- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 01 March 2017 17:49
- Hits: 3677
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้มีความพยายามฟื้นตัว นำโดยหุ้นหลักอย่าง BANPU / CPALL แต่ก็ไม่สามารถยืนเหนือ 1,560 จุดได้ อีกทั้งการปรับน้ำหนักดัชนี MSCI วันนี้ ทำให้หุ้นหลักบางตัวเกิดแรงขายในช่วงท้ายตลาด ภายใต้มูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง 37,390 ล้านบาท กดให้ SET INDEX บวกเพียง 1.53 จุดมาอยู่ที่ 1,559.56 จุด
ทั้งนี้ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 มากถึง 1,105 ล้านบาท จากผลของ MSCI ขณะที่ SET50 Index Futures กลับมา Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 8 วันทำการ 1,562 สัญญา แม้ขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 เท่ากับ 2,624 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- เช้านี้ติดตามถ้อยแถลงของ Trump ต่อสภาคองเกรส (เวลา 9.00 น.ตามเวลาประเทศไทย)
- ติดตามอัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ.ของไทยวันนี้
- ติดตาม Beige Book ของเฟดคืนนี้
- ภาพรวมเศรษฐกิจเดือนม.ค.ของไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
- KOSPI ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันอิสรภาพ
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 23)
SET INDEX วันนี้ขึ้นอยู่กับถ้อยแถลงของประธานาธิบดี Trump ในช่วงก่อนเปิดตลาด คาดการณ์ว่าจะมีการพูดถึงแนวทางการลดภาษี และการจัดทำงบประมาณ แต่อาจไม่มีรายละเอียดมากพอถึงช่วงเวลาและตัวเลขการจัดทำที่ชัดเจน ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนทั่วโลกผิดหวังกับถ้อยแถลงดังกล่าวได้ เพราะประเด็นทั้ง 2 ยังไม่สามารถหาข้อสรุปภายในพรรค Republican ได้ ณ เวลานี้ หากเป็นไปตามคาด ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะกลับมาอ่อนค่า โอกาสที่เงินทุนจะไหลกลับเข้าตลาดเกิดใหม่ชั่วคราวก็มีความเป็นไปได้
แต่สำหรับตลาดหุ้นไทยแล้ว เรายังประเมินภาพของการแกว่งซึมตัวระหว่าง 1,550-1,565 จุด มูลค่าการซื้อขายที่ต่ำกว่า 4.0 หมื่นล้านบาท/วัน สะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุนภายในประเทศ ต่อภาวะการลงทุนในปัจจุบัน แม้ว่าภาพระยะกลางถึงยาวของตลาดหุ้นไทยยังเป็น กลางถึงบวก ก็ตาม จากตัวเลขเศรษฐกิจภายในประเทศ และผลการดำเนินงานใน 4Q59 ที่ออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีก็ตาม
ภาพรวมกลยุทธ์การลงทุน "ยังคงแนะนำทยอยสะสมหุ้น Big Cap ที่ผลตอบแทนเงินปันผลงวดปี 2559 หรือ 2H59 สูงกว่า 2%" ต่อเนื่อง
Daily Pick
1. สะสม SCB : ราคาปิด 154.00 บาท ราคาเหมาะสม 169.00 บาท
a) ประกาศเงินปันผล 2H59 หุ้นละ 4.00 บาท สูงกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ 3.50-3.80 บาท คิดเป็น Dividend Yield 2.5% ขึ้น XD 24 เม.ย.
b) มีปัจจัยบวกรออยู่ โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนเรื่องการขายหุ้น SCB LIFE ให้กับพันธมิตรต่างชาติ ในเดือน เม.ย. โดยมีผู้สนใจเสนอซื้อได้แก่ AIA, Manulife, Prudential และ FWD Group และประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะมีกำไรพิเศษสูงถึง 3.5 หมื่นล้านบาท หรือ ราว 10 บาทต่อหุ้น
c) คาดกำไรสุทธิปี 2560 เติบโต +19% yoy เป็น 5.6 หมื่นล้านบาท จากสินเชื่อที่กลับมาขยายตัวในทิศทางเดียวกับการเติบโตของเศรษฐกิจ ขณะที่คุณภาพของสินทรัพย์ที่ดีขึ้น จะช่วยลดแรงกดดันเรื่องการกันสำรองให้ลดลงในปี 2560 โดยมี Coverage Ratio สิ้นปี 2559 ที่ 134.3% เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่ 109.8%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิเป็นวันที่ 3 อีก US$47 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$41 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยหนาแน่น คาดผล MSCI Rebalance
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 1,105 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 1,812 ล้านบาท คาดว่าเป็นผลจากการปรับน้ำหนักดัชนี MSCI ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิเหลือเพียง 2,683 ล้านบาท
SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 8 วันทำการ 1,562 สัญญา เทียบกับ 7 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 15,453 สัญญา คาดเป็นการทยอยปิดสถานะ Short บางส่วน และทำให้ยอดสุทธิ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิลดลงเล็กน้อยเป็น 53,860 สัญญา และผลักดันให้ S50H17 กลับมาปิดสูงกว่า SET50 Index เท่ากับ 0.54 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เพียง 0.56 จุด
แต่ตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 2,624 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 3,734 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,871 ล้านบาท โดยราคาพันธบัตรไทยปรับฐานลงเป็นวันที่ 2 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 0.90bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 0.06bps ปิดที่ 2.736%
Short-Selling วานนี้
เท่ากับ 444 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 405 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 50 หลักทรัพย์ จากวันก่อนหน้า 52 หลักทรัพย์
NVDR Movement
NVDR ขายสุทธิเป็นวันที่ 2 เน้นกลุ่ม ICT และปิโตรเคมีเป็นหลัก
การซื้อขายผ่าน NVDR ขายสุทธิอีก 844 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 825 ล้านบาท โดย NVDR กลับมาลดน้ำหนักกลุ่ม ICT สูงสุด 524 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มปิโตรเคมี 205 ล้านบาท แต่ซื้อสุทธิกลุ่มธนาคารสูงสุด เพียง 90 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ประธานเฟดสาขา San Francisco มองขึ้นดอกเบี้ยเดือนมี.ค.มีความเป็นไปได้: ประธานเฟดสาขา San Francisco นาย Williams ประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ในภาวะการจ้างงานเต็มที่ และอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นกลับไปยังเป้าหมายของเฟดที่ 2.0% การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดก็ควรจะเกิดขึ้นเร็วในเดือนมี.ค. อย่างไรก็ตาม Williams ไม่ได้โหวตในคณะกรรมการขอเฟดปีนี้
เม็กซิโกปฎิเสธที่สหรัฐฯ จะใช้เรื่องของภาษีหรือโควต้าเกี่ยวกับการค้า: รมว.ต่างประเทศเม็กซิโก ให้ความเห็นถึงกรณีประธานาธิบดี Trump ต้องการเจรจาการค้าภายใต้ NAFTA ใหม่ ด้วยการใช้เรื่องของภาษีหรือโควต้า เป็นสิ่งที่เม็กซิโกรับไม่ได้ เพราะข้อตกลงการค้าเสรี ก็ควรจะเสรีตามเงื่อนไข
กรอบถ้อยแถลงของประธานาธิบดี Trump
- การยกเลิกโครงการ Obamacare
- แนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่นนโยบายด้านภาษี การจัดทำงบประมาณ และการผ่อนคลายหลักเกณฑ์ เพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจ
- การเพิ่มระดับการป้องกันและความปลอดภัยของประเทศ
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
- GDP ใน 4Q59 ขยายตัว 1.9% qoq ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 2.1% qoq แต่เท่ากับตัวเลขก่อนหน้า โดยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นแข็งแก่รงเป็น 3.0% qoq และมีผลต่อ GDP เท่ากับ 2.1%
- ดุลการค้าเดือนม.ค. ขาดดุล US$6.92 หมื่นล้าน ขาดดุลมากกว่า Bloomberg consensus คาด US$6.60 หมื่นล้าน และเดือนก่อนหน้าขาดดุล US$6.44 หมื่นล้าน โดยการนำเข้าสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค และยานยนต์ เพิ่มขึ้นถึง 4.8% mom และ 2.9% mom ตามลำดับ ขณะที่การส่งออกลดลง 0.3% mom
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนก.พ. เท่ากับ 114.8 จุด ดีกว่า Bloomberg consensus เท่ากับ 111.3 จุด และเดือนก่อนหน้า 111.6 จุด เชื่อมั่นถึงการหางานที่แข็งแกร่ง
ยุโรป
สกอตแลนด์เตรียมขอทำประชามติใหม่: หัวหน้ารัฐบาลสกอตแลนด์ ประเมินว่าขั้นตอนการดำเนินการ Brexit ของรัฐบาลอังกฤษจะนำไปสู่การทำประชามติของสกอตแลนด์เป็นครั้งที่ 2 หากสกอตแลนด์ถูกบังคับให้ดำเนินการ Hard Brexit เพราะสกอตแลนด์ยังต้องการอยู่กับอียู
กรีซและเจ้าหนี้เริ่มขั้นตอนการประเมินผลงาน: วันที่ 28 ก.พ. กรีซและเจ้าหนี้เริ่มการพิจารณาการบริหารงานของรัฐบาลกรีซ ตามเงื่อนไขที่ตกลงในแผนการช่วยเหลือ หลังในช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้าไม่สามารถดำเนินการประเมินผลได้ จากข้อขัดแย้งระหว่างเจ้าหนี้อียูและ IMF ต่อผลการทำงานของรัฐบาลกรีซ และเป้าหมายทางการคลังของกรีซในปี 2561
จีน
ปริมาณเงินในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 12%: แหล่งข่าวทางการ รายงานว่า ทางการจีนวางแผนที่จะเพิ่มปริมาณเงินเข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้น 12% ในปีนี้ ต่ำกว่าปี 2559 ตั้งเป้าเติบโต 13% แต่น่าจะเพิ่มขึ้นได้จริง 11.3% แม้ว่าปริมาณเงินจะเพิ่มขึ้น 11% น่าจะมากเพียงพอต่อการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจก็ตาม แต่ทางการจีนต้องการเพิ่มสภาพคล่องบางส่วน รวมถึงความเสี่ยงของขั้นตอนการลดภาระหนี้ในระบบอาจทำให้สภาพคล่องตึงตัว
เอเชียแปซิฟิก
ไม่มี
ไทย
ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนม.ค.ขยายตัวต่อเนื่อง: เศรษฐกิจไทยในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา มีทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง โดยได้รับแรงขับเคลื่อนมาจากการใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัวดี การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวชัดเจน และการส่งออกที่ขยายตัวสูงถึง 8.5% ทำให้คาดว่าทิศทางการส่งออกจะขยายตัวต่อเนื่องในไตรมาส 1 และ 2 แรงหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ดีขึ้น และความต้องการสินค้าต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สำหรับการลงทุนภาคเอกชนยังคาดเดาได้ยาก แม้ว่าการลงทุนโครงการขนาดใหญ่จะเริ่มลงทุนแล้ว และการส่งออกฟื้นตัวก็ตาม ขณะเดียวกัน หากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของรัฐชะลอออกไป 1-2 ปี น่าจะมีผลต่อความเชื่อมั่นและทำให้การลงทุนภาคเอกชนชะลอ ส่วนการบริโภคภาคเอกชนยังฟื้นตัวไม่มาก เนื่องจากหนี้ภาคครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงยังกดดัน แต่มีสัญญาณดีขึ้นหลังจากโครงการรถยนต์คันแรกที่สิ้นสุดระยะถือครอง 5 ปีในปีนี้ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีแนวโน้มดีขึ้น
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul Assistant Analyst