WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

SET Index: แนวรับสำคัญ 1565 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขาย  

  SET lndex: 1569.56  ปรับตัวลดลงมาทดสอบแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่บริเวณ 1565-1570 จุด หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคที่บริเวณ 1560 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นยังมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไร หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1580 จุดบริเวณแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงในระยะยาวแล้วไม่ผ่าน ดังนั้น การปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1565 จุดลงไป จะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบ 1530-1540 จุด

                                        

  แนวต้าน : 1570 และ 1572

  แนวรับ   : 1565** และ 1555

PTTGC = 73.00 / 74.000, KBANK = 190 / 192, AOT = 39.00 / 39.50, PTT = 395 / 400, PTTEP = 92.00 / 93.00

Fortune Parts Industry (FPI TB; THB 5.10) -ซื้อ

  แนวต้าน : 5.40 และ 5.50  /  เป้าหมาย 5.80-5.85 

  แนวรับ  : 5.10 และ 5.05 

  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ขึ้นไปได้ ทาให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 

  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 70

  แนะนำซื้อ FPI โดยมีแนวรับที่ 5.10 และ 5.05 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.30 และ 5.40 เป็นจุดขายทำกำไร

  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.94 ลงไป

Samchai Steel Industries (SAM TB; THB 1.65) -ซื้อ

  แนวต้าน : 1.74 และ 1.80    

  แนวรับ  : 1.65 และ 1.64 

  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐาน แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

  MACD ฟื้นตัวทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้น เคลื่อนไหวแหนือแนวโน้มลงต่อเนื่อง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบระดับ 60

  แนะนำซื้อ SAM โดยมีแนวรับที่ 1.65 และ 1.64 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.74 และ 1.80 เป็นจุดขายทำกำไร

  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.60 ลงไป

Analysts :

          Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]

บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM

SET…ซึมลง

  นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ดัชนี SET ขึ้นมาได้เพียง 1.4% น้อยสุดในบรรดา 5 ประเทศในอาเซียน โดยตลาดที่ขึ้นมากที่สุด คือ สิงคโปร์ ตามมาด้วย ฟิลลิปปินส์และมาเลเชีย แม้ตลาดหุ้นไทยขึ้นได้น้อย แต่ในปีที่แล้ว ตลาดหุ้นไทยขึ้นได้มากที่สุดในบรรดาตลาดหุ้นอาเซียนและตลาดหุ้นเกิดใหม้ในเอเชีย จึงไม่แปลกที่เปิดขึ้นมาในปีนี้ตลาดหุ้นไทยจึง แผ่วลง สาเหตุมาจากไม่มีกลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่ที่จะดันขึ้นได้ต่อ จากรูปด้านซ้าย จะพบว่าในบรรดากลุ่มอุตสาหกรรมทั้งหมดในตลาดหุ้นไทย กลุ่มที่ติดลบมากที่สุด คือ โรงพยาบาลตามมาด้วยค้าปลีก อาหาร-เครื่องดื่ม เกษตรโรงแรมและขนส่ง (เป็นกลุ่มที่โตจากแรงหนุนภายใน) ส่วนกลุ่มที่ยืนในแดนบวกได้จะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก อย่าง ปิโตรเคมี สื่อสาร ธนาคารและพลังงาน

  แรงกดรอบใหม่ที่เห็นได้ชัดขึ้นคือ แรงขายหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์หลังธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยตัวเลข NPL ใน Q4/16 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบหลายปีที่ 2.67% เพิ่มขึ้นจาก Q3/16 ที่ 2.04% โดยตัวเลข NPL ที่เพิ่มขึ้นมาจากเกือบทุกกลุ่ม สะท้อนตลาดเริ่มกังวลเรื่อง NPL ที่ยังไม่นิ่งส่วนกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ก็เริ่มนิ่งๆ หลังราคาน้ำมันยังแกว่งในกรอบแคบและรับข่าวผลการดำเนินงาน Q4/16 ไปหมดแล้ว ส่วนกลุ่มสื่อสารและอสังหาริมทรัพย์ แรงซื้อค่อยๆ หายไป และเป็นแรงซื้อหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงๆ และเก็งผลการดำเนินงานเท่านั้น

  หุ้นในกลุ่มค้าปลีก ที่ทยอยประกาศงบ Q4/16 จะมีทั้งที่ดีขึ้นและแย่ลง แต่ก็ไม่มาก เมื่อเทียบกับตลาดคาด ในกลุ่มนี้ในช่วงที่ผ่านมาจะมีแรงกดอย่างต่อเนื่อง เพราะปีที่แล้วทำไว้ดีมาก หุ้นเด่นที่คาดว่าจะโตได้อย่างต่อเนื่องในปีนี้ คือ BJC อย่างไรก็ตามหลังงบ Q4/16 ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด ส่งผลให้มีแรงขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 3 เดือนถึงปัจจุบัน ราคาหุ้นค่อนข้าง Underperform กว่ากลุ่มมากหรือก็คือ ขึ้นได้น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม ซึ่งน่าจะเกิดในช่วงสั้น (ดูจากรูปด้านขวา) โดยเรามองว่าราคาหุ้นที่เทรดกันในปัจจุบันลงมาใกล้ราคาเป้าต่ำสุดที่ 40 บาทและห่างจากเป้าเฉลี่ยกลางที่ 59 บาท สะท้อนความเสี่ยงที่ต่ำมาก

  เมื่อหลายๆกลุ่มยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามา ขณะที่ดัชนี SET ยืนที่สูง จึงเกิดแรงขายหุ้นใหญ่ทำกำไรออกมา ส่งผลให้ดัชนี ค่อยๆย่อตัวลงพฤติกรรมดังกล่าวน่าจะยังเกิดต่อเนื่องไปถึงเดือน มี.ค. (ช่วง XD) จนกว่าจะเห็นความชัดเจนของการแถลงนโยบายเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกของสหรัฐ ซึ่งตรงนี้จะเป็นจุดสำคัญที่ตลาดจะขึ้นหรือลงได้แรง ดังนั้นหากดัชนีหลุดในระดับ 1560+/- จุด โอกาสที่จะลงมาเล่นต่ำกว่า 1550+/- จุดจะมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น

  วันนี้มองดัชนี SET มีแนวโน้มจะซึมลงหลังดีดตัวขึ้นเมื่อวานนี้ จาการที่ตลาดยังขาดปัจจัยหนุน ขณะที่ยังมีแรงกดจากหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์และพลังงาน จากการที่ราคาน้ำมันยังทรงๆ ตัวจากความกังวลเรื่องการเพิ่มขึ้นของสต๊อกน้ำมันในสหรัฐ อย่างไรก็ตามตลาดยังมีโอกาสการรีบาวน์ได้ในช่วงสั้นแต่ไปไม่ไกล โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1578-1582 จุดและแนวรับที่ 1564-1560 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BJC CBG COM7 และ TU

Analysts :

Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]                                  

บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

Morning Market Summary…

  SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,569.56 จุด ลดลง 2.48 จุด (-0.16%) มูลค่าการซื้อขาย 21,575.66 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลง หลังขาดปัจจัยใหม่หนุน โดยมีแรงขายนำในกลุ่มพลังงาน และธนาคาร ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่อ่อนตัว หลังเฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า

Afternoon Perspective…

  แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งลง ภาพรวมตลาดยังเกิดสัญญาณการถดถอย โดยการรีบาวน์กลับของ SET ที่เกิด ยังไม่สามารถทำให้ตัว Index กลับมายืนเหนือระดับเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน หรือระดับ 1573 จุดได้ ซึ่งแปลความหมายว่าตลาดโดยรวมยังไม่เชื่อมั่นในทิศทางระยะสั้นว่าจะกลับมาดีดตัวขึ้นต่อเนื่องได้ โดยยังเกิดแรงขายทำกำไรออกมาต่อเนื่องหลังการทยอยประกาศผลการดำเนินงาน 4Q16 จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้มองว่ามีโอกาสสูงที่ SET Index แกว่งตัวลงมาก่อน เพื่อสร้างฐานรอบใหม่ โดยทางเทคนิค หาก SET หลุดต่ากว่า 1565 จุด จะยืนยันสัญญาณขาย ในทางกลยุทธ์ จำเป็นต้องทยอยลดพอร์ตลงก่อน เพื่อรอสัญญาณกลับตัวรอบใหม่ ระยะสั้นๆ กลับมาเน้นหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยหนุน แนะนำ SGP มีประเด็นบวกจากแนวโน้มผลการดำเนินงาน1Q17 ที่น่าจะออกมาดีต่อเนื่องจาก4Q16 ที่ออกมาดีกว่าที่คาด โดยปัจจัยหนุนหลักจะมาจาก 1) การเพิ่มขึ้นของราคา LPG ในตลาดโลก ซึ่งจะมีผลให้เกิดกำไรจากสต๊อค LPG 2)สภาพอากาศที่หนาวยาวนานกว่าปกติในประเทศจีนจะเป็นปัจจัยหนุนให้ปริมาณการขายLpGในจีนน่าจะยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจาก 4Q16 3) การเปิดเสรีนำเข้า LPG ซึ่งจะประหยัดต้นทุนให้ SGP ปีละ 200-400 ล้านบาท เราให้ราคาเหมาะสมที่ 15.50 บาท

Technical Pick (PM) & Cash Balance...

  Fortune parts Industry (FPI TB; THB 5.10) - ซื้อ

  Samchai Steel Industries (SAM TB; THB 1.65) - ซื้อ

  Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า :  ETE, INOX* (กรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)

Analysts :  

          Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!