- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 27 February 2017 23:09
- Hits: 1039
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET ยังทรงตัวเหนือจุดต่ำเดิม แต่ดูอ่อนแอ คาดมีลุ้นไหลลงต่ำกว่าได้
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ยังแกว่งตัวอ่อนแอ ถึงแม้ว่าจะยืนทรงตัวเหนือจุดต่ำสุดเดิมที่ 1560 จุดได้ตลอดทั้งสัปดาห์ โดยยังขาดปัจจัยสนับสนุน
แนวโน้มตลาดวันนี้ : ตลาดหุ้นสหรัฐยังขยับขึ้นปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 11 ขณะที่นักลงทุนยังรอดูการกล่าวสุนทรพจน์ของ ปธน.สหรัฐต่อสภาคองเกรสในค่ำวันอังคารนี้ โดยคาดกันว่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลในวันดังกล่าว แต่กรอบบวกของตลาดหุ้นสหรัฐดูเหมือนจะเริ่มแคบลง ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ยังปิดลบค่อนข้างรุนแรง ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำกว่า 1560 จุดได้ในเร็วๆ นี้
กลยุทธ์ : ดังนั้นเรายังแนะนำให้เลือกหุ้นค่อยๆ ทยอยซื้อในช่วงลบต่อไปดีกว่า
แนวรับ 1562-1560 , 1555-1552 จุด
แนวต้าน 1567-1570 , 1572-1575 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : GFPT, TPCH, SIRI(buy back)
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$65ล้าน นำโดยไต้หวัน US$68ล้าน และอินโดนีเซีย US$25ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$15ล้าน และไทย US$8ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาค ตลาดติดตามการแถลงการณ์ของประธานาธิบดีสหรัฐต่อสภาฯในวันที่ 28 ก.พ. นี้ ซึ่งน่าจะมีมาตรการเกี่ยวกับการลดภาษี
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) SYNEX ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า Apple ทุกสินค้ายกเว้นสมาร์ทโฟน ทำให้สินค้ากลุ่ม Consumer ครอบคลุมมากขึ้น ปีนี้ SYNEX ถูกแต่งตั้งเป็นตัวแทนแล้ว 4 แบรนด์คือ Apple, D-Link, DJI, และ belkin ส่วนการตั้งบริษัทร่วมเพื่อทำธุรกิจลิสซิ่ง คาดแล้วเสร็จใน 1Q17 ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 19% สูงกว่าประมาณการของเราที่ +12% เป้าที่ท้าทายนั้นเริ่มเห็นสัญญาณบวกตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ทำยอดขายได้ดีกว่ายอดเฉลี่ยรายเดือนค่อนข้างมาก เราคาดกำไรปี 2017-18 โตเฉลี่ย 18% ต่อปี แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 15.50 บาท
(0) BLA เรายังคงคำแนะนำถือ แม้จะปรับกำไรสุทธิปี 2017-18 ขึ้น 4-5% เป็น -3% Y-Y ในปีนี้และ +13.5% Y-Y ในปีหน้า ทั้งนี้ CAR Ratio ของ BLA ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเหลือ 252% ในปี 2016 จาก 309% ในปี 2015 อัตราส่วนนี้จะดีขึ้นในปีนี้ถ้าอัตราดอกเบี้ยเข้าสู่ขาขึ้นตลอดทั้งปี แต่การปรับขึ้นของดอกเบี้ยไม่กระทบการตั้งสำรองเบี้ยประกันฯ (ตามมาตรฐานบัญชีใหม่) จึงไม่น่าหวัง Upside จากสำรองที่จะลดลง ยังคงราคาพื้นฐานที่ 56.50 บาท
(+) CPF กำไรสุทธิ 4Q16 ทำได้ดีกว่าคาด ถ้าไม่รวมขาดทุนจากมูลค่ายุติธรรมพันธุ์หมู และกำไร FX กำไรปกติจะ -48% Q-Q ตามฤดูกาล และพลิกขาดทุนจากปีก่อน แนวโน้มจะฟื้นตัวตั้งแต่ 1Q17 คงราคาเป้าหมาย 38 บาท แนะนำซื้อ
(+) กำไรของกลุ่มค้าปลีกไม่แย่ กำไรปกติ 4Q16 ของกลุ่มค้าปลีกที่ประกาศแล้วถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี +20% Q-Q, +21% Y-Y ทำให้กำไรทั้งปี +18% Y-Y ดีกว่าคาด ไม่สอดคล้องกับราคาหุ้นหลายตัวที่ปรับลง (ดัชนีกลุ่มค้าปลีก -3.5% YTD ขณะที่ SET +1.6% YTD) ทำให้ PE ของกลุ่มปรับลงจากต้นปีที่ 36 เท่าเหลือ 33 เท่า เรายังมองกำลังซื้อในปีนี้ดีขึ้น และคาดกำไรของกลุ่มโตเร่งตัวขึ้นเป็น +27% Y-Y ในบรรดาหุ้นที่ยังไม่รายงานงบฯ เราชอบ FN (ราคาพื้นฐาน 10.20 บาท) คาดกำไร 4Q16 โตดีแต่ทั้งปี -3% Y-Y ราคาหุ้นปัจจุบันเท่ากับตลาดให้มูลค่าเพียง 7 สาขาทั้งที่บริษัทมี 8 สาขาแล้ว นอกจากนี้ เรามีแนวโน้มปรับราคาพื้นฐาน BJC ขึ้น
(0) กลุ่มเครื่องดื่มดูน่าผิดหวังมากกว่า แม้จะเป็นที่คาดการณ์อยู่แล้วว่ากำไรปกติ 4Q16 ของกลุ่มเครื่องดื่มจะชะลอ Q-Q ตามฤดูกาล แต่กลับหดตัวถึง 37% Q-Q ฉุดโดย ICHI และ CBG ส่วนกำไรที่หดตัวเพียง 6% Y-Y มี SAPPE และ TACC ที่โตแรงช่วยไว้ ราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับลงนับตั้งแต่มีข่าวภาษีน้ำตาล แม้จะยังไม่ชัดเจนเรื่องอัตราที่จะปรับขึ้นแต่รัฐบาลให้เวลา 2 ปีในการปรับตัว เราเชื่อว่าสุดท้ายแล้วแทบไม่กระทบ เรายังชอบ TACC (ราคาพื้นฐาน 11.50 บาท) และ SAPPE (ราคาพื้นฐาน 40 บาท)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
27 ก.พ. - ไทย: RPH เข้าเทรด (ราคา IPO 4.80 บาท),ดุลการค้า (ม.ค.),ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (ม.ค.)
- สหรัฐ:คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ม.ค.)
28 ก.พ. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ม.ค.
- สหรัฐ:4Q16 GDP (คาดการณ์ครั้งที่ 2) (ตลาดคาด +2.1%), ทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรส
- ยูโรโซน:อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.)
1 มี.ค. - ไทย:อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.)
- จีน: Manufacturing & Non-manufacturing PMI (ก.พ.)
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Manufacturing PMI (ก.พ.)
- สหรัฐ: Fed Beige Book
2 มี.ค. - ไทย:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.พ.)
3 มี.ค. - จีน:Caixin China PMI Composite (ก.พ.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.พ.)
7 มี.ค. - ยูโรโซน: 4Q16 GDP
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดทรงตัว แต่ DJIA ยังขยับทำจุดสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 11 โดยนักลงทุนจับตาดูการกล่าวสุนทรพจน์ของทรัมป์ต่อหน้าสภาคองเกรส
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปิดในแดนลบหลังผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนออกมาน่าผิดหวัง
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนลบตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นๆที่ชะลอการบวก ขณะที่นักลงยังจับตาดูผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนและนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์
(+) ค่าเงินบาทเริ่มมีจังหวะแข็งค่าขึ้น โดยปัจจุบันขยับมาเคลื่อนไหวในกรอบ 34.80-91 บาท/ดอลลาร์บวกลบ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ลดลง 0.46 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 53.99 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานของสหรัฐฯทะลุ 600 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 6.90 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,258.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า โดยราคาทองคำเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือนครึ่ง ขณะที่นักลงทุนยังจับตาดูนโยบายทางเศรษฐกิจของทรัมป์
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch