- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 02 March 2017 17:32
- Hits: 1485
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดในแดนบวกปรับตัวขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับแกว่งตัวแคบ ๆ ที่จุดต่ำสุดของวันที่ 1559.85 จุด เพิ่มขึ้น 0.29 จุด ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับจากหุ้นขนาดใหญ่ช่วยดันดัชนีขึ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ 1567.36 จุด เพิ่มขึ้น 7.80 จุด ส่งผลให้กรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันอยู่ที่ 7.51 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวขึ้นของดัชนีได้แก่ TRUE, PTT, STA, ADVANC, KBANK, PTTGC, BBL, SAWAD, SCC ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1567.19 จุด เพิ่มขึ้น 7.63 จุด (+0.49%) มูลค่าการซื้อขาย 42,034 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้ยังคงเดินหน้าฟื้นตัวต่อ ถึงแม้ในช่วงเช้ามีอาการลังเลในการเลือกทิศทาง ด้วยการแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ ทำ Low 1559 จุด ก่อนที่ภาคบ่ายมีแรงซื้อเข้ามาช่วยดันดัชนีขึ้นทำ High ที่ 1567 จุด พร้อมกับทำปิดที่จุดสูงสุดของวัน ส่งผลทำให้แนวโน้มกลับดูดีอีกครั้ง จากภาพของกราฟแท่งเทียนที่ยก High-Low สูงขึ้นเป็นวันที่ 2 จนกลับขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน และเกิดสัญญาณในเชิงบวกทั้ง Stochastic // RSI ทำให้ Momentum ของการไปต่อนั้นยังมีอยู่ มองแนวต้าน 1575-1580 จุด แนวรับ 1560-1565 จุด
แกว่งตัวผันผวน
Support 1560 // 1550-1546 จุด Resistance 1590-1600 // 1619 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(+) กลุ่มเหล็ก : จีนจ่อลดคนงานเหล็กและถ่านหิน 5 แสนอัตรา
(+) SQ : รายงานกำไร 4Q16 เติบโตเหนือคาด รับรายได้โครงการใหม่เพิ่ม
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
สิ่งที่เกิดขึ้น 2 เรื่องพร้อมกันวานนี้ คือ การพูดถึงนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่สำคัญๆ จะเป็นแผนลงทุนด้านสาธารณูปโภค และแผนการลดภาษี รวมทั้งอีกหลายๆนโยบายที่ใช้ตอนหาเสียง โดยไม่ได้มีความต่างกัน นั่นหมายความว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯจะเดินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ตามที่เคยพูดไว้ เท่ากับ confirm หรือทำให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจมากขึ้น เป็นบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯโดยตรง และเรื่องที่สองที่เกี่ยวเนื่องกัน คือ ด้วยความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจที่จะขยายตัวจากนโยบายเศรษฐกิจดังกล่าว ทำให้โอกาสที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 14-15 มี.ค.นี้มีมากขึ้นตามไปด้วย ผนวกกับการแสดงความเห็นของ ประธาน Fed สาขาเซนต์หลุยส์และนิวยอร์ก ที่ออกมาสนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ทั้งนี้ ในสัปดาห์นี้ ประธาน Fed หลายท่านขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในหลายๆสถานที่ ........ ค่าความน่าจะเป็นของการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed เดือน มี.ค. ปรับขึ้นจาก 52% เป็น 80% ในคืนที่ผ่านมา ตอกย้ำว่านักลงทุนเชื่อมั่นว่า Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้มากขึ้นในทันทีทันใด
ราคาน้ำมันดิบ (WTI) ปิดที่ $53.83 เหรียญ ลดลงจากวันก่อนเป็นผลจาก stock น้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล รายงานโดย EIA ในคืนที่ผ่านมา นอกจากนี้ คาดจะเป็นผลจากค่าเงินดลล่าร์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ว่าไปแล้วราคาน้ำมันดิบ ได้รับผลลบจากปัจจัยภายนอกมากกว่า ....... ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งโลหะและสินค้าเกษตร ปรับตัวสูงขึ้นจากวันก่อน
ปัจจัยในประเทศ เป็นเรื่องของผลการดำเนินงานวันสุดท้ายของการส่งงบ โดยกำไรสุทธิของบริษัทในตลาด (SET) จากการเก็บข้อมูลเบื้องต้นของ KTBST อยู่ที่ 8.7 แสนล้านบาท +40.6% YoY ซึ่งเป็นกำไรที่ออกมาดีกว่าที่คาดไว้มาก โดยเราคาดว่า กำไรจะขยายตัวประมาณ 29% ขณะที่กำไรของบริษัทใน MAI อยู่ที่ 8.2 พันล้านบาท +20.1% YoY
ทิศทางตลาดหุ้น ปัจจัยบวกของการแถลงนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นบวกต่อตลาดตรงที่นักลงทุนขายหุ้นหรือชะลอการลงทุนออกไปก่อนหน้านี้ พอผลออกมาเป็นบวกจึงกลับมาซื้อหุ้น แต่ถึงกระนั้น ตัวแปรที่ตามมาคือ โอกาสที่ Fed จะปรับดอกเบี้ยขึ้นมีมากขึ้นตามไปด้วย จะเป็นตัวถ่วงตลาดเพราะอาจเกิดการขายหรือปรับพอร์ตของนักลงทุนตามดอกเบี้ยและค่าเงินดออล่าร์สหรัฐฯ ภาพตลาดหุ้นวันนี้ จึงน่าจะเห็นความผันผวนทั้งจากการทำ cover short และการขายหุ้นของนักลงทุนที่มีความกังวลในเรื่อง Fund Flow ซึ่งจะทำให้ดัชนีฯบวกได้ก็ไม่มากนัก
กลยุทธ์การลงทุน ตลาดอาจยังมี momentum ที่จะไปต่อ ด้วยผลการดำเนินงานของตลาดและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่มีทิศทางที่ดี ...... กลยุทธ์การลงทุน เราแนะให้ถือหุ้นใหญ่ที่แนวโน้มผลการดำเนินงานยังดีและอิงกับภาวะเศรษฐกิจ นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มที่คาดได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจและดอกเบี้ยสหรัฐฯ น่าจะเป็นกลุ่มธนาคาร ขณะที่กลุ่มส่งออกแม้แนวโน้มจะดีตามแต่อาจมีเรื่องการแข็งค่าของเงินบาทเป็นตัวถ่วง......... ในการเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิเช่น TCAP , KSL , SVI , S11 , LPN , SAMART
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (01 มี.ค.) - SET Index ปิดที่ระดับ 1,567.19 จุด เพิ่มขึ้น 7.63 จุด หรือ +0.49% มูลค่าการซื้อขาย 42,033.67 ล้านบาท มองตลาดฟื้นตัวได้จากสัญญาณทางเทคนิค อีกทั้งนักลงทุนส่วนใหญ่มีผลตอบรับต่อการแถลงนโยบายทรัมป์ต่อสภาคองเกรสในเชิงบวก
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเหนือ 21,000 จุดที่ระดับ 21,115.55 จุด พุ่งขึ้น 303.31 จุด หรือ +1.46% หลังผลตอบรับการแถลงนโยบายทรัมป์ต่อสภาคองเกรสออกมาในทิศทางที่เป็นบวก เช่นเดียวกับ Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น +1.5% ปิดที่ 375.69 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 18 เซนต์ หรือ -0.3% ปิดที่ 53.83 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นโยบายสหรัฐฯ - ทรัมป์ได้ระบุว่า เขามีแผนที่จะทุ่มงบประมาณจำนวน 1 ล้านล้านดอลลาร์ในการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภค นอกจากนี้รัฐบาลจะปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับชนชั้นกลาง และลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับภาคธุรกิจ, ปฏิรูประบบประกันสุขภาพ และการตรวจคนเข้าเมือง
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2013
เศรษฐกิจจีน - ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า ทางธนาคารกลางได้อัดฉีดเม็ดเงิน 3.935 แสนล้านหยวน (5.72 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าสู่ตลาดผ่านทางโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ในเดือนก.พ.
เศรษฐกิจญี่ปุ่น - BOJ กล่าวแสดงความเห็นว่า ยังคงเป็นเรื่องยากที่ญี่ปุ่นจะหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดเรื้อรัง แม้ว่า BOJ ได้ใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินมูลค่ามหาศาลในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาแล้วก็ตาม
BREXIT- รัฐบาลอังกฤษภายใต้การนำของนางเทเรซา เมย์ ต้องเผชิญแรงกดดันครั้งใหม่ หลังจากรัฐสภาอังกฤษได้ทำการแปรญัตติร่างกฎหมายว่าด้วยการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยระบุว่า คณะรัฐมนตรีอังกฤษควรรับประกันสิทธิของพลเมืองชาติต่างๆที่เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) ให้มีสิทธิอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษได้ หลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU แล้ว
น้ำมัน - EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ได้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากปรับตัวขึ้น 8 สัปดาห์ติดต่อกัน
เศรษฐกิจไทย - ธปท. รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือน ก.พ.ปีนี้ ว่า ปรับลดลงเล็กน้อย จากเดือนก่อนอยู่ที่ระดับ 50.1 ลงมา อยู่ที่ระดับ 49.8 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่า 50 สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เชื่อมั่นของภาคธุรกิจ
ธุรกิจการเงิน- "ประยุทธ์" ประกาศนโยบายแก้หนี้นอกระบบ ครบวงจร ขีดเส้นกวาดล้างเจ้าหนี้ 2 แสนรายภายใน2ปี ขู่เอาผิดข้าราชการเอื้อทวงหนี้ เร่งลงทะเบียน ผู้มีรายได้น้อยในปี 60 หลังพบข้อมูลปี59 แจ้งหนี้นอกระบบ1ล้านรายวงเงินรวมกว่า 8.6 หมื่นล้านบาท ขณะคลังสั่งสรรพากรลุยสอบเจ้าหนี้นอกระบบรายใหญ่กว่า 100 รายทั่วประเทศ ย้ำเอาผิดทันทีหากพบคิดดอกเบี้ยเกิน
News Release :
บจ.กำไรสนั่น8.8แสนล.พีอีตลาดลดฮวบ16.5เท่า "สมคิด"มองโลกสวยบจ.ปี60โต10%
+659 บริษัทจดทะเบียนกำไรปี 59 สนั่น 8.8 แสนล้านบาท โต 26.5% จากปีก่อน กดพี/อีตลาดฯเหลือ 16.5 เท่า จากเดิม 18-19 เท่า ขณะที่ปี 60 "สมคิด" มั่นใจผลประกอบการโตต่อเนื่อง โบรกฯ ให้เป้ากำไร 9.5 แสนล้าน โตกว่า 10% แนะกลุ่มปิโตรฯ PTTGC, IVL, IRPC แบงก์ SCB, BBL, KBANK และค้าปลีก BIGC เติบโตดี(ข่าวหุ้น)
SQ กำไรโตกระฉูด264% แบ็กล็อกพุ่ง3.9หมื่นล้าน
+"SQ" ฟันกำไรปี 59 แกร่ง 323 ล้านบาท โตก้าวกระโดด 264% บุ๊ครายได้โครงเหมืองแม่เมาะ-เหมืองหงสาเต็มเหนี่ยว หนุนกำไรพุ่ง โชว์แบ็กล็อกทุบสถิติสูงสุด 39,000 ล้านบาท ล็อกเป้ารายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง(ข่าวหุ้น)
ITEL ส่งซิกปี60กำไรพุ่งกระฉูดทุ่มลงทุน 300 ล.
+"ITEL" แย้มผลงานปี 60 คาดกำไรโตก้าวกระโดดจากปี 59 ลั่นปั๊มรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ตุนแบ็กล็อกเต็มมือ 1,133 ล้านบาท พร้อมทุ่ม 300 ล้านบาท ลุยสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แห่งที่ 2 และขยายโครงข่ายใยแก้วนำแสง หวังเพิ่มรายได้ (ข่าวหุ้น)
เจ้าหนี้รอเช็กบิล IFECจี้"หมอวิชัย"ตั้งบอร์ด
-บลจ.แอสเซท พลัส รอ IFEC ประชุมบอร์ด ขู่หากยังยืดเยื้อ เตรียมแผนเด็ดทวงหนี้ตั๋วบี/อี 300 ล้านบาท ครบดีลวันที่ 10 เม.ย.ไว้แล้ว ด้าน "ทวิช" จี้ "หมอวิชัย" เลิกยื้อจดทะเบียนตั้งบอร์ดใหม่ ตลท.ขึ้น SP อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ พร้อม NP กรณีไม่ตั้งบอร์ดใหม่(ข่าวหุ้น)
รับเหมาเล็กโชว์กำไรเจ๋ง NWR-TPOLYสัญญาณดี
+กลุ่มรับเหมาเล็ก 'NWR-PLE-TPOLY' โชว์ผลงานปี 2559 ยอดเยี่ยมพลิกเป็นกำไรถ้วนหน้า หลังรับรู้จากมูลค่างานในมือเพิ่มขึ้น ด้าน SYNTEC-UNIQ เติบโต 20-35% ส่วนปี 2560 นับเป็นปีทองของกลุ่มหลังมีงานประมูลเพียบ และทยอยเซ็นงานเติมแบ็กล็อก รองรับรายได้ในอนาคต(ทันหุ้น)
MINTยิ้มรับท่องเที่ยวฟื้น อานิสงส์ไฮซีซันอัพงบโต
+MINT เฮ! รับอานิสงส์การท่องเที่ยวฟื้น จับตางบไตรมาส 1/2560 โดดเด่น เร่งเครื่องปรับปรุงห้องพักทั้งในและต่างประเทศ หวังอัพราคาห้องจ่อรับทรัพย์ขายวิลล่า จ.ภูเก็ต มูลค่ากว่าพันล้านบาทเข้ากระเป๋า หนุนผลงานปี 2560 เติบโตต่อเนื่อง โบรกส่งซิกผลงานปี 2560 แจ่ม เคาะเป้า 43.00 บาท(ทันหุ้น)
BHรุกขยายฐาน ตลาดไฮเอนด์ จับตากำไรสวย
+BH มองเศรษฐกิจปี 2560 ฟื้นตัว เร่งเครื่องขยายฐานลูกค้าระดับบนทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อเนื่อง หนุนผลงานปีนี้แจ่ม ฟากนักวิเคราะห์ส่องกำไรปีนี้ทะลุ 4 พันล้านบาท พุ่งขึ้น 10.4% เชียร์ "ซื้อ" เคาะเป้า 203 บาท(ทันหุ้น)
MFECเดินหน้าเสริมแกร่ง รุกสร้างโมเดลนวัตกรรม
+MFEC เปิดแผนธุรกิจปี 2560 เน้นสร้างนวัตกรรมโมเดลธุรกิจร่วมกับลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงการร่วมทุนกับพนักงาน MFEC ที่มีศักยภาพ และมีความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างธุรกิจ ล่าสุดตั้งบริษัท "Playtorium Solutions" ดำเนินธุรกิจให้บริการทดสอบซอฟต์แวร์แบบครบวงจร(ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ : มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์