- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 21 February 2017 18:50
- Hits: 983
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
รอปัจจัยหนุนใหม่ๆ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดคละเคล้าโดยได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นของหุ้นโรลส์-รอยซ์ และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ และตลาดรอดูการประชุมรัฐมนตรีคลังในกลุ่มยูโรกรุ๊ป ที่จะมีการประชุมเพื่อที่จะอนุมัติเงินช่วยเหลือกรีซในรอบต่อไปทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด 0.60%, 0.00%, -0.05%, -0.15%
ตลาดน้ำมันสหรัฐฯ ปิดทำการ เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นลงในกรอบแคบ ๆ ในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นในภูมิภาค แต่ทางด้านปริมาณการซื้อขายชะลอลง เนื่องจากขาดปัจจัยหนุนใหม่ ๆ กอปรกับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 4/2559 ขยายตัว 3% ตามที่ตลาดคาด กการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปี และการใช้จ่ายของภาครัฐ ทำให้ทั้งปี 2559 ขยายตัวราว 3.2% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาด ทำให้ไม่มีผลต่อตลาดมากนัก ในขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ทางสศช. คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขขายตัวได้ 3-4% โดยแรงหนุนที่สำคัญจากงบกลางปี 2560 ที่เพิ่มเติมอีก 1.9 แสนล้านบาท ในส่วนของตลาดหุ้นในภูมิภาคส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกแต่ไม่มาก เนื่องจากวันจันทร์ (20) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดี นอกจากนี้ตลาดยังรอดูมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาในเร็ว ๆ นี้ การปฏิรูปภาษีดังกล่าวเป็นความคาดหวังที่หนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
แต่อย่างไรก็ตาม มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษีของสหรัฐฯ ออกมาเตือนเรื่องนโยบายภาษีของทรัมป์ว่า จะส่งผลต่อการคลังของสหรัฐฯ ขนานใหญ่ และไม่ง่ายในเชิงปฏิบัติ โดยเฉพาะภาษีชายแดนจำแนกตามถิ่นที่มา (Border Adjustment Tax) แผนภาษีที่พรรครีพับลิกันกำลังร่วมกันร่างในปัจจุบันประกอบไปด้วย การลดภาษีรายได้บุคคลธรรมดาจากระดับสูงสุดที่ 39.6% เหลือ 33% ภาษีนิติบุคคลจากระดับสูงสุด 35% อาจลดเหลือ 20% ทั้งนี้ผู้เชื่ยวชาญคาดว่าแผนลดภาษีของพรรครีพับลิกัน จะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีขึ้นในระยะสั้น แต่ในระยะยาว งบประมาณขาดดุลของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะกลับไปกดดันการลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชนในภายหลัง เมื่อหนี้สาธารณของภาครัฐเต็มเพดาน และต้องมีการขยายเพดานหนี้อย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเรื่องที่น่าติดตามว่าเมื่อประกาศออกมาแล้ว จะหนุนหุ้นสหรัฐฯ ได้อีกหรือไม่
นอกจากนี้วันพุธนี้จะมีรายงานการประชุมเฟดประจำเดือนม.ค. ซึ่งนักลงทุนให้ความสนใจ หลังจากที่สัปดาห์ก่อนประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะเริ่มต้นพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. นี้ ทางด้านปัจจัยภายในประเทศรัฐบาลตั้งเป้าหมายการส่งออกไว้ที่ 5% ซึ่งโอกาสที่จะไทยจะประสบความสำเร็จที่เป้าหมายดังกล่าว จะต้องหวังให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกทรงตัวอยู่ที่ระดับ 50-60 เหรียญ/บาร์เรล โดยเฉพาะแรงหนุนเพิ่มเติมในกรณีที่กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันทั้งในและนอกโอเปกพร้อมใจกันขยายเวลาลดกำลังการผลิตออกไป หรือเพิ่มปริมาณการลดกำลังการผลิต ซึ่งจะส่งผลให้สินค้าเกษตรและความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ดึงให้การส่งออกในกลุ่มอาเซียนฟื้นตัวในปีนี้ ซึ่งสัดส่วนในกลุ่มอาเซียนสูง 25-30% ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่า ยังน่าจะแกว่งในกรอบแคบ ๆ เนื่องจากขาดปัจจัยหนุนใหม่ ๆ
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ดีดกลับไม่ข้ามแถว ๆ 1,580-1,587 จุด แนะนำ ขายทำกำไร
Saravut Tachochavalit, Analyst TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754 EMAIL : [email protected]