- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 28 February 2017 17:15
- Hits: 4340
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มลงทดสอบ 1550 และ 1540 แนวต้าน 1560-1565
SET Index: 1562.37 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1560 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นยังมีความเสี่ยงในการปรับตคัวลดลง หลังจากหลุดแนวรับสำคัญของเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นที่บริเวณ 1565 จุดลงไป ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับที่ 1550 และ 1540 จุด และมีแนวต้านที่ 1560-1565 จุด
แนวต้าน : 1564 และ 1565
แนวรับ : 1558 และ 1555
BANPU = 19.60 / 19.80, CPALL = 60.00 / 61.00, MTLS = 30.00 / 31.50, ADVANC = 167 / 169, TKN = 27.50/28.00
Simat Technologies (SIMAT TB; THB 3.58) -ซื้อ
แนวต้าน : 3.80 และ 3.90 / แนวต้านสำคัญ 4.00
แนวรับ : 3.58 และ 3.54
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากฟื้นตัวจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นขึ้นไปทาจุดสูงสุดใหม่ในระยะสั้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบระดับ 70
แนะนำซื้อ SIMAT โดยมีแนวรับที่ 3.58 และ 3.54 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.80 และ 3.90 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.42 ลงไป
Thitikorn (TK TB; THB 12.10) -ซื้อ
แนวต้าน : 12.60 และ 13.00
แนวรับ : 12.10 และ 12.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำรไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ TK โดยมีแนวรับที่ 12.10 และ 12.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 12.60 และ 13.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 11.70 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…เน้นเก็งหุ้นที่ราคาลงมาลึกในกลุ่มอาหาร-เครื่องดื่ม
นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ดัชนี SET ขึ้นมาได้น้อยสุดในบรรดา 5 ประเทศในอาเซียน โดยตลาดที่ขึ้นมากที่สุด คือ สิงคโปร์ ตามมาด้วย ฟิลิปปินส์ และมาเลเชีย แม้ตลาดหุ้นไทยขึ้นได้น้อย แต่ในปีที่แล้ว ตลาดหุ้นไทยขึ้นได้มากที่สุดในบรรดาตลาดหุ้นอาเซียนและตลาดหุ้นเกิดใหม่ในเอเชีย จึงไม่แปลกที่เปิดขึ้นมาในปีนี้ตลาดหุ้นไทยจึงแผ่วลง สาเหตุมาจากไม่มีกลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่ที่จะดันขึ้นได้ต่อ พบว่าในบรรดากลุ่มอุตสาหกรรมทั้งหมดในตลาดหุ้นไทย กลุ่มที่ติดลบมากที่สุด คือ โรงพยาบาลตามมาด้วยค้าปลีก อาหาร-เครื่องดื่ม เกษตร โรงแรมและขนส่ง (เป็นกลุ่มที่โตจากแรงหนุนภายใน) ส่วนกลุ่มที่ยืนในแดนบวกได้จะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก อย่าง ปิโตรเคมี สื่อสาร ธนาคารและพลังงาน
เมื่อหลายๆ กลุ่มยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามา ขณะที่ดัชนี SET ยืนที่สูง จึงเกิดแรงขายหุ้นใหญ่ทำกำไรออกมา ส่งผลให้ดัชนี ค่อยๆย่อตัวลง พฤติกรรมดังกล่าวน่าจะยังเกิดต่อเนื่องไปถึงเดือน มี.ค. (ช่วง XD) จนกว่าจะเห็นความชัดเจนของการแถลงนโยบายเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกของสหรัฐ ดังนั้นหากดัชนีหลุดในระดับ 1560+/- จุด โอกาสที่จะลงมาเล่นต่ำกว่า 1550+/- จุดจะมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น
เข้าสู่ช่วงเดือน มี.ค.คาดดัชนี SET จะยิ่งค่อยๆ ซึมลง จากการขาดปัจจัยหนุนทั้งในและนอกประเทศ โดยตลาดหุ้นในต่างประเทศอย่างสหรัฐเองตอนนี้ ดูเหมือนจะรอดูการแถลงนโยบายของสหรัฐฯ ทั้ง ด้านการค้า ภาษีและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนงบ Q4/16 ที่ออกมาดีมากๆ ตลาดหุ้นก็รับข่าวไปหมดแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแต่รอประเด็นใหม่ๆ เข้าหนุนตลาด ซึ่งยังมองไม่เห็น หากจะมีก็คือ ตัวเลขเศรษฐกิจ และราคาน้ำมัน โดยราคาน้ำมันยังไม่เห็นสัญญาณในเชิงบวกในการลดกำลังการผลิต ส่วนปัจจัยภายในอย่างตัวเลขการส่งออกและนำเข้าประจำเดือน ม.ค. ที่ออกมาดีแต่ต่ำกว่าคาด
หลังผลการดำเนินงานทยอยประกาศออกมาเกือบหมด ตลาดหุ้นไทยก็ไร้ปัจจัยหนุนใหม่ๆ ในทางกลับกันกลับมีแรงขายหุ้นในกลุ่มที่นักลงทุนผิดหวังผลการดำเนินงาน โดยที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ กลุ่มผู้ผลิตอาหาร เครื่องดื่มและค้าปลีก เนื่องจากหุ้นเด่นในกลุ่มเหล่านี้ในปีที่แล้วปรับตัวขึ้นมาสูงมาก หลังผิดหวังผลการดำเนินงานจึงมีแรงขายออกมาค่อนข้างมาก แต่การลงของราคาหุ้นก็ใกล้ๆ จะสุดแล้ว ทั้ง BJC และ CBG เนื่องจากราคาหุ้นลงมาในระดับค่า -1SD แล้วมักจะดีดตัวกลับ ดูจากรูปด้านซ้ายและขวา
วันนี้มองดัชนี SET มีแนวโน้มจะซึมลงและแกว่งกรอบแคบ จาการที่ตลาดยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ แต่อาจมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่มที่ราคาลงไปลึก อย่างไรก็ตามตลาดยังมีโอกาสการรีบาวน์ได้ในช่วงสั้นหากลงไปในระดับ 1550+/- แล้วไม่หลุด แต่หากหลุด ดัชนีจะลงต่อไปที่ระดับ 1546-1540 จุด โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1562-1566 และแนวรับที่ 1550-1546 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร MALEE BA HMPRO TVO และ UNIQ
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,562.37 จุด เพิ่มขึ้น 4.34 จุด (+0.28%) มูลค่าการซื้อขาย 15,760.32 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นในกรอบแคบ ตลาดยังรอปัจจัยใหม่หนุน ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ ขณะที่นักลงทุนรอดูตัวเลข GDP ใน 4Q16 ของสหรัฐฯ และการแถลงนโยบายของ "ทรัมปั"(คืนนี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งขึ้น ในทางเทคนิค มองว่า SET อาจจะมีลุ้นดีดตัวกลับขึ้นมา ยืนเหนือ 1565 จุด เพื่อสร้างให้เกิดสัญญาณการเก็งกำไรรอบใหม่ ซึ่งในกรณีนี้จะสามารถมองเป้าการดีดตัวต่อได้ถึงระดับ 1580 จุดเป็นอย่างน้อย แต่หากการดีดตัวไม่ผ่าน1565 จุด SET ก็จะแค่เทคนิครีบาวน์ในรอบการปรับฐาน และ SET ก็จะยังคงอยู่ในช่วงช่วงปรับฐานต่อไป ซึ่งจะมีจุดรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 1545-1548 จุด ซึ่งเป็นระดับค่าเฉลี่ย 75 วัน หุ้นแนะนำเก็งกำไร PTT มองราคาหุ้นเริ่มสร้างที่แข็งแกร่งบริเวณ 398 บาท MACD เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว และหากตลาดสามารถทะลุแนวต้าน 1565 จุด เราเชื่อว่า PTT น่าจะเป็นหนึ่งในหุ้นที่จะมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา มองแนวต้านถัดไปที่ 414 บาท แนวรับ 398
Technical Pick (PM) ...
Simat Technologies (SIMAT TB; THB 3.58) - ซื้อ
Thitikorn (TK TB; THB 12.10) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]