- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 09 February 2017 18:03
- Hits: 8966
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
มีสัญญาณการชะลอลงของ FED fund futures เดือนมี.ค.
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบจากแรงเทขายหุ้นกลุ่มการเงินหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ ปรับตัวลง ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -0.18%, 0.15%, 0.07%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับความหวังในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซน ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -0.05%, 0.04%, 0.26%, 0.58%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 0.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 0.07 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.12 ดอลลาร์/บาร์เรล จากแรงช้อนซื้อเก็งกำไร
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยสวนทางกับภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลง โดยมีแรงซื้อเก็งกำไรจากหุ้นที่ได้ประโยชน์จากปัจจัยภายในประเทศ หลังครม. ได้อนุมัติให้ขยายเวลายกเว้นค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าของนักท่องเที่ยวต่างชาติอีก 6 เดือน ซึ่งเป็นการขยายจากมาตรการเดิมที่ดำเนินการในช่วงต้นเดือนธ.ค. 59 - 28 ก.พ. 60 เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ทำให้มีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มโรงแรม MINT เข้ามาอย่างคึกคัก ในขณะที่ CENTEL, ERW ก็ได้อานิสงค์ด้วย นอกจากนี้ยังมีแรงซื้ออย่างคึกคักในหุ้นกลุ่มสื่อสาร หลังทีโอทีจะเปิดสรรหาคู่ค้าในการให้บริการไร้สายคลื่นความถี่ย่าน 2300MHz โดยจะเปิดรับเอกสารในวันที่ 10-15 ก.พ. โดยจะเป็นการคัดเลือกแบบ beauty contest ส่วนการเซ็นสัญญาคาดว่าจะเซ็นได้ภายในไตรมาส 3/2560 ส่งผลให้มีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้น DTAC เนื่องจากคาดว่า DTAC ต้องดิ้นรนเพื่อหาคลื่นใหม่ทดแทนคลื่น 1800 MHz และ 850 MHz ที่จะหมดสัมปทานในปี 2561 รวมถึงแรงซื้อในหุ้น ADVANC, INTUCH ที่คาดหวังในเงินปันผล ส่วนผลการประชุมกนง. วานนี้เป็นไปตามที่ตลาดคาด มีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยนโยบาย 1.5% พร้อมประเมินเศรษฐกิจไทยมีทิศทางที่ฟื้นตัวดีขึ้น และฟื้นตัวได้ดีกว่าที่ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อน โดยได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจภายในประเทศที่ฟื้นตัวจากแรงขับเคลื่อนทั้งของภาครัฐและเอกชน โดยการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนทยอยปรับตัวดีขึ้น การส่งออกที่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวหลังได้รับผลกระทบจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ทำให้เราคาดว่ากนง. น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับนี้ไว้จนถึงสิ้นปีนี้ ในขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อภายในปีนี้น่าจะขยับขึ้นไม่ถึงระดับที่กดดันให้กนง. จำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนของปัจจัยต่างประเทศที่อาจกระทบต่อความเสี่ยงของเศรษฐกิจในประเทศยังมีมากพอสมควร อาทิเช่น การเลือกตั้งในยุโรปภายในปีนี้ ที่เริ่มมีกระแสการหาเสียงในลักษณะชาตินิยมคล้าย ๆ กับสหรัฐฯ นโยบายเศรษฐกิจและนโยบายทางด้านการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ที่ยังไม่มีความชัดเจน และเน้นการเจรจาแบบทวิภาคีมากขึ้น และเสถียรภาพทางการเงินของจีน ทั้งนี้กนง. ได้ขอให้ธปท. จัดทำแบบจำลองสถานการณ์ผลกระทบจากนโยบายต่างๆ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อประกอบการประชุมกนง. ในครั้งต่อไป เนื่องจากนโยบายของทรัมป์มีทั้งในด้านบวกจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภายในสหรัฐฯ นโยบายทางด้านภาษี และทางด้านลบคือ การกีดกันทางการค้า เป็นต้น สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่า น่าจะดีดต่อต่อเนื่อง หลังมีสัญญาณการชะลอตัวลงของ FED fund futures เดือนมี.ค ลง
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ไม่ต่ำกว่าแนวรับแถว ๆ 1,580 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร
Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]