- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 20 February 2017 19:08
- Hits: 975
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วันศุกร์ที่ผ่านมา แม้ว่าจะเปิดบวกและทดสอบด่าน 1,580-1,583 จุดอีกครั้ง ผลักดันด้วย Big Cap อย่างกลุ่มพลังงาน ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ แต่ก็เกิดแรงขายทำกำไรในช่วงท้ายของการซื้อขายเช่นเดิม ปิด ณ สิ้นวันที่ 1,577.84 จุด บวกเพียง 1.79 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 46,611 ล้านบาท
ทั้งนี้ ต่างชาติคงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 1,882 ล้านบาท แต่กลับมา Short สุทธิใน SET50 Index Futures อีก 2,023 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 เท่ากับ 1,067 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- การเมืองในฝรั่งเศสเข้มข้น นาง Le Pen ยืนยัน French Exit
- ราคาน้ำมันดิบ NYMEX บวกต่อเนื่อง แต่ยังไม่ผ่านด่าน US$55
- ตลาดหุ้น - ตลาดล่วงหน้า - ตลาดตราสารหนี้ ของสหรัฐฯ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันประธานาธิบดี
- เช้านี้ติดตาม GDP ใน 4Q59 ของไทยก่อนตลาดเปิด Bloomberg consensus คาด 3.0% yoy
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 16)
เรายังคงประเมิน SET INDEX แกว่งในกรอบแคบระหว่าง 1,570-1,585 จุด มูลค่าการซื้อขายต่ำกว่า 5.0 หมื่นล้านบาท/วัน เพราะยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุนในช่วงสั้น เป็นเพียงการเก็งกำไรต่อผลการดำเนินงานรายหลักทรัพย์ต่อเนื่องจาก 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ปัจจัยภายในและต่างประเทศขาดน้ำหนัก แม้ว่า DJIA - S&P500 ต่างเดินหน้าทำระดับปิดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่กระแสเงินทุนต่างชาติกลับไร้วี่แววที่ชัดเจนทั้งในตลาดหุ้น และ SET50 Index Futures
สำหรับปัจจัยต่างประเทศที่เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามต่อเนื่องคือ การเมืองภายในอียู โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่ตอนนี้อยู่ในช่วงของการหาเสียง ก่อนเลือกตั้งรอบแรกปลายเดือนเม.ย. แต่รอบจริงต้นเดือนพ.ค.นี้ ซึ่งฝ่ายขวาจัดนาง Le Pen ชูประเด็นการออกจากอียู ลดภาษี มาตรการเข้มงวดผู้คนอพยพ ใกล้เคียง TRUMP อาจนำมาซึ่งความผันผวนของค่าเงินยูโร และการเคลื่อนย้ายเงินทุนจากยูโรโซนได้
ภาพรวมกลยุทธ์การลงทุน "คงคำแนะนำเก็งกำไรหุ้นรายตัว เน้นผลการดำเนินงาน 4Q59 และ/หรือ ปันผลเด่นสำหรับงวดปี 2559 หรือ 2H59"
Daily Pick
1. เก็งกำไร BANPU : ราคาปิด 19.50 บาท ราคาเหมาะสม 22.20 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก เนื่องจากราคาถ่านหินล่วงหน้าทั้ง 3 ตลาดได้แก่ Rotterdam, Richard Bay และ Newcastle ปรับตัวขึ้นในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังรัฐบาลจีนอาจขยายระยะเวลาควบคุมการผลิตถ่านหินไม่เกิน 276 วันต่อปีออกไปอีก เพื่อลดปริมาณ Supply ถ่านหิน
b) คาดกำไร 4Q59 เติบโตทั้ง yoy และ qoq จากแรงหนุนของธุรกิจไฟฟ้าเนื่องจากโรงไฟฟ้าหงสาเดินเครื่องได้ดีขึ้น ขณะที่ธุรกิจถ่านหินคาดว่าจะดีขึ้นเช่นกันในทิศทางเดียวกับราคาถ่านหินที่ฟื้นตัวตั้งแต่ เดือน ก.ย. 2560 ที่ผ่านมา
c) คาดกำไรสุทธิปี 2560 เติบโตสูงถึง +311% yoy เป็น 9,116 ล้านบาท จากการรับรู้ผลประโยชน์เต็มที่ของราคาถ่านหินที่ปรับตัวขึ้นในปี 2559 ทีผ่านมา ซึ่งจะสะท้อนเข้าสู่ราคาขายในปี 2560 และ Valuation ยังไม่แพงที่ PER2560 ระดับ 11.0 เท่า
2. สะสม PSH : ราคาปิด 22.30 บาท ราคาเหมาะสม 28.50 บาท
a) ราคาหุ้นปรับตัวลง -3% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา จากความกังวลหลังบริษัทยังไม่ได้ประกาศจ่ายเงินปันผล 2H59 พร้อมผลประกอบการที่รายงานในพฤหัสที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หลังเข้าประชุมกับผู้บริหารได้ชี้แจงว่าเงินปันผลที่ล่าช้าเกิดจากการเปลี่ยนเป็นบริษัท Holding จึงต้องรอเงินปันผลรับจาก PS ทำให้การจ่ายเงินปันผลล่าช้าจากเดิมคือ เดือน เม.ย. เป็นเดือน มิ.ย.
b) PSH จะมีการประชุมในวันที่ 27 เม.ย. เพื่อพิจารณาจ่ายเงินปันผล 2H59 โดยเราคาดการณ์ราวหุ้นละ 0.70 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 3%
c) มี Catalyst รออยู่ คือการเปิดขายโครงการ The Reserve ทองหล่อ ในช่วงกลางเดือน มี.ค. และคาดว่า Presales จะได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากราคาขายและทำเลสมเหตุสมผล และต่ำกว่าคู่แข่งขัน ขณะที่ Valuation น่าสนใจ ซื้อขายที่ PER2560 เพียง 7.4% และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2560 - 2561 สูงถึงปีละ 6%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิ US$308 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$109 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติยังคงไร้ทิศทาง
นักลงทุนต่างชาติคงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 1,882 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 3,313 ล้านบาท ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิขยับขึ้นอีกเล็กน้อยเป็น 4,167 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนึ้เป็นการ Short สุทธิ 2,023 สัญญา คาดเป็นการกลับมาทยอยเปิดสถานะ Short และทำให้ยอดสุทธิ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 41,992 สัญญา โดย S50H17 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เท่ากับ 0.85 จุด
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง 1,067 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 919 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยทรงตัว ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ปิดทรงตัวที่ 2.732%
Short-Selling วานนี้
เท่ากับ 774 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,151 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 50 หลักทรัพย์
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 15 เน้นกลุ่มธนาคาร และพลังงาน
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเท่ากับ 937 ล้านบาท รวม 15 วันทำการซื้อสุทธิ 14,578 ล้านบาท โดย NVDR ยังคงเน้นสะสมกลุ่มธนาคารมากถึง 328 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน 261 ล้านบาท และกลุ่มปิโตรเคมี 228 ล้านบาท แต่ลดน้ำหนักกลุ่มขนส่งสูงสุด 104 ล้านบาท และกลุ่มค้าปลีก 97 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
นโยบายนักท่องเที่ยวใหม่ของ Trump จะไม่ยกเว้น Green Card: เลขาธิการหน่วยงานด้านความปลอดภัย ให้ความเห็นว่านโยบายนักท่องเที่ยวจาก 7 ชาติมุสลิม จะไม่มีข้อยกเว้นสำหรับผู้ที่ถือ Green Card หรือนักท่องเที่ยวที่วางแผนไว้ก่อนหน้า ทั้งนี้ประธานาธิบดี Trump เตรียมออกมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น
ยุโรป
เยอรมันประเมินค่าเงินยูโรไม่สะท้อนพื้นฐานที่แท้จริง: นายกฯ เยอรมัน ให้ความเห็นว่าค่าเงินยูโรถูกกระทบจากนโยบายของ ECB ที่ออกมาช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่อ่อนแอ อย่างโปรตุเกสถึงสโลวาเนีย ไม่ได้เป็นการสนับสนุนการส่งออกของเยอรมัน ซึ่งถือเป็นการโต้ตอบหลังที่ปรึกษาด้านการค้าของ Trump กล่าวถึงเยอรมันได้ประโยชน์จากค่าเงินยูโรที่อ่อนค่า
สภาสูงอังกฤษอาจมีเงื่อนไขในการทำ Brexit: อดีตรมว.ของพรรคฝ่ายค้าน ให้ความเห็นต่อการพิจารณา Brexit นั้น สภาสูงอาจเสนอเงื่อนไข หากในสภาฯ พิจารณาและเห็นชอบในเงื่อนไขที่เสนอมา ขั้นตอนต่างๆ จะกลับไปยังสภาล่าง เพื่อพิจารณารับรองอีกครั้ง ซึ่งอาจทำให้เงื่อนไขเวลาตามที่นายกฯ อังกฤษกำหนดไว้ภายในสิ้นเดือนมี.ค. อาจไม่ทันได้
? อียูส่งสัญญาณเตือนระดับหนี้สาธารณะของอิตาลี: EU Commission เตรียมเตือนอิตาลีหากไม่เร่งดำเนินการลดระดับหนี้สาธารณะตามกฎหมายของอียู อาจเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้น เว้นเสียจากว่าอิตาลีจะยื่นแผนและยืนยันการลดการขาดดุลตามแผน ตามกฎหมายอียู อิตาลีจะต้องลดระดับหนี้สาธารณะลง 3.6% ของ GDP ต่อปี จาก ณ ระดับสิ้นปี 2560 ที่ 133.3% ของ GDP เป็นระดับสูงสุดใหม่ของอิตาลี
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
ธนาคารกลางอินเดียมุ่งเน้นอัตราเงินเฟ้อที่แท้จริง: ธนาคารกลางอินเดีย มุ่งเน้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ แท้จริงเป็นสาระสำคัญ เพราะราคาน้ำมันพืชที่ลดลงเป็นเพียงการชั่วคราว ขณะที่ทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้คณะกรรมการด้านนโยบายการเงินต้องติดตามประเด็นนี้อย่างใกล้ชิด
รัฐบาลอินเดียเตรียมยกเลิกเงินอุดหนุนโปรแตชในปีหน้า: รัฐบาลอินเดียเตรียมยกเลิกเงินอุดหนุนโปแตช 17% ตั้งแต่ปีงบประมาณหน้า เพื่อลดการขาดดุลงบประมาณ แม้ว่าราคาในตลาดโลกจะปรับตัวลงก็ตาม แต่การยกเลิกเงินอุดหนุนนี้จะทำให้ราคาปุ๋ยขยับขึ้น
ไทย
ไม่มี
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul Assistant Analyst