาพื้นฐาน 70 บาท
• FN : ปรับลดราคาพื้นฐานเป็น 9.60 บาท (เดิม 10.40 บาท) แต่การเติบโตในปี 60-61 ยังสูงจากการเปิด Outlet ใหม่และ SSSG ที่โตดีขึ้น คาดกำไรปี 60-61 จะ +60% และ +36% ฐานะการเงินเป็นเงินสดสุทธิ คาด P/E ที่เกือบ 40 เท่าจะลดเหลือ 20 เท่าต้นๆใน 2 ปีข้างหน้า
• จัดพอร์ตบนความสมดุลของ Risk & Return (แบ่งเป็น 3 หมวด : หุ้นปันผล, หุ้นมั่นคง และหุ้นเติบโต) และทำ Re-balancing ต่อเนื่อง สำหรับหุ้น Top Picks เดือนมี.ค.60 ประกอบด้วย AJ, LH, MTLS, TCAP, TU ส่วน Dark Horse เป็น BEAUTY หุ้นกลยุทธ์พื้นฐานดีที่แนะนำวันนี้เป็น AJ
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพเป็นบวกเล็กๆ เน้นซื้อค่าบวก แนวต้าน 1570-1580 จุด การอ่อนตัวต่ำกว่า 1560 ควรลดพอร์ตตาม
สำหรับการ SCAN หุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ SAWAD, PTTGC, MEGA ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ HANA, SPCG, KKP, DELTA, GLOBAL, JMART, SINGER, GFPT, AJ หุ้นแนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะ Take Profit คือ AMATA, TCAP, TPOLY หุ้นหลุด List เป็น MALEE
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ :
+ จีน : PMI ภาคการผลิตเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น แต่ PMI ภาคบริการอ่อนลงเล็กน้อย
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.พ.เพิ่มเป็น 51.6 จากเดือนม.ค.ที่ 51.3 ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ส่วนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.พ.ขยายตัวที่ระดับ 54.2 ชะลอตัวลงจากระดับของเดือนม.ค.ที่ 54.6 แต่ยังอยู่เหนือ 50 บ่งชี้ว่าขยายตัวได้ต่อเนื่อง สำหรับดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตที่มาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน พบว่าเพิ่มเป็น 51.7 ในเดือนก.พ. จาก 51.0 ในเดือนม.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 50.8 ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน
•/- อังกฤษ : สภาขุนนางแปรญัตติร่างกฎหมายทำให้การเดินหน้า Brexit ต้องใช้เวลามากขึ้น
รัฐสภาอังกฤษแปรญัตติร่างกฎหมายว่าด้วยการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยระบุว่าคณะรัฐมนตรีอังกฤษควรรับประกันสิทธิของพลเมืองชาติต่างๆที่เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) ให้มีสิทธิอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษได้ หลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU แล้ว โดยได้รับความเห็นชอบจากสภาขุนนาง (House of Lords) ของอังกฤษด้วยคะแนนเสียง 358 ต่อ 256 เสียง อย่างไรก็ตาม นางเทเรซา เมย์ ยังสามารถใช้อำนาจในการคว่ำญัตติดังกล่าวได้เมื่อร่างกฎหมายฉบับนี้ถูกส่งกลับไปยังสภาสามัญชน (House of Commons) ซึ่งถ้าร่างกฎหมายนี้ผ่าน นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ จะสามารถประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป เพื่อให้อังกฤษเริ่มต้นกระบวนการเจรจาเป็นเวลา 2 ปี สำหรับการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปได้ทันที
+/• ทรัมป์แถลงสภาคองเกรส...ยืนยันเดินหน้านโยบายตามที่หาเสียงไว้
ทรัมป์แถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ (1 มี.ค.60) ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1) ประเด็นนโยบายคนเข้าเมือง – กล่าวว่าจะใช้มาตรการคัดกรองรูปแบบใหม่ โดยจะลดความเข้มข้นลงบ้างเพื่อกำจัดผู้ไม่ประสงค์ดีให้ออกไปจากอเมริกา จะคัดเลือกแรงงานต่างชาติที่มีฝีมือมากขึ้น การก่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดนระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโกจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน (แต่ยังไม่ได้ระบุว่าใครจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย)
2) ประเด็นเกี่ยวกับระบบประกันสุขภาพ – ทรัมป์กล่าวกระตุ้นให้สภาคองเกรสเร่งหามาตรการใหม่แทนที่โอบามาแคร์ โดยยึดหลักการว่าจะต้อง "ถูกกว่า ดีกว่า และครอบคลุมมากกว่า"
3) ประเด็นเรื่องภาษี – จะลดภาษีรายได้นิติบุคคลเพื่อเพิ่มการแข่งขันให้กับภาคธุรกิจสหรัฐ และจะลดภาษีให้กับชนชั้นกลาง แต่ยังไม่ระบุรายละเอียด ซึ่งกฎหมายนี้ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส
4) ด้านนโยบายปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐาน – ทรัมป์จะเสนอให้สภาคองเกรสอนุมัติงบประมาณในส่วนดังกล่าว 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 35 ล้านล้านบาท ) เพื่อสนับสนุนการลงทุน
5) ประเด็นเรื่องการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม –ยังคงย้ำถึงการเพิ่มงบประมาณให้กับหน่วยงานด้านความมั่นคงอีก 10% เป็น 604,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 21.1 ล้านล้านบาท ) พร้อมทั้งให้คำมั่นเรื่องการเพิ่มความร่วมมือกับพันธมิตรในการกวาดล้างกลุ่ม IS และการสนับสนุนนาโต้ (แต่เรื่องนี้ถูกคัดค้านอย่างมากจากแกนนำพรรครีพับลิกันเอง)
• สหรัฐ : จับตาสุนทรพจน์ของประธานเฟดศุกร์นี้
นักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่ Executives' Club of Chicago ในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ทั้งนี้ CME Group FedWatch ระบุว่าภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐบ่งชี้ว่านักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 69% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 14-15 มี.ค.นี้
กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) +0.4%MoM และ +1.9%YoY ในเดือนม.ค.2017 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2013 ขณะที่ดัชนี PCE พื้นฐาน +0.3%MoM ในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2012
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ : ดัชนี DJIA ปิดพุ่งขึ้น 303.31 จุด
ดัชนี DJIA ปิดที่ 21,115.55 จุด พุ่งขึ้น 303.31 จุด หรือ +1.46% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,904.03 จุด เพิ่มขึ้น 78.59 จุด หรือ +1.35% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,395.96 จุด เพิ่มขึ้น 32.32 จุด หรือ +1.37% ตลาดหุ้นคึกคักหลังทรัปม์ประกาศแผนลงทุนสาธารณูปโภค 1 ล้านล้านUS$ และประกาศแผนการปฏิรูประบบประกันสุขภาพ การปฏิรูประบบตรวจคนเข้าเมือง แผนปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับชนชั้นกลาง & ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับภาคธุรกิจ การผ่อนคลายกฎระเบียบภาคการเงินและอุตสาหกรรม นอกจากนั้นการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดทำให้ภาคธนาคารจะมีความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น
• สัญญาน้ำมันดิบ : แกว่งแคบๆ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 18 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 53.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 56.36 ดอลลาร์/บาร์เรล โดย EIA ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 520.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ราคาน้ำมันไม่ได้อ่อนลงมากเพราะมีรายงานว่ากลุ่มโอเปกลดการผลิตลงต่อในเดือนก.พ.และขณะนี้ให้ความร่วมมือลดกำลังการผลิตถึง 94%
- สัญญาทองคำ : อ่อนลงต่อ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 3.9 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ระดับ 1,250.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ.ปีนี้ เนื่องจากค่าเงิน US$ แข็งขึ้นตอบรับโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมกลางมี.ค.60 ที่เพิ่มขึ้นมาก และเชื่อว่ามาตรการทรัมป์จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
ปัจจัยในประเทศ :
• เงินเฟ้อทั่วไปเดือนก.พ.อยู่ที่ 1.44% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานยังต่ำที่ 0.59%
กระทรวงพาณิชย์แถลงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนก.พ.60 อยู่ที่ 100.79 ขยายตัวที่ +1.44%YoY (ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ +1.6%) และ +0.04%MoM มีผลให้ CPI เฉลี่ยช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ +1.49%YoY โดยหลักมาจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน ด้านดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) อยู่ที่ 101.07 ขยายตัวที่ +0.59%YoY และ +0.02%MoM เงินเฟ้อเดือนก.พ.ที่เพิ่มขึ้นมาจากดัชนีสินค้าที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มซึ่ง +1.68%YoY และ +0.15%MoM ส่วนดัชนีสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม +1.00%YoY แต่ -0.15%MoM
ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นก็จริงแต่ยังไม่กดดัน โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังต่ำกว่า 1% มาก เราจึงคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะทรงตัวที่ 1.5% ตลอดปีนี้ แต่ Bond Yield จะขยับขึ้นตาม US Bond Yield ที่เพิ่มขึ้น
ราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น คือ ไก่สด กุ้งขาว กระเทียม อาหารสำเร็จรูป (สอดคล้องกับตัวเลขราคาไก่ที่ปรับขึ้นเป็น 38+/- บาท/กก.ในเดือนก.พ.60 จากเฉลี่ย 30 บาท/กก.ใน 4Q59 ซึ่งเป็นผลดีกับผู้ประกอบการไก่ หุ้นเด่น คือ GFPT ราคาพื้นฐาน 17.80 บาท) ส่วนที่ราคาลดลงเป็น ข้าวสารเจ้า เนื้อหมู ผักและผลไม้ น้ำมันพืช และไข่ไก่ (ซึ่งราคาเนื้อหมูที่ลดลงส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเช่น CPF แต่ส่วนหนึ่งได้รับการชดเชยจากราคาไก่ในประเทศที่เพิ่มขึ้นดี)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]