- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 02 March 2017 17:29
- Hits: 1418
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index : แกว่งแคบ
SET Index : 1571.12 ปรับตัวขึ้นในกรอบแคบ ตลาดมีแรงขายทำกำไรบริเวณ 1570 จุด หาก SET สามารถยืนเหนือระดับ 1570 จุดได้ มีแนวโน้มจะไปทดสอบแนวต้านถัดไป 1580 จุด อย่างไรก็ตามหาก SET หลุด 1570 จุด มีแนวโน้มลงทดสอบแนวรับ 1560 จุด และ 1540 จุด
แนวต้าน : 1575 และ 1580
แนวรับ : 1565 และ 1560
BANPU = 20.50 / 19.60, CBG = 58.00 / 61.50, TRUE = 6.35 / 6.55, SCB = 154.50 / 156.50, SCC = 520.0 / 528.0
MC Group (MC TB; THB 18.40) - ซื้อ
แนวต้าน : 18.80 และ 19.40
แนวรับ : 18.30 และ 18.10
ราคาหุ้นฟื้นตัวต่อเนื่อง และสามารถยืนเหนือระดับ 18 บาท คาดว่าราคามีแนวโน้ม ปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านเดิมบริเวณ 19.00 - 20.00 บาท
MACD แกว่งเหนือค่าเส้นเฉลี่ย
แนะนำซื้อ MC โดยมีแนวรับที่ 18.30 และ 18.10 และมีแนวต้านที่ 18.80 และ 19.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 18.00 ลงไป
SUSCO (SUSCO TB; THB 4.18) - ซื้อ
แนวต้าน : 4.26 และ 4.36
แนวรับ : 4.18 และ 4.16
ราคาหุ้นรีบาวด์ หลังปรับฐานบริเวณ 4.06 บาท คาดว่าราคามีแนวโน้มปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 4.26-4.36 บาท หากราคายืนเหนือ 4.16 บาทได้แข็งแกร่ง
RSI มีแนวโน้มปรับขึ้น
แนะนำซื้อ SUSCO โดยมีแนวรับที่ 4.18 และ 4.16 และมีแนวต้านที่ 4.26 และ 4.36 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.10 ลงไป
Analysts : Pornvilai Santusatharom +662 657-9230 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…รีบาวน์ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ
หลังดัชนีตลาดหุ้นไทย (MSCI Thailand รูปดอลลาร์) ในปี 2016 ขึ้นได้แรงสุดในบรรดาตลาดหุ้นเกิดใหม่เอเชียที่ประมาณ 23% แต่กลับเปิดขึ้นมาในปีนี้ ปรากฏว่าขึ้นได้แค่ 4% เทียบภูมิภาคที่ประมาณ 10% (รูปด้านซ้าย) ซึ่งเป็นอัตราการขึ้นที่ต่ำมากๆ โดยประเด็นมาจากแรงขายทากำไรมากกว่าอย่างอื่นๆ หลังตลาดหุ้นไทยขึ้นมาแรง ขณะที่ตลาดไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ โดยงบ Q4/16 ของหุ้นในกลุ่มหลักอย่าง ธนาคารพาณิชย์ อสังหาริมทรัพย์ สื่อสาร ค้าปลีก ท่องเที่ยว อาหาร-เครื่องดื่ม ออกมาในเชิงประคับประคองตัว นอกจากนั้นการที่ตัวเลข NPL ของกลุ่มธนาคารยังเพิ่มขึ้น ยังเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ปริมาณการซื้อขายที่เริ่มเบาบาง ทั้งจากฝั่งของต่างประเทศและนักลงทุนในประเทศ กำลังเป็นปัจจัยบ่งชี้ในเห็นว่าตลาดหุ้นไทย น่าจะยังเผชิญกับความซบเซา จนกว่าจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการลงทุนจากต่างประเทศ โดยสัญญาณล่าสุด ที่กำลังบ่งบอกถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่อาจจะยังล่าช้า คือ ตัวเลขการลงทุนและการบริโภคของภาคเอกชน ประจำเดือน ม.ค, ที่กลับมาชะลอตัวหลังหมดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่วนการฟื้นตัวของภาคส่งออก คาดยังต้องจับตานโยบายทางการค้าของสหรัฐและค่าเงินบาทที่ยังแข็งตัว ส่วนมาตรการลงทุนของภาครัฐ คาดเม็ดเงินที่จะไหลเข้าสู่ระบบ ยังต้องใช้เวลา
หากยังไม่เห็นสัญญาณในเชิงบวกใหม่ๆ เข้าหนุนตลาดในเดือน มี.ค. คาดดัชนี SET จะซึมลง แต่หากมี เรามองว่าน่าจะเป็นสัญญาณชั่วคราวที่เกิดขึ้นจากภายนอก อย่างการขานรับนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าตลาดหุ้นสหรัฐ จะเป็นไปได้ 2 ทาง คือ ขึ้นต่อช่วงสั้นและปรับตัวลงแรง โดยมีปัจจัยกดดันจาก แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐในเดือน มี.ค. ตลาดหุ้นสหรัฐกำลังแพงสุดๆ และน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มลดลง หลังเพิ่มขึ้นติดต่อกันมาตั้งแต่เดือน พ.ย. จากความกังวลเรื่องการเลือกตั้งในยุโรปและการ Valuation
ตลาดหุ้นไทยเองตอนนี้มีจุดด้อยคือ แรงซื้อของต่างชาติและการถือครองหุ้นของต่างชาติ (Foreign ownership) ในตลาดหุ้นไทยต่ำมากๆ แรงซื้อขายของต่างชาติจะเป็นในลักษณะเล่นสั้น ดังนั้นการขึ้นของดัชนี SET มักจะไปไม่ได้ไกล เพราะทุกกลุ่มกลับเล่นสั้นกันหมด ทำให้โอกาสการลงของดัชนี SET มีสูงขึ้นเรื่อยๆ หากมาดูผ่าน การทำ Trend line ของค่าเบี่ยงเบนทั้ง +/-1 และ +/-2 SD ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา จะพบว่าตอนนี้ดัชนี SET น่าจะลงมาที่เส้น -1SD ซึ่งจะอยู่ที่กรอบ 1530+/- จุด แต่หากหลุดก็ลงมาที่ 1500+/-หรือต่ำกว่า แต่หากไม่หลุด 1550+/- จุด ดัชนี SET ก็ยังขึ้นได้ไม่ไกล
หลังการแถลงนโยบายของนาย Donald trump ต่อสภาคองเกรส เมื่อวานนี้ปรากฏว่าปธน.ทรัมปัได้ประกาศแผนการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ อีกทั้งได้ประกาศแผนการปฏิรูประบบประกันสุขภาพ การปฏิรูประบบตรวจคนเข้าเมือง และแผนปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับชนชั้นกลาง และลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับภาคธุรกิจ โดยตลาดมองว่า การที่ปธน.ทรัมปัไม่ได้ส่งสัญญาณถึงการใช้นโยบายกีดกันการค้าในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ ยังช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า และเป็นปัจจัยที่จะช่วยหนุนตลาดหุ้นทั่วโลกให้พุ่งขึ้นด้วย จากผลดังกล่าวเราคาดว่า SET Index จะมีการฟื้นตัวตามตลาดหุ้นต่างประเทศ นำโดยกลุ่มธนาคาร พลังงานและค้าปลีก นอกจากนั้นหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการลดภาษีนิติบุคคลของสหรัฐอย่าง IVL TU ก็คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้เช่นกัน วันนี้เราให้แนวรับที่ 1555-1560 จุด และแนวต้านที่ 1572-1580 จุด หุ้นแนะนำในวันนี้คือ BR SAWAD SGP SCB
Analysts : Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,571.12 จุด เพิ่มขึ้น 3.93 จุด (+0.25%) มูลค่าการซื้อขาย 21,474.20 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ ตลาดตอบสนองในเชิงบวกน้อยกว่าคาดเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาดูแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งจะมีการประชุม 14-15 มี.ค.นี้
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งแคบ SET ยังคงแกว่งบริเวณ 1570 จุด หากสามารถยืนเหนือระดับ 1570 จุดได้แข็งแกร่ง คาดว่ามีแนวโน้มจะไปทดสอบแนวต้านถัดไป 1580 จุด อย่างไรก็ตามหาก SET หลุด 1570 จุด มีแนวโน้มลงทดสอบแนวรับ 1560 จุด และ 1540 จุด
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
MC Group (MC TB; THB 18.40) - ซื้อ
SUSCO (SUSCO TB; THB 4.18) - ซื้อ
Cash Balance preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : CBG*, PPM* (กรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts : Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]