- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 21 February 2017 18:28
- Hits: 974
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
แกว่งแคบต่อไป
KGI คาด SET วันอังคารไซด์เวย์ต่อ ภาพใหญ่ยังไม่มีปัจจัยขับเคลื่อนที่แรงพอ (วานนี้ตลาดหุ้นไซด์เวย์เช่นกัน ตามคาด) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเมื่อวานในวัน President Day และตลาดหุ้นยุโรปแกว่งในกรอบแคบ ไม่น่าส่งผลต่อตลาดมากนัก ด้านหุ้นน้ำมันและโรงกลั่นอาจดูดีขึ้นเล็กน้อย หลังราคาน้ำมันขึ้นสูงสุดรอบ 1 สัปดาห์ในเช้าวันนี้ ตามความคาดหวังต่อความร่วมมือของกลุ่มโอเปกและนอกโอเปก ในการลดผลิตน้ำมัน ทั้งนี้นักลงทุนควรติดตามปัจจัยในยุโรปช่วงบ่าย ซึ่งสภาขุนนาง (House of Lord) จะพิจารณาประเด็น Brexit หากมีการอนุมัติเร็ว อาจเป็นจิตวิทยาเชิงลบให้กับตลาดหุ้นโลกได้ในช่วงบ่ายวันนี้ สำหรับปัจจัยภายใน ภาพเศรษฐกิจยังเป็นไปตามนักเศรษฐศาสตร์ KGI คาด และ ก.พาณิชย์เพิ่มเป้ามูลค่าส่งออกปี 2560 เป็นเติบโต 5.0% (อ่านเพิ่มเติมในรายงานเศรษฐกิจวันนี้)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร AH, TMT
AH (เป้า Consensus 17.8 บาท) 1) ประเมินราคาหุ้น Laggard SAT (SAT +9.5% YTD ขณะที่ AH -3.8% YTD) 2) เราประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยพ้นจุดต่ำสุด โดย i) ราคาสินค้าเกษตรฟื้นตัว (เป็นบวกต่อกำลังซื้อ) ii) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัว iii) หมดภาระรถคันแรก และ iv) ประเมินการส่งออกรถยนต์ปีนี้ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก 3) ประเมินหากวันนี้ยืนเหนือแนวราคา 15.4 บาทได้ จะเป็น Break เทรนไลน์ขาลง และแนะนำซื้อเพิ่มเมื่อยืนเหนือแนวราคา 15.6 บาท ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 16 บาท (กำหนด Stop loss 15 บาท) 4) PE ปี 2560 ไม่แพง = 9.3 เท่า (ข้อมูล Bloomberg consensus) ... นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไรใน NYT ที่คาดจะได้อานิสงส์การส่งออกรถยนต์ที่จะฟื้นตัวตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก แนวรับ 15.2 บาท แนวต้าน 15.8 บาท ถัดไปที่ 16.2 บาท (Stop loss 14.8 บาท)
TMT (เป้าพื้นฐาน 20 บาท) 1) ประกาศปันผล 1.5 บาท/หุ้น (Dividend yield 8.2%) ขึ้น XD วันที่ 3 มี.ค. 2) แนวโน้มราคาเหล็กปีนี้ยังดีต่อเนื่องจากอุปสงส์ในประเทศ (การลงทุนภาครัฐ และเอกชน) + มาตรการปกป้องผู้ผลิตเหล็กในประเทศ อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯประมาณการฯแบบอนุรักษ์นิยมว่ากำไรปี 2560 อาจชะลอตัวลง และปันผลกลับสู่ระดับปกติที่ 5.5% (คาดปันผลปี 2560 = 1 บาท/หุ้น) 3) ประเมินกรอบแนวรับ – แนวต้าน 17.5 – 19.7 บาท แนะนำ “เก็งกำไรในกรอบฯ” ... อ่านรายละเอียดในบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้เพิ่มเติม
หุ้นในกระแส
กลุ่มได้ประโยชน์จากการส่งออกฟื้นตัว (RCL, NYT) นักเศรษฐศาสตร์ บล เคจีไอ ประเมินการส่งออกไทยปีนี้ขยาย 2.6% YoY (มีแนวโน้มปรับขึ้น) จากปีก่อนขยายตัวเพียง 0.1% ทำให้เราคาดว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกพ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว แนะนำ “เก็งกำไร” RCL แนวรับ 6.5 บาท แนวต้านแรก 7.2 บาท พ้นได้ถัดไปมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 7.9 บาท (Stop loss 6.4 บาท)
กลุ่มสินเชื่อรายย่อย / สินเชื่อทะเบียนรถ (SAWAD, MTLS, SGF) ประเมิน Catalyst บวก 3 ประเด็นคือ 1) รถคันแรกผ่อนหมด ทำให้มีโอกาสในการทำธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถมากขึ้น 2) แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่องในปีนี้ (นักเศรษฐศาสตร์ บล เคจีไอ คาด กนง คงดอกเบี้ยนโยบายทั้งปี) 3) นโยบายแก้ปัญหาหนี้นอกระบบภาครัฐฯหนุนให้สินเชื่อนอกระบบกลับสู่ในระบบมากขึ้น แนะนำ “เก็งกำไร” SAWAD, MTLS และหุ้นน้องใหม่ SGF (กำลังเริ่มต้นธุรกิจ เช่าซื้อและสินเชื่อทะเบียนรถ โดยแถลงข่าวแผนธุรกิจไปสัปดาห์ก่อน)
หุ้นมีข่าว
(- JMART, TWZ / + ADVANC*) AIS หั่นงบการตลาดตัดรายจ่ายสู้คู่แข่งอินทัชยันปันผล 100% (ไทยโพสต์) เอไอเอสหั่นงบการตลาดไม่ถึงหมื่นล้าน ลดโปรฯ ลดแจกมือถือ คุมรายจ่าย หันลุยอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพิ่ม คาดอีก 3 ปียอดใช้ 10 ล้านครัวเรือน "อินทัช" ยันปันผล 100% "ไทยคม" รุกดูแลลูกค้าหวั่นซ้ำรอยซีทีเอช
(+ MONO, RS*, WORK) ดิจิทัลแย่งแชร์ช่อง 3-7 เอเยนซีเทงบให้รายการเรตติ้งดีหมดยุคผูกขาดโฆษณาไพรม์ไทม์ (โพสต์ทูเดย์) ทีวีดิจิทัลแข่งดุ ช่อง 3 ช่อง 7 เหนื่อยหนัก หลังทีวีดิจิทัลช่องใหม่ตีตื้น เอเยนซีหันซื้อโฆษณารายการเรตติ้งดี นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส เปิดเผยว่า ภาพรวมทีวีดิจิทัลในปีนี้ไม่แย่กว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน เนื่องจากโครงสร้างตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก เพราะลูกค้ามีพฤติกรรมการดูที่เปลี่ยนไป คือ กระจายไปดูรายการของทีวีดิจิทัลช่องอื่นๆ ที่นอกเหนือจากช่องอะนาล็อกเดิมมากขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณามีการกระจายตัวมากขึ้น เนื่องจากทีวีดิจิทัลระดับท็อป 5-6 มีอำนาจในการต่อรองราคามากขึ้น
(+ RCL) กทท.หวังเศรษฐกิจฟื้นไข้ ขนส่งสินค้าพุ่ง 9 ล้านอีทียู (ไทยโพสต์) เรือเอกสุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า การดำเนินงานให้บริการเรือสินค้าและตู้สินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ท่าเรือ-พาณิชย์เชียงแสน (ทชส.) ท่าเรือเชียงของ (ทชข.) และท่าเรือระนอง (ทรน.) ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2560 (ต.ค.-ธ.ค.2559) ขนส่งผ่านท่าเรือ 2.29 ล้านอีทียู
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
TASCO* (เป้าพื้นฐาน 29 บาท) ประเมินแนวต้านแรกที่ 25.5 บาท หาก Breakout ผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 26.5 บาท แนวรับ 24.6 บาท (สำหรับนักเก็งกำไรสั้นกำหนด Stop loss 24.1 บาท)
COM7* (เป้า Consensus 14.6 บาท) วานนี้ปิดที่ 12.2 บาท เหนือแนว CBL ที่ 12.1 บาท สิ้นสุดแนวโน้มขาลง แนะนำ “เข้าซื้อเพิ่ม” (สำหรับนักเก็งกำไรสั้น กำหนด Stop loss 12 บาท) ... Consensus คาดกำไร 4Q59 โต +25% YoY เป็น 130 ล้านบาท และคาดกำไรปี 2560 จะโตเด่นต่อเนื่องอีก 35% YoY + ในเชิง Valuation PEG ≤ 1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มค่าปลีกที่ > 2 เท่า ขึ้นไป
ROBINS* (เป้าพื้นฐาน 75 บาท) ประเมินหากยืนเหนือแนวราคา 60.75 บาท ได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 65 บาท แนวรับ 60 บาท (Stop loss 58 บาท)
SITHAI (เป้าพื้นฐาน 2.74 บาท) ประเมินหากสร้างฐานได้ที่บริเวณ ±2 บาท มีโอกาสที่จะแกว่งตัวทดสอบแนวต้าน 2.18 บาท และถัดไปที่ 2.24 บาท แนะนำ “สะสม” (Stop loss 1.92 บาท) … ประเมินผลการดำเนินงาน 4Q59 จะอ่อนแอเป็นไตรมาสสุดท้าย (อยู่ระหว่างการย้ายเครื่องจักรจากไทยไปเวียดนาม และจะเริ่มการผลิตใน 1H60) และกำไรปี 2560 จะฟื้นตัวตั้งแต่ 1Q60 กลับมาเติบโตระดับ 33% ต่อปี CAGR 2559 – 2562 ทำให้ PEG ตอนนี้ต่ำเพียง 0.75 เท่า (อิง Based EPS 2559)
SQ (เป้า Consensus 6.05 บาท) ประเมินแนวรับ 4.90 บาท แนวต้าน 5.2 – 5.3 บาท (Stop loss 4.9 บาท)
PTTGC* (เป้าพื้นฐาน 76 บาท) แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 68 บาท แนวต้าน 70.5 บาท และถัดไปที่ 72 บาท (Stop loss 65.5 บาท)
SEAFCO (เป้าพื้นฐาน 14.4 บาท) ประเมินแนวรับ 11.5 บาท แนวต้านแรก 11.9 บาท หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 12.5 บาท (Stop loss 11.5 บาท) … แนะนำ Switching จาก PYLON มา SEAFCO
KTB* (เป้าพื้นฐาน 21.4 บาท) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งขึ้นในกรอบแนวรับ – แนวต้าน 19.1 – 20.0 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบแนวรับ – แนวต้าน
BBL* (เป้าพื้นฐาน 189 บาท) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งขึ้นในกรอบแนวรับ – แนวต้าน 177.5 – 186.5 บาท … ประเมินมีโอกาสที่จะปรับเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ (Foreign Limit) ขึ้นจากปัจจุบัน 25% ซึ่ง BBL* ที่มี PBV ถูกกว่า KBANK* และ SCB* จะกลับมาเป็นตัวเลือกที่ดีของนักลงทุนต่างชาติ
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
TMT แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 20 บาท ข้อมูลโดยรวมจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้อยู่ในเชิงบวก จากแนวโน้มตลาดเหล็กในประเทศที่มีแข็งแกร่ง และต้นทุนการผลิตเหล็กที่เพิ่มขึ้นตามราคาแร่เหล็กและถ่านหิน จะช่วยหนุนให้ราคาเหล็กในประเทศยังคงยืนอยู่ในระดับสูงในปี 2560 ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยฯปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2560 เพิ่มขึ้น 16.1% เป็น 600 ล้านบาท แต่ยังคงลดลง 34.1% YoY เนื่องจาก GPM ขยายตัวมากเป็นพิเศษในปี 2559 (ทั้งนี้ ราคาหุ้นอาจจะลดลงหลังขึ้น XD เงินปันผล1.50 บาทในวันที่ 3 มี.ค. 2560)
GPSC* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 31 บาท ข้อมูลที่ได้จากการประชุมนักวิเคราะห์ของ GPSC อยู่ในเชิงลบ จากความล่าช้าของการเริ่มเปิดดำเนินการโครงการใหม่ (IRPCCP เฟสที่ 2 และ Nak lik) นอกจากนี้ รายได้จากเงินปันผลก็มีแนวโน้มจะลดลงหลังจากที่สิทธิประโยชน์จาก BOI หมดอายุ
BDMS* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 26.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรสุทธิใน 4Q59 จะต่ำกว่าประมาณการเดิม โดยคาดการณ์ไว้ที่ 2.18 พันล้านบาท (+6.4% YoY; -6.5% QoQ) ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2559 ลง 5% เหลือ 8.59 พันล้านบาท (+8.5% YoY) และปรับลดประมาณการปี 2560 ลง 11% เหลือ 9.36 พันล้านบาท (+9.0% YoY) การที่ BDMS จะยกเลิกโครงการ Life Privilege Card ซึ่งเป็นปัจจัยลบในเชิงจิตวิทยาการลงทุนระยะสั้นสำหรับนักลงทุน
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้ --- กรอบราคา 1580 – 1575 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1580 จุดได้นั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1580-1595 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1575 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1575-1565 จุด
แนวรับวันนี้: 1575/1566 แนวต้านวันนี้: 1580/1591
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]