- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 15 February 2017 19:24
- Hits: 16173
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
คาดลงสร้างฐานที่แนวรับ
ดัชนีฯเมื่อวานลงแรงเกินคาด จากแรงขายหุ้นแบงก์-ผิดหวังไม่ได้เพิ่มน้ำหนักใน MSCI รอบนี้ โดยมีเพียง BANPU ที่ได้เพิ่มน้ำหนัก และเมื่อวาน ประธานเฟดแถลงฯต่อสภาครองเกรส ส่งสัญญาณ พร้อมขยับขึ้นดอกเบี้ย ตามภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ขยายตัว (ปีนี้มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ส่วนคืนนี้ตามดูแถลงการณ์ต่อสภาล่างเพิ่มเติม แต่คาด message เหมือนเดิม) ส่งผลกดดันตลาดหุ้นเกิดใหม่และหุ้นไทย
วันนี้คาดดัชนีฯ มีโอกาสหลุดแนวรับระยะสัปดาห์ 1,570 คาดลงสร้างฐานแนวรับ 1,560/1,565 จุด ต้าน 1,580 จุด (แนวรับรายเดือน 1,550 จุด วางเป็นจุด Stop loss ของรอบ)
ระยะสัปดาห์ คงคาด Upside จำกัดบริเวณ 1,620 จุด / แนวรับ 1,570 จุด แม้กว่าการหมุนกลุ่มเล่นช่วงนี้ จะพยุงไม่ให้ตลาดปรับลงแรง แต่ด้วย Upside ที่จำกัดเราคาดว่า หุ้นขนาดกลาง-เล็ก ที่มีปัจจัยหนุน ราคาหุ้นระยะสั้น คาดจะกลับมา Outperform ตลาด
News flow เดือน กพ.-มีค. (+/-) ผลประกอบการและปันผล บจ.ไทย (0/-) แถลงการณ์นโยบายของ ปธน.สหรัฐฯ ในเดือน กพ. (+) กรอบระยะเวลาการจัดตั้ง Super Holding ของรัฐวิสาหกิจไทย คาดมีกระแสข่าวความคืบหน้าช่วงครึ่งหลังของเดือน กพ. (หุ้นในกลุ่ม PTT และ AOT, THAI, KTB, MCOT อาจได้จิตวิทยาบวกระยะสั้นจากข่าวนี้) (+/-) ประกาศแบงก์ผู้ชนะ EDC Pool เครื่องรับรูดบัตร 5.5 แสนจุด (+/-) ตัวเลขเงินเฟ้อที่จะรายงานในหลายภูมิภาคสัปดาห์นี้ คาดสนับสนุนหุ้นที่เชื่อมโยง rReflation Themet: เน้นหุ้นปันผลสูงชนะเงินเฟ้อ-กลุ่มแบงก์, โรงกลั่น และ กลุ่มบริโภคค้าปลีก จากดัชนีเงินเฟ้อผู้บริโภคที่ขึ้น เร็วกว่าดัชนีเงินเฟ้อผู้ผลิต (CPI>PPI) สะท้อนกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นตามภาวการณ์ฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ฝั่งต้นทุนการผลิตขึ้นช้ากว่า
คาดกรอบดัชนีฯระยะเดือน 1,550-1,620 จุด แนะเลือกลงทุน ไปที่หุ้นที่ ให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูง จากเงินปันผลปี 2016 (หักระหว่างกาลแล้ว) สูงกว่า 4% ขึ้นไป เช่น GLOW IRPC KTB TCAP JASIF SC SIRI LPN (ดูรายงานกลยุทธ์หุ้นปันผลวันที่ 30 มค.17)
หุ้นแนะนำวันนี้ PTTGC ประกาศงบฯเมื่อวานนี้ กำไรหลักอยู่ที่ 9.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% YoY และ 139% QoQ กำไรที่ออกมาสูงกว่าทีเราและตลาดคาด 35% และประกาศการซื้อ/รับโอนสิทธิ์ในสินทรัพย์จาก PTT (Asset Injection) ในกลุ่มโพรพิลีน และ เคมีภัณฑ์ชีวภาพ (Biochemical) มูลค่าไม่เกิน 26.8 พันล้านบาท ซึ่งเราคาดเบื้องต้นกำไรส่วนเพิ่มราว 2.3 พันล้านบาท หรือ 10% คาดตลาดจะมีการปรับประมาณการขึ้นเพื่อสะท้อนโครงการใหม่นี้ แนวรับ 67 บาท ต้าน 70/72 บาท stop loss 66 บาท
รายงานวันนี้
(+) PTTGC รายงานกำไรสุทธิ 4Q16 ที่ 9.74 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 108% YoY และ 57% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ Inventory gain 2.4 พันล้านบาท, ขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ 907 ล้านบาท, ขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ 656 ล้านบาท และ ขาดทุนจากอัตราเปลี่ยน 638 ล้านบาท กำไรหลักอยู่ที่ 9.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% YoY และ 139% QoQ กำไรที่ออกมาสูงกว่าทีเราและตลาดคาด 35% เรามีมุมองมองเชิงบวกต่อ 1Q17 เนื่องจากปกติไตรมาสแรกของปีจะเป็นช่วง High season ทำให้ Chemical spreads ปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ หนุนให้กำไรเติบโตได้ YoY และ QoQ เราอยู่ระหว่างการทบทวนประมาณการปี 2017 เพื่อสะท้อน การซื้อ/รับโอนสิทธิ์ในสินทรัพย์จาก PTT (Asset Injection) ในกลุ่มโพรพิลีน และ เคมีภัณฑ์ชีวภาพ (Biochemical) มูลค่าไม่เกิน 26.8 พันล้านบาท ซึ่งเราคาดเบื้องต้นกำไรส่วนเพิ่มราว 2.3 พันล้านบาท หรือ 10% เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 72 บาท
(-) AOT รายงานกำไรสุทธิ 1Q17 (ต.ค.-ธ.ค. 2016) 5,084 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% YoY และ 21% QoQ โดยกำไรหลักอยู่ที่ 4,917 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% YoY และ 14% QoQ เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด แนวโน้ม 2Q17 (ม.ค.-มี.ค. 2017) เราคาดกำไรหลักจะกลับมาเติบโตได้ดี ทั้ง YoY และ QoQ จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ***บริษัทมีประเด็นเรื่องการโดนเรียกเก็บค่าเช่าที่ดินจากราชพัสดุเพิ่ม ซึ่งเดิมเก็บราว 5% ของรายได้ และจะเก็บเพิ่มโดยคิดเป็นของมูลค่าทรัพย์สินด้วย จากการประเมินเบื้องต้น คาดบริษัทจะต้องจ่ายค่าเช่าย้อนหลังราว 2 หมื่นล้านบาท และค่าเช่ารายปีเพิ่มอีก 4 พันล้านบาท/ปี ซึ่งจะกระทบกำไรของบริษัทราว 20% และราคาเป้าหมายปรับลดลง 5 บาท/หุ้น ซึ่งประเด็นนี้ยังคงต้องรอข้อสรุปต่อไป*** อย่างไรก็ดีเรายังไม่รวมในประมาณการ คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 49 บาท
(0/-) IRPC รายงานกำไร 4Q16 ที่ 1,694 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 279%YoY และ 30%QoQ) น้อยกว่าตลาดคาดราว 24% เพราะขาดทุนจากการ hedging น้ำมันที่ราว 1,200 ล้านบาท มากกว่าคาดราว 500 ล้านบาท สำหรับ 1Q17 คาดกำไรหลักปรับตัวลดลง เพราะมีการ shutdown โรงงานราว 1 เดือน อย่างไรก็ดีเรามองว่าราคาหุ้นน่าจะยังคงยืนได้จากเงินปันผลที่สูง โดยบริษัทจ่ายที่ 0.23 บาท/หุ้น XD วันที่ 27/2/17 คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 4.3% คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 6 บาท
(+) SF บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 4Q16 ที่ 192 ล้านบาท ลดลง 21%QoQ เพราะมีการบันทึกการปรับลดมูลค่ายุติธรรมอสังหาฯเข้ามาราว 57 ล้านบาท และลดลง YoY เพราะปีที่แล้วมีกำไรจากการปรับมูลค่าฯ หากไม่รวมรายการดังกล่าว กำไรหลักอยู่ที่ 232 ล้านบาทยังคงเติบโตได้ดี 7%YoY และ 11%QoQ Q ภาพรวมปี 2016 บริษัทมีกำไรหลักที่ 881 ล้านบาท เติบโตราว 6%YoY โดยกำไรสุทธิรายงานที่ 964 ล้านบาท ลดลง YoY เพราะปีที่แล้วมีกำไรจากการปรับมูลค่าฯครั้งใหญ่ สำหรับส่วนแบ่งกำไรหลักจากกิจการร่วมค้า (หลักๆคือ MEGA Bangna) ที่ 432 ล้านบาท เติบโต 14%YoY พร้อมกันนี้บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 0.20 บาท/หุ้น โดยจะ XD วันที่ 27 มี.ค. คงคำแนะนำ ซื้อ
(+) JASIF รายงานกำไร 4Q16 ที่ 1.64 พันล้านบาท คิดเป็น 0.30 บาท/หน่วย ลดลง 10.4% YoY แต่ขึ้น 26.5% QoQ โดยกำไรหลัก (สำหรับจ่ายปันผล) อยู่ที่ 1.33 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.8% YoY และ 2.7% QoQ เป็นไปตามคาด และกองทุนประกาศจ่ายปันผล 0.24 บาท/หน่วย จะ XD วันที่ 23/2/17 เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 13 บาท เรายังคงมองว่าเงินปันผลที่สูงราว 8.3% ยังคงน่าดึงดูดมากกว่าค่าเฉลี่ยเงินปันผลของ SET ที่ราว 3%
(-) KCE รายงานกำไรสุทธิ 4Q16 ที่ 690 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% YoY แต่ลดลง 12% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 29 ล้านบาท กำไรหลักอยู่ที่ 661 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY แต่ลดลง 15% QoQ ตัวเลขที่ออกมาต่ำกว่าที่เราคาด 10% มุมมอง 1Q17 เราคาดกำไรจะกลับมาเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ จากการเพิ่มกำลังการผลิต, ประสิทธิภาพโรงงานใหม่ และผลของปัจจัยด้านฤดูกาล เรายังชอบในการเติบโตของ KCE หนุนโดยอุปสงค์ต่อสินค้าที่ยังแข็งแกร่ง และภาพการขยายกำลังการผลิตต่อเนื่อง ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาน่าจะสะท้อนกำไรที่ชะลอตัวและราคาทองแดงที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแล้ว ยังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 120.50 บาท
(-) PLAT รายงานกำไรสุทธิ 4Q16 181 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% YoY แต่ทรงตัว QoQ เป็นไปตามที่เราคาด เรามองว่ากำไรปี 2017 น่าจะยังเติบโตได้ดีต่อเนื่องจากปี 2016 ธุรกิจโรงแรมน่าจะเติบโตได้น้อยกว่าปี 2016 เนื่องจากฐานที่ต่ำในปี 2015 จากเหตุการณ์ระเบิด แต่การเปิดตัวใหม่ของ Talad Neon น่าจะมาชดชเยในส่วนนี้ได้ (หนุนรายได้ราว 4%) เรายังมองว่า PLAT เทรดอยู่ในระดับที่แพง PER 25.5 เท่า ในขณะที่คาดกำไรเติบโตเพียง 11% ยังคงคำแนะนำ ขาย ราคาเป้าหมาย 6.65 บาท
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+/-) บจ.ที่คาดว่าจะรายงานงบ ในสัปดาห์นี้ PLANB SPRC BCP PS RATCH MAJOR เป็นต้น
(*/+) GL นัดประชุมนักวิเคราะห์ และผู้จัดการกองทุน วันที่ 15 กพ. (ที่มา บริษัทฯ)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(0) จันทร์ ญี่ปุ่น GDP 4Q16 1 รายงาน 1.0% (คาด +1.1%) โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน หลังได้รับแรงหนุนจากการส่งออกและการลงทุน (ที่มา Bloomberg)
(0/+) อังคาร US PPI final demand มค.คาด +0.3% คงที่ m-m. เยอรมนี GDP 4Q16 1 st คาด +0.5% จาก +0.2% q-q. อิตาลี GDP 4Q16 1 st คาด +0.2% จาก +0.3%, EU GDP 4Q16 2 nd คาด +0.5% คงที่ และ Industrial production คาด -1.7% จาก +1.5%, เยอรมนี ZEW index Expectation กพ. คาด +15 จาก 16.6, UK CPI มค.คาด +1.9% จาก +1.6% y-y. จีน CPI มค.คาด +2.4% จาก 2.1%y-y. (ที่มา Bloomberg)
(+) พุธ US Consumer prices index มค.คาด +0.3%, US Retail sale มค.คาด +0.1% จาก +0.6% m-m. เงินเฟ้อ สเปน มค. คาด +0.3%, อินโดนีเซีย ส่งออกเดือน มค.คาด +18.1% จาก +15.6% y-y. ไต้หวัน GDP 4Q16 คาด +2.6% (ที่มา Bloomberg)
(0) พฤหัส US Housing starts มค. คาด +1230k จาก 1226k, ECB account of the monetary meeting, ประชุมธนาคารกลางอินโดนีเซีย คาดคงดอกเบี้ย 4.75%, มาเลเซีย GDP 4Q16 คาด +4.3% y-y. (ที่มา Bloomberg)
(0) ศุกร์ สิงคโปร์ GDP 4Q16 คาด +2.4% y-y. ปรับคาดการณ์เพิ่มจาก +1.8% (ที่มา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค