- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 20 February 2017 19:27
- Hits: 1591
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
Sideway? ตลาดต่างประเทศเคลื่อนไหวไร้ทิศทางในกรอบแคบ หลังที่ยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ ขณะที่ในวันนี้ (20/2/60) ตลาดสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดี อย่างไรก็ตามคาดตลาดส่วนใหญ่อยู่ระหว่างรอการประกาศแผนปรับลดภาษีของ ปธน.สหรัฐฯ คาดในช่วงปลายเดือนก.พ. – ต้นมี.ค. ตามที่ส่งสัญญาณมาก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดจูงใจให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชน รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการจ้างงาน และคาดส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
ขณะที่แนะติดตามการประชุมของเฟด (14 – 15/3/60) โดยเฉพาะประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งคาดมีผลต่อ Fund Flow ไหลออกจาก Emerging Market รวมถึงไทย และส่งผลต่อค่าเงินสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น คาดทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ที่ซื้อขายเป็นเงินสหรัฐฯ มีราคาลดลง
รวมถึงในระยะกลาง มีการเลือกตั้งของหลายๆ ประเทศในยุโรป เช่น ฮอลแลนด์ ฝรั่งเศส และเยอรมัน ตามลำดับ ซึ่งหากมีการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมืองก็จะกดดันภาพรวมตลาดในระยะต่อไป
ทางด้านราคาน้ำมัน คาดในระยะสั้นยังมีความผันผวนจาก (+) แผนการปรับลดปริมาณผลิตของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ทั้ง OPEC และ Non OPEC (-) ปริมาณผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ ที่ยังเพิ่มต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ยังคงมีความกังวลอุปทานส่วนเกิน อย่างไรก็ตาม คาดระดับราคาน้ำมันในปี’60 อยู่ในระดับที่สูงกว่าปี’59 ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 41 – 42USD ดังนั้นเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนเมื่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับลดลง
ทางด้านประเด็นในประเทศ ยังอยู่ในช่วงทยอยประกาศผลการดำเนินงานปี’59 คาดมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องถึงก.พ.’60 รวมถึงเงินปันผล โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ที่ผลการดำเนินงานเติบโตดี เช่น PTTGC, TOP และ SPRC เป็นต้น
พร้อมยังมีมุมมองที่ดีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในปี’60 ภายใต้ (1) การลงทุนของภาครัฐ ที่ได้แรงขับจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (2) รายได้เกษตรกรที่คาดปรับตัวดีขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก และสถานการณ์ภัยแล้งที่ผ่อนคลายลง และ (3) การส่งออกปรับตัวดีขึ้นจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่เริ่มมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น โดย กกร. คาดส่งออกเติบโต 1.0 – 3.0% รวมถึงได้รับประโยชน์จากเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า และ (4) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาท่องเที่ยวไทย ซึ่ง ททท. คาดว่าทั้งปี’ 60 อยู่ที่ 34 - 35 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 32.59 ล้านคน เมื่อปี’59 พร้อมคาดรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพิ่มขึ้น 10% จาก 1.64 ล้านบาทเมื่อปี’59
SET SET50 SET100
1,577.84 +1.79 988.95 +1.91 2,231.33 +4.17
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+/-) ตลาดต่างประเทศ DJIA +4.28, NASDAQ +23.68, S&P +3.94, FTSE +22.04, CAC -31.88 และ DAX -0.22
DJIA ยังทำสถิติปิดระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 7 อย่างไรก็ตามภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา ก่อนถึงช่วงวันหยุดยาวในสหรัฐฯ โดยตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดทำการในวันที่ 20/2/60 เนื่องในวันประธานาธิบดี
ขณะที่ได้รับปัจจัยบวกจากดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) - ม.ค. เพิ่มขึ้น 0.6% สูงกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 0.5% โยดัชนี LEI คำนวณจากตัวเลขเศรษฐกิจ 10 ประเภท ซึ่งรวมถึง คำสั่งซื้อใหม่ของภาคการผลิต ราคาหุ้น และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มี.ค. +US$0.04 อยู่ที่US$53.40ต่อบาร์เรล ภายใต้ปัจจัยหนุนจากประเด็นที่โอเปกอาจจับมือกับประเทศนอกกลุ่มโอเปก เพื่อขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน เม.ย. -US$2.5 อยู่ที่US$1,239.1ต่อออนซ์ หลังเงินสหรัฐฯ แข็งค่า ซึ่งกดดันต่อสัญญาทองคำ นอกจากนี้ยังชะลอการซื้อขายก่อนที่จะถึงช่วงวันหยุดยาวในสหรัฐฯ โดยตลาดทองคำนิวยอร์กจะปิดทำการในวันที่ 20/2/60 เนื่องในวันประธานาธิบดี
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
18.53 2 2.97
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 46,611.13
สถาบัน 683.8
บัญชีหลักทรัพย์ -172.94
ต่างประเทศ 1,881.78
ในประเทศ -2,392.65
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น SCC
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากการเปิดขายโครงการในปี 60 ที่โดดเด่น เช่น ANAN, SPALI และ SC ในขณะที่ CPN จะได้รับประโยชน์ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น STEC, SYNTEC และ UNIQ
(5) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น
(6) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วง 1Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น WORK
(7) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจสนามบิน เช่น AOT จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.03 อยู่ที่ 2.42%
(ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.27 อยู่ที่ 11.49
หุ้นแนะนำ : SQ
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร .02-684-8788