- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 24 February 2017 17:52
- Hits: 1526
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดปรับตัวลงทันที พร้อมกับแกว่งตัวสลับขึ้นลงที่อยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน เนื่องจากเผชิญแรงขายจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ พลังงาน และสื่อสาร โดยมีกรอบการแกว่งตัวอยู่ระหว่าง 1562.58-1570.27 หรือ 7.69 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวลงของดัชนีได้แก่ AOT, PTT, KBANK, PTTEP, CBG, STA ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1567.32 จุด ลดลง 4.72 จุด (-0.30%) มูลค่าการซื้อขาย 47,181 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้กลับมาอ่อนตัวอีกครั้ง แต่เป็นลักษณะแกว่งตัวออกข้าง ในกรอบแคบ ๆ ทั้งวันเพียง 7 จุด โดยมี Low ของวันที่ 1562 จุด และยังไม่สามารถผ่านหรือยืนเหนือ 1570 จุดได้ ซึ่งแสดงถึงความอ่อนแรงของดัชนีที่ไม่สามารถขึ้นต่อได้ ทำให้ดัชนีอยู่ในภาวะซึมลง คาดกรอบการแกว่งคาดอยู่ระหว่าง 1560-1570//1577 จุด ซึ่งต้องระมัดระวังแนวรับ 1560 จุด ที่ไม่ควรหลุด หากหลุดเป็นการเปิดความเสี่ยงในการลงลึก แนวรับ 1560-1565 จุด แนวต้าน 1570-1578 จุด
แกว่งตัวผันผวน- มีแนวต้านจำกัด 1577 จุด
Support 1560 // 1550-1546 จุด Resistance 1590-1600 // 1619 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124 Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(-) AAV, BA : จากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงกว่าคาด และต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผลการดำเนินงานงวด 4Q16 ปรับตัวลง และต่ำกว่าคาด
(+) BANPU : รายงานกำไร 4Q16 ฟื้นตัวโดดเด่น เตรียมรับผลบวกราคาถ่านหินปีนี้
(0) CPALL : หุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง เน้นเติบโตในประเทศ
(-) KOOL : กำไร 4Q16 ต่ำกว่าคาด ราคาหุ้นขึ้นแรงเกินราคาเป้าหมายมากแล้ว
(+) GFPT : กำไร 4Q16 เติบโตเหนือคาด ปริมาณส่งออกขึ้นเป็นจุดสูงสุดของปี
(0) SMT : รายงานกำไรสุทธิปีแรก หลังจากขาดทุนสุทธิติดต่อกัน 2 ปี
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
มีความคืบหน้าในเรื่องแผนลดภาษีของสหรัฐฯ เข้ามาในตลาด หลัง รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ระบุจะผ่านสำนักข่าว CNBC ว่าจะผลักดันแผนปฎิรูปภาษีเข้าสภาฯ ซึ่งเป็นบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ
สำหรับแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ค่าความน่าจะเป็นของการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed เดือน มี.ค. สูงขึ้นจาก 34% เป็น 38% นักลงทุนยังเชื่อว่า Fed จะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมในเดือนหน้า แต่ถึงกระนั้น ยังคงต้องรอ comment ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Fed ที่จะมีก่อนการประชุม และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ว่า Fed ที่จะส่งสัญญาณว่า Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มี.ค.ได้หรือไม่
ด้านปริมาณการซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดเอเซียวันที่ผ่านมา มีแรงซื้อกลับในตลาดหุ้น อินเดีย ฟิลิปินส์ เกาหลีไต้ จากที่ขายไปในวันก่อนหน้านี้ ขณะที่พลิกมาขายในตลาดพันธบัตรแทน จากตัวเลขการซื้อขายทั้งในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร ประเมินได้ว่า เวลานี้ นักลงทุนยังไม่ได้มีความมั่นใจต่อทิศทางตลาด และมีความระวังต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่อาจเกิดขึ้นในเดือนหน้าได้
ราคาน้ำมันดิบ WTI ขึ้นมายืน $54 เหรียญ ได้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากตัวเลข stock น้ำมันดิบรายงานโดย EIA ที่เพิ่มขึ้นเพียง 5.6 แสนบาร์เรล ต่ำกว่าที่คาดที่ 3.5 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ผลของการลดกำลังการผลิตน้ำมันของผู้ผลิตนำมันรายใหฒ่ เป็นส่วนที่สนับสนุนให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น........... ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในกลุ่มโลหะ อ่อนตัวลงต่อจากวันก่อน คาดมาจากดอลล่าร์ที่ขยับสูงขึ้น และราคาสินค้าเหล่านี้ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างเร็ว .... ในภาพรวมของสินค้าโภคภัณฑ์ เริ่มเห็นการอ่อนตัวของราคาในกลุ่มเกษตรและโลหะ แต่ดูเป็นบวกมากขึ้นในส่วนของราคาน้ำมัน ซึ่งเป็นบวกต่อผู้ผลิตน้ำมัน-ปิโตรเคมีและโรงกลั่นน้ำมัน
ปัจจัยในประเทศ จะมีการรายงานผลประกอบการเข้ามากขึ้นในวันนี้ ซึ่งจะทำให้มีความคึกคัก (ทั้งบวก-ลบ) ในหุ้นที่รายงานผลประกอบการ เรามองเป็นปัจจัยหลักๆ ของตลาดหุ้นไทยในวันนี้เลย กำหนดการส่งงบการเงินวันสุดท้ายของไตรมาสนี้ คือ 28 ก.พ.
ทิศทางตลาดหุ้นไทย ด้วยนักลงทุนยังคงรอดูทั้งนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ และตลาดหุ้นขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ คาดทิศทางตลาดน่าจะแกว่งตัวแบบ sideway แต่ volume จะไปกระจุกตัวในหุ้นที่มีการนำส่งงบการเงินมากกว่า
กลยุทธ์การลงทุน ภาพรวมๆน่าจะทรงๆตัว และยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามาในตลาด .......... กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำ เลือกลงทุนเป็นรายตัว และปรับกรอบเวลาลงทุนเป็นสั้นๆ เราให้ความสนใจกับกลุ่มน้ำมัน-ปิโตรเคมีมากขึ้น รวมทั้งหุ้นที่เป็น Domestic Play และหุ้นที่กำไรออกมาดี .......... ทั้งนี้ ในการเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิเช่น BANPU , PTTGC , IRPC , TASCO , PREB
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (23 ก.พ.) - SET Index ปิดที่ระดับ 1,567.32 จุด ลดลง 4.72 จุด หรือ -0.30% มูลค่าการซื้อขาย 47,181.16 ล้านบาท ยังคงไม่มีปัจจัยบวกใหม่มากระทบตลาด อีกทั้งช่วงการประกาศงบการเงินเริ่มหมดไป การเก็งกำไรสำหรับงบ 4Q16 จึงน้อยลง
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 20,810.32 จุด เพิ่มขึ้น 34.72 จุด หรือ +0.17% ยังคงทำ New High ติดต่อกันเป็นวันที่ 10 หลังรัฐมนตรีคลังสหรัฐ เปิดเผยว่าเขาจะผลักดันให้กฎหมายปฏิรูปภาษีผ่านสภาคองเกรสภายในเดือนส.ค. แต่ด้าน Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% 372.85 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 74 เซนต์ หรือ -1.4% ปิดที่ 53.59 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีการคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
นโยบายสหรัฐฯ - สำนักข่าวแห่งหนึ่งรายงานว่าคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้เลื่อนการลงนามคำสั่งแบนพลเมือง 7 ชาติมุสลิมฉบับใหม่ออกไปเป็นสัปดาห์หน้า
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ เปิดเผยว่า เขาจะผลักดันให้กฎหมายปฏิรูปภาษีผ่านสภาคองเกรสก่อนจะปิดสมัยประชุมสภาในเดือนส.ค. และมีเป้าหมายที่จะผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐไปสู่ระดับ 3% หรือมากกว่า
เศรษฐกิจไทย - กระทรวงพาณิชย์ได้รับอนุมัติงบประมาณกลางจำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาผลักดันโครงการที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจฐานรากทั้งหมด เช่น ตลาดกลางสินค้า ตลาดสินค้าอัตลักษณ์ (ตลาดนิวเอสเคิร์ฟ) และตลาดชุมชนประชารัฐ
เศรษฐกิจไทย - ธปท. เปิดเผยว่า ธปท.ยังประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้ไว้ที่ 3.2% แต่เป็นประมาณการเมื่อเดือน ธ.ค. 2559 โดยจะทบทวนใหม่อีกครั้งในเดือน มี.ค.ปีนี้
News Release :
JASIF แพนิกเกินเหตุราคาพื้นฐาน13.2บาท รับโอนสินทรัพย์ใหม่ดันปันผลเพิ่ม 54%
+หุ้น JASIF ร่วงเกินเหตุ นักวิเคราะห์มองพื้นฐานดีขึ้นหลังรับโอนทรัพย์สินใหม่ ทำให้จ่ายเงินปันผลมากกว่าเดิม 54% ตั้งแต่ปี 60-65 และได้ประโยชน์จากนโยบายขยายโครงข่ายไฟเบอร์ออพติกของรัฐบาล ขณะที่สภาพคล่องสูงต่างชาติสนใจ ราคาพื้นฐาน 13.20 บาท(ข่าวหุ้น)
"มาร์ค โมเบียส"บิ๊กล็อต เก็บหุ้นWHAเพิ่มอีก3.2%
+"WHA" เนื้อหอม "มาร์ค โมเบียส" ส่งกองทุนเทมเพิลตันเข้าซื้อบิ๊กล็อตเพิ่มอีก 485 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 3.2% ในราคาหุ้นละ 2.80 บาท มองธุรกิจสดใสรับอานิสงส์ EEC ส่วนงบปี 59 แจ่ม! โชว์กำไรสุทธิ 2,898 ล้านบาท โตทะลัก 48% (ข่าวหุ้น)
COM7โตแกร่งกำไร406ล้านซื้อเป้า14บาท
+"COM7" โชว์งบปี 59 กำไรเริ่ด 406 ล้านบาท โตทะลัก 51% จ่ายปันผล 25 สตางค์ ขึ้น XD วันที่ 25 เม.ย.นี้ โบรกฯ การันตีพื้นฐานแกร่ง แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายสูง 14 บาท คาดปี 60 กำไรโตต่อเนื่องเฉียด 500 ล้านบาท(ข่าวหุ้น)
EPG มั่นใจปี61รายได้โต15% ออเดอร์ลูกค้าทะลัก หนุนงบบริษัทแข็งแกร่ง
+EPG ตั้งเป้ารายได้ปี 61 เติบโต 15% กลุ่มยานยนต์แข็งแกร่ง ออเดอร์งานไหลเข้าทะลัก จับตารับผลบวกอเมริกาลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ดันความต้องใช้สินค้าฉนวนกันความร้อน-เย็นพุ่ง(ข่าวหุ้น)
NPPเล็งล้างขาดทุนสะสม ซุ่มเจรจาซื้อธุรกิจอาหาร
+NPP ส่งซิกผลงานปีนี้โตโดดเด่น บิ๊กบอส "สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย" ตั้งเป้าโกยรายได้โตเพิ่ม 40-50% จากปีก่อน แย้มมีลุ้นล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่กว่า 200 ล้านบาทในปีนี้ พร้อมเดินหน้าขยายฐานธุรกิจ เผยอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการอาหารเพิ่มเติมรวมถึงการร่วมลงทุน คาดไม่เกินไตรมาส 4/2560 เห็นความชัดเจน (ทันหุ้น)
HARN คว้างานยักษ์ 40 ล้าน จ่อบุ๊กรายได้เข้ากระเป๋า Q2
+บิ๊กบอส HARN "วิรัฐ สุขชัย" คว้างานไซซ์ยักษ์มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท คาดจรดปากกาเซ็นสัญญารับงานสัปดาห์หน้า เตรียมบุ๊กรายได้ลงกระเป๋าไตรมาส 2-3/2560 มั่นใจผลงานปี 60 ทะยานเท่าตัว ขายสินค้ามาร์จิ้นสูงโกยเงินเพิ่ม พร้อมดันสัดส่วนต่างแดนพุ่ง 20% (ทันหุ้น)
'STEC'สอยงานใหญ่เข้ามือ ส่งมูลค่าแบ็กล็อกพุ่งนิวไฮ
+STEC ใส่เกียร์สอยงานใหญ่เข้ามือ ดันยอดสะสม Backlog ขยับขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ พุ่งแตะ 1 แสนล้านบาท เผยมีงานรอจ่อเซ็นสัญญาอีกเพียบ ทั้งงานรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพู แถมมีลุ้นได้แบ่งเค้กงานรถไฟรางคู่ 5 เส้น มองมีโอกาสคว้างานประมูลต่างประเทศตั้งเป้าเก็บเข้าพอร์ตในสัดส่วน 20-25% ฟากโบรกมองอนาคตแจ่ม แนะ "ซื้อ" 35.25 บาท(ทันหุ้น)
'PPS' กำไรพุ่งแรง 848% ยันปีนี้โตสูงสุดรอบ 30 ปี
+PPS โชว์งบปี 59 ปั๊มกำไรหนักมาก 848.97% รายได้รวม 319.10 ล้านบาท เตรียมจ่ายปันผล 90.68% จัดสรรในอัตราส่วน 5:1 เผยแผนธุรกิจลุยเสนองานภาครัฐ-เอกชนเต็มสูบ ทั้งงานวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการและงานออกแบบ กอดแบ็กล็อก 500 ล้านบาท มั่นใจธุรกิจปีนี้แนวโน้มเติบโตสูงสุดในรอบ 30 ปี ตั้งเป้าโต 10% (ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ : มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์