- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 24 February 2017 17:55
- Hits: 1514
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (24/02/60)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย'
ตลาดหุ้นไทยวานนี้มีแรงขายออกมาตลอดทั้งวันแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วกลุ่มนักลงทุนสถาบันกับนักลงทุนต่างประเทศจะมียอดซื้อสุทธิก็ตาม โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯหลังจากมีคณะกรรมการบางส่วนมองว่าควรปรับขึ้นในการประชุมรอบเดือนมี.ค.ทันที ซึ่งกลุ่มที่มีแรงขายออกมาค่อนข้างมากได้แก่กลุ่มธนาคาร (-0.9%) กล่มรับเหมาก่อสร้าง (-0.8%) ปิดตลาดดัชนีปรับตัวลดลง 4.72 จุด (-0.3%) มาอยู่ที่ 1,567.32 จุด ด้วย Vol. 47,181 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) DJIA ปิดทำสถิติใหม่ต่อเนื่องเป็นวันที่ 10 (+0.17% Day) ตอบรับรมว.คลังสหรัฐให้คำมั่นจะผลักดันกฎหมายปฏิรูปภาษีผ่านสภาคองเกรสก่อนปิดสมัยประชุมสภาในเดือนส.ค.
(+) ราคาน้ำมันดิบ WTI +1.6% มาอยู่ที่ 54.45 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐฯผลิตน้ำมันจาก Shale Oil มากขึ้น
(+) สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กเดือน เม.ย. ปิดพุ่งขึ้น 18.1 ดอลลาร์ +1.47% Day โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเดือนมี.ค.
(+) ค่าระวางเรือ (BDI) ปรับตัวขึ้นติดต่อกันมา 7 วัน มาอยู่ที่ 856 จุด +6.2% Day เป็นปัจจัยบวกสำหรับกลุ่มเรือ TTA, PSL
(+) ค่าเงิน US Dollar Index เช้านี้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยไปอยู่ที่ 101.04 (+0.06%)
(-) ตัวเลขจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยปรับตัวขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 244,000 ราย
(-) ราคายางพารา (TOCOM) วานนี้ลดลงไป 8.6%Day มาอยู่ที่ 302.6 Yen/Kg. ขณะที่เช้านี้ปรับตัวลงต่อเนื่องอีก 1.7% เป็นลบต่อ STA, TRUBB
(-) ราคาน้ำตาลทรายเบอร์ 11 (ICE Sugar No.11 Spot) วานนี้ปิดลง 2.7% Day มาอยู่ที่ 20.11 Cent/pound (ลบต่อ KSL,KBS, KTIS และ BRR)
(-) หุ้นหลุ่มสายการบิน (BA, AAV) คาดอาจถูกกดดันเช้านี้ หลังผลประกอบการ 4Q16 ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด จากผลกระทบทัวร์ศูนย์เหรียญ
(+/-) คลังเผยยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์เพราะตลาดยังโตและผู้ประกอบการปรับตัวได้
(+/-) ประชุม ครม. สัปดาห์หน้า คลังจะเสนอลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหลือ 17% สำหรับคนที่เข้ามาทำงานในโครงการที่รับอนุมัติจาก BOI ในโครงการ EEC และต้องเป็นโครงการใน 10 อุตสาหกรรมใหม่ที่รัฐส่งเสริม
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
อยู่ในช่วงประกาศผลประกอบการ 4Q59/งบปี 59 (สิ้นสุด~สิ้นเดือน ก.พ.)
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกนและยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.(คืนนี้)
กลยุทธ์การลงทุน “เน้นรายตัว”
ประเมินดัชนีวันนี้คาดว่าจะปรับตัวในรูปแบบ Sideway down จากความกังวลเรื่องเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย ล่าสุด Future Fed Fund Rate ในเดือน มี.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 38% เรายังแนะนำเก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะตัวจากราคา commodity ที่โดดเด่น เช่น ราคายางมะตอยที่ปรับตัวขึ้นเด่นในช่วงต้นไตรมาส 1Q60 และมองตลาดมีปัจจัยหนุนจำกัด สำหรับกลุ่มที่ลงทุนระยะกลาง เราแนะนำทยอยสะสมกลุ่มนิคมฯ รับประเด็นเรื่อง EEC
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
TASCO เก็งกำไร
ราคา Asphalt ในประเทศจีนปรับตัวขึ้น 41.11% นับจาก 26/11/59 ที่ระดับ 2,795.65 หยวนต่อตัน คาดไตรมาส 1Q60 เติบโตต่อเนื่องจาก 4Q59
ปี 60 งบประมาณการลงทุนในถนนของกรมทางหลวง เพิ่มขึ้น 12%YoY โดยคิดเป็นระยะทางของถนนลาดยางมะตอย เพิ่มขึ้น 2.9% YoY
ปัจจุบันซื้อขายกันที่ PER 13.24X เทียบกับค่าเฉลี่ย 5ปี +1SD ที่14.3X
CI เก็งกำไร
ประกาศจ่ายหุ้นปันผล 8:1 และปันผลเป็นเงินสดอีก 0.06 บาทต่อหุ้น รวมเป็น 0.185 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Dividend Yield สูงถึง 9.2%
กำไรใน 4Q16 คาดเติบโตได้โดดเด่นจากรับรู้การขายสินทรัพย์เข้ากอง SRIPANWA
ทีมวิเคราะห์