- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 09 February 2017 17:45
- Hits: 1672
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้เกิด Technical Rebound เด่น นำโดยกลุ่ม ICT และ AOT เพื่อเก็งกำไรก่อนแตกพาร์ในวันที่ 9 ก.พ. ภายใต้บรรยากาศการลงทุนรอบเอเชียที่ไม่โดดเด่น และราคาน้ำมันดิบหลุด US$52 ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ปิด ณ สิ้นวันที่ 1,589.29 จุด บวก 6.77 จุด มูลค่าการซื้อขาย 59,062 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 อีก 541 ล้านบาท และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 10 ลดลงเหลือ 2,214 ล้านบาท แต่คงการ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 799 สัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- ติดตามการลงนามสัญญาว่าจ้างรถไฟฟ้าสายสีส้มวันนี้
- ติดตามการประกาศงบ GPSC วันนี้
- กระแสเงินทุนต่างชาติยังไม่ชัดเจนต่อการลงทุนในไทย
- AOT เริ่มซื้อขายด้วยพาร์ใหม่ 1 บาทวันนี้
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 10)
SET INDEX มีโอกาสขยับขึ้นทดสอบด่านสำคัญ 1,590-1,600 จุด จับตาหุ้นหลักในกลุ่มธนาคาร และกลุ่มพลังงาน หากฟื้นตัว บวกกับ AOT ที่ซื้อขายด้วยพาร์ใหม่ 1 บาท ย่อมสร้างสีสรร และผลักดันให้ SET INDEX ขยับขึ้นสู่กรอบดังกล่าวได้ ภายใต้การลงทุนที่ไร้ปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ เรายังคงให้น้ำหนักกับการเก็งกำไรต่อผลการดำเนินงานใน 4Q59 หรือผลตอบแทนจากเงินปันผลงวดปี 2559 หรือ 2H59 เป็นประเด็นเก็งกำไรตลอดเดือนก.พ.
ขณะที่ SET INDEX จะทะลุแนว 1,600 จุดได้ในรอบนี้ขึ้นอยู่กับ กระแสเงินทุนต่างชาติต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย หากซื้อสุทธิหนาแน่นและต่อเนื่องในตลาดหุ้น และทยอยปิดสถานะ Short ใน SET50 Index Futures ย่อมยืนยันทิศทาง SET INDEX ในรอบนี้ หรือผลการดำเนินงานในกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมีออกมาดีกว่าคาด และทำให้ตลาดปรับประมาณการและราคาเหมาะสมขึ้น ก็อาจเป็นอีกปัจจัยที่ผลักดัน SET INDEX รอบนี้
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน ยังคงแนะนำ "สะสมหุ้นเป้าหมายที่ผลการดำเนินงาน 4Q59 เด่น และ/หรือ ปันผลเด่น"
Daily Pick
1. สะสม BJC : ราคาปิด 50.75 บาท ราคาเหมาะสม 59.00 บาท
a) คาดการณ์กำไรจากการดำเนินงานปกติ 4Q59 เติบโตสูงถึง +104% yoy และ +102% qoq เป็น 1,447 ล้านบาท ทำระดับสูงสุดใหม่ของบริษัท จากการรวมงบของ BIGC อย่างเต็มไตรมาส และดอกเบี้ยจ่ายลดลง -10% qoq หลังเสร็จสิ้นการ Refinance ใน 3Q59
b) คงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของกำไรปกติปี 2560 ที่คาดว่าจะเติบโตถึง +99% yoy เป็น 6,761 ล้านบาท จากการรวมงบ BIG เต็มปี, การขยายกำลังการผลิตขวดแก้ว และ Synergy ด้านต้นทุน ส่งผลให้เกิดแรงผนึกและประหยัดต้นทุนด้าน Logistic, IT และการเงิน
c) ซื้อขายที่ระดับ PEG2560 เพียง 0.3 เท่า เทียบกับกลุ่มค้าปลีกที่ 1.7 เท่า สะท้อนให้เห็นว่าราคาหุ้น BJC ยัง Undervalue มาก ให้เป็น Top pick ของกลุ่มค้าปลีก
2. สะสม KTB : ราคาปิด 19.00 บาท ราคาเหมาะสม 21.00 บาท
a) MBKET ประเมินว่าหุ้น KTB จะได้อานิสงค์เชิงบวกจากการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติ หลัง NVDR ซื้อ KTB สูงสุดเป็นอันดับ 1 วานนี้ 315 ล้านบาท และสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 2 MTD ที่ 922 ล้านบาท และอันดับ 5 YTD ที่ 2,067 ล้านบาท
b) คาดการณ์เงินปันผลปี 2559 หุ้นละ 0.90 บาท (จ่ายปีละ 1 ครั้ง) คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีที่ 4.7%
c) ทิศทางผลประกอบการปี 2560 คาดว่าจะขยายตัวจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ และประเด็นลงทุนใน KTB นอกจากเงินปันผลที่สูงแล้ว Valuation ยังค่อนข้างถูก ซื้อขายที่ PER2560 เพียง 7.9 เท่า และ PBV2560 ที่ 0.9 เท่า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิ US$384 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$162 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ไทยต่อเนื่อง แต่อัตราที่ชะลอตัว
นักลงทุนต่างชาติคงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 อีก 541 ล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิ 2,334 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 5,909 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 799 สัญญา รวม 2 วันทำการ Short สุทธิ 1,869 สัญญา คาดเป็นการทยอยเปิดสถานะ Short ต่อเนื่อง ทำให้ยอดสุทธิ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิขยับขึ้นเป็น 30,044 สัญญา โดย S50H17 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 5 แคบลงเหลือ 1.83 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 2.40 จุด
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติคงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 10 ลดลงเหลือ 2,214 ล้านบาท รวม 10 วันทำการซื้อสุทธิ 49,385 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาพันธบัตรไทยขยับขึ้นเป็นวันที่ 5 อีกเล็กน้อย ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงอีก 0.39bps จากวันก่อนหน้าลดลง 1.76bps ปิดที่ 2.725%
Short-Selling วานนี้
เท่ากับ 455 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 562 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 48 หลักทรัพย์ เท่ากับวันก่อนหน้า
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 7 ยังคงเน้นสะสมกลุ่มธนาคารต่อเนื่อง
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 505 ล้านบาท ต่ำกว่าวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 704 ล้านบาท รวม 8 วันทำการซื้อสุทธิ 5,642 ล้านบาท โดย NVDR ยังคงเน้นสะสมกลุ่มธนาคารอีก 649 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มไฟแนนซ์ 232 ล้านบาท และกลุ่ม ICT 199 ล้านบาท แต่ลดน้ำหนักกลุ่มวัสดุก่อสร้าง 323 ล้านบาท และกลุ่มอาหาร 140 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
นโยบายสำคัญของประธานาธิบดี Trump
- ยืนยันใช้อำนาจที่มีอยู่ในการควบคุมนักท่องเที่ยวจาก 7 ชาติมุสลิม แม้ว่าศาลจะมีการคัดค้านคำสั่งพิเศษดังกล่าว Trump ยืนยันนโยบายนี้เป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับประเทศ
ยุโรป
โพลล์ผู้นำฝ่ายค้านเยอรมันมีเรตติ้งดีขึ้นเป็นลำดับ: พรรค Social Democrats (SPD) เรตติ้งล่าสุด 31% หลังเสนอนาย Martin Schulz เข้าชิงตำแหน่งนายกฯ ที่จะมีการเลือกตั้งในเดือนก.ย.ปีนี้ และถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2555 ที่โพลล์ของ Forsa Institute ให้เรตติ้ง SPD สูงกว่า 30% ส่วนพรรคของนายกฯ Merkel มีคะแนน 34% ลดลง 1%
โพลล์ล่าสุดสนับสนุนการแยกตัวเป็นอิสระของสกอตแลนด์: การสำรวจ BMG ของ Herald Scotland แสดงว่า ผลสำรวจ 49% ของชาวสกอต์แลนด์สนับสนุนการแยกตัวออกเป็นอิสระ ขณะที่ 51% ไม่เห็นด้วย เพิ่มขึ้นจากการสำรวจในเดือนม.ค.ที่เห็นด้วยกับการแยกตัวเป็นอิสระที่ 45.5% และ 54.5% ไม่เห็นด้วย
สภาล่างอังกฤษรับรอง Brexit: สภาได้สนับสนุน Brexit ด้วยเสียง 494 ต่อ 122 ถัดไปคือ วุฒิสภาจะเป็นผู้พิจารณาร่างกฎหมาย Brexit ต่อไป ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ครองเสียงข้างมากในสภาสูง ทั้งนี้รัฐบาลต้องการให้ทุกขั้นตอนเสร็จสิ้นภายในวันที่ 7 มี.ค.
นายกฯ อังกฤษ ยืนยันการขอแยกตัวเป็นอิสระของสกอตแลนด์ไม่สามารถกลับเป็นส่วนหนึ่งของอียู: นายกฯ อังกฤษ กล่าวถึงกรณีที่สกอตแลนด์ต้องการขอทำประชามติเพื่อแยกออกจากอังกฤษและกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของอียู ไม่สามารถทำได้
จีน
ทางการจีนเรียกหารือถึงการแลกเปลี่ยน Bitcoin: ธนาคารกลางจีน ได้หารือกับสถาบันการเงินที่ให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin หลายแห่ง มีแนวโน้มที่ธนาคารกลางจีนจะออกกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดมากขึ้นในการควบคุมการซื้อขายดังกล่าว เพื่อป้องกันการฟอกเงินและควบคุมการไหลออกของเงินทุน
เอเชียแปซิฟิก
ดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นเกินดุลสูงสุดใหม่: ปี 2559 ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 20.6 ล้านล้านเยน หรือ US$1.8363 แสนล้าน จากราคาน้ำมันดิบที่ต่ำ, จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และรายได้รับจากการลงทุนในต่างประเทศ ส่วนดุลการค้าเกินดุล 5.6 ล้านล้านเยน เทียบกับการขาดดุล 6.30 แสนล้านเยนในปี 2558 จากผลของราคาน้ำมันดิบที่ลดลงช่วยลดภาระการนำเข้า
ธนาคารกลางอินเดียคงอัตราดอกเบี้ย: ธนาคารกลางอินเดียคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 6.25% ด้วยมติเอกฉันท์ 6-0 เป็นการคงอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 พร้อมส่งสัญญาณนโยบายการเงินกลับสู่ระดับปานกลาง จากก่อนหน้าที่จะเป็นการผ่อนคลาย โดยติดตามอัตราเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด
ธนาคารกลางนิวซีแลนด์คงอัตราดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยนโยบายคงที่ 1.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์ พร้อมยกเลิกโอกาสที่จะลดอัตราดอกเบี้ยจากการประมาณการของธนาคารกลาง เนื่องจากความเสี่ยง ณ ปัจจุบันอยู่ในระดับที่สมดุลย์ ภายใต้เศรษฐกิจที่เติบโตมากกว่า 3.0% สร้างแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อ
ไทย
รมว.คลัง เผยจะยื่นไฟลลิ่งไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ภายในเดือนมี.ค.: รมว.คลัง ยืนยันว่า จะสามารถเปิดขายหน่วยลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund) ให้นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันได้ภายในเดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้ ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) อยู่ระหว่างคัดเลือก 2 ใน 3 ของโครงการ ได้แก่ ทางด่วนบูรพาวิถี ทางพิเศษฉลองรัช และเส้นกาญจนาภิเษก เพื่อมาระดมทุนล็อตแรก วงเงินราว 4-5 หมื่นล้านบาท ยืนยันว่าการลงทุนในไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์จะเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย โดยในวันนี้ (8 ก.พ.) คณะกรรมการ กทพ. จะมีการประชุมเพื่อคัดเลือกโครงการลงทุนในการเข้ามาระดมทุนกับไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์รอบแรก 2 โครงการ โดยคาดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผน
กนง.มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ย: กนง. ประเมินว่าแม้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเริ่มชัดเจนมากขึ้น แต่ยังต้องเผชิญความไม่แน่นอนอยู่มาก โดยเฉพาะจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบางและความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของประเทศอุตสาหกรรมหลัก ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ยังอยู่ในระดับต่ำ มติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปีตามตลาดคาดการณ์
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul Assistant Analyst