WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Asiawealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

ความเสี่ยงจากนโยบาย Trump และการเลือกตั้งในยุโรป
      คาดหุ้นไทยวันนี้ยังคงเคลื่อนไหวออกด้านข้าง ทั้ง ๆ ที่กำไรบริษัทของสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง และตัวเลขเศรษฐกิจที่ผ่านมาก็ดีเป็นส่วนใหญ่ แต่ตลาดกังวลกับการเลือกตั้งในฝรั่งเศสว่าอาจจะนำไปสู่การที่ฝรั่งเศสต้องออกจากสหภาพยุโรปไปอีกประเทศหนึ่ง นักลงทุนยังรอความชัดเจนของนโยบายเศรษฐกิจของ Trump ซึ่งรวมถึงนโยบายค่าเงินดอลลาร์ด้วย ราคาน้ำมันที่ร่วงลงเนื่องจากการกลับมาของการขุดเจาะน้ำมันจากแหล่งหินดินดานของสหรัฐ ปัจจัยภายในประเทศวันนี้เป็นบวกส่วนใหญ่ รัฐบาลใช้จ่ายงบประมาณสี่เดือนแรกได้เกินเป้า ครม.อนุมัติมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร และผู้ประกอบการใน 12 จังหวัดภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย และครม.ขยายเวลาการยกเว้นค่าลงดวงตราหนังสือเดินทางเข้าประเทศไทยไปจนถึงเดือน ส.ค. เพื่อกระตุ้นท่องเที่ยว

       หุ้นเด่นวันนี้ : IVL (ราคาปิด 35.75 บาท; NR; ราคาเป้าหมาย Bloomberg 36.37 บาท; ราคาเป้าหมาย IAA 43.05 บาท)
บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส เป็นหุ้นเด่นของเราในวันนี้จากราคาผลิตภัณฑ์ PTA และผลิตภัณฑ์ PET ในภูมิภาคล่าสุดที่ปรับตัวสูงขึ้นโดดเด่น หลังกลับมาซื้อขายอีกครั้งหลังผ่านพ้นเทศกาลวันหยุดตรุษจีนที่ผ่านมา โดยเรามองว่าเป็นสัญญาณที่แสดงถึงความต้องการใช้ในภูมิภาคที่กำลังกลับมาฟื้นตัวและขับเคลื่อนภาพรวมอุตสาหกรรมที่เชื่อว่าได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว ซึ่งจะส่งผลบวกต่อ lVL ในฐานะผู้ผลิต PTA และ PET อย่างครบวงจรที่มีฐานการผลิตกระจายตัวในระดับโลก การขยายกิจการผ่านการทำดีล M&A ในเชิงรุกตลอดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ภายใต้สภาวะซบเซาของอุตสาหกรรมที่ทำให้ lVL ได้สินทรัพย์มาในราคาถูกจะช่วยให้ lVL เก็บเกี่ยวผลบวกจากภาวะขาขึ้นของอุตสาหกรรมได้อย่างเต็มที่ เรามองว่าจะมีการเข้าซื้อกิจการเพิ่มอีกในอนาคตเพื่อที่จะขยายกิจการและยอดขายอย่างต่อเนื่อง พร้อมไปกับกลยุทธ์ที่จะมุ่งไปสู่ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง (HVA) ให้มากขึ้นเพื่อสร้างความยั่งยื่นในระยะยาว กำไรปกติต่อหุ้นของ lVL อ้างอิงจากประมาณการใน Bloomberg Consensus จะเห็นการเติบโต 52% YoY ในปี 2559 มาอยู่ที่ 1.53 บ. ก่อนที่จะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง 34% ในปีนี้ และ 22% ในปี 2561 มาอยู่ที่ 2.05 บ. และ 2.51 บ. ตามลำดับ ราคาหุ้นปัจจุบันยังน่าสนใจโดยซื้อขายด้วย PEG ต่ำกว่า 1.0 เท่า จาก PER ปีนี้ที่ 17.5 เท่า และอัตราการเติบโตของ EPS ทบต้นเฉลี่ยต่อปีในช่วงปี 2560-61 ที่ 28% ในส่วนของ Price Pattern ของ lVL ยังคงมีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal และเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ lVL มีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 38 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 43.25 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ lVL มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 34 บาท (แนวต้าน: 36.50, 37.25, 38.00; แนวรับ: 35.25, 34.50, 33.75)

 

ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ ครม.รายงานว่าการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐสำหรับ 4 เดือนแรกของปีงบประมาณเท่ากับ 1.1 ล้าน ลบ.หรือคิดเป็น 40.5% ของงบประมาณรวมทั้งปีและสูงกว่าเป้าหมายของรัฐราว 3.7% เพราะกระบวนการเบิกจ่ายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น (Bangkok Post/lnfoQuest)
เห็นชอบมาตรการเยียวยา SME ภาคใต้ ครม.เห็นชอบมาตรการปล่อยกู้มูลค่า 3.15 หมื่น ลบ. ให้ดอกเบี้ยและเงื่อนไขพิเศษเพื่อช่วยเกษตรกรและผู้ประกอบการที่ประสบภาวะยากลำบากทางการเงินใน 12 จังหวัดภาคใต้ที่ถูกน้ำท่วม โดยจะปล่อยกู้ผ่านธนาคารออมสิน, เอสเอ็มอีแบงค์และ ธกส. ครม. ยังเห็นชอบการยืดเวลาชำระเงินและลดค่าดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าเดิมของ ธกส. ในบริเวณภาคใต้ (Bangkok Post/lnfoQuest)
ครม. อนุมัติขยายเวลายกเว้นค่าธรรมเนียมขอวีซ่านทท.ต่างชาติ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ขยายเวลามาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าของนักท่องเที่ยวต่างชาติสำหรับ 21 ประเทศอีก 6 เดือน จนถึงวันที่ 31 ส.ค. 2560 ซึ่งการดำเนินการมาตรการดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค. 59 - ก.พ. 60 ช่วยดึงดูดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยได้มากขึ้น 12.40% (Bangkok Post)
ความเห็น: มาตรการดังกล่าวยังคงครอบคลุมถึงนักท่องเที่ยวจากจีนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของภาคการท่องเที่ยวในไทย

ครม. เห็นชอบแผนพัฒนาอุตสาหกรรมอากาศยาน ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบแผนพัฒนาอุตสาหกรรมอากาศยานของประเทศเพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยแผนระยะที่ 1 (2560-64) จะมีการจัดตั้งศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานในประเทศไทย ส่วนแผนระยะที่ 2 (2565-69) จะมีการจัดตั้งศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานเพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอต่อการซ่อมบำรุงภายในประเทศ และจะจัดกลุ่มอุตสาหกรรม (Cluster) ให้ครบทุกประเภทอุตสาหกรรมอากาศยาน ขณะที่แผนระยะที่ 3 (2570-75) จะมีการจัดตั้ง Aeropolis ที่สนามบินอู่ตะเภาเพื่อรองรับการซ่อมบำรุงเครื่องบินของภูมิภาค ยกระดับความสามารถในการผลิตอุตสาหกรรมอากาศยานเข้าสู่ Tier 2 ที่จะมีทั้งการผลิตและออกแบบ (Bangkok Post)
ทีโอทีเตรียมเลือกพันธมิตรทำ 4G บนคลื่น 2.3 GHz ภายในไตรมาส 3/60 มีห้าบริษัทสนใจเข้าร่วม ได้แก่ ADVANC (163.50 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 188 บาท) DTAC (41.25 บาท, ขาย, ราคาเป้าหมาย 31 บาท) TRUE (6.20 บาท) บริษัท โมบายล์ แอลทีอี จำกัด และบริษัท ทานตะวัน เทเลคอม จำกัด ผู้ที่สนใจจะเข้ารับรายละเอียดเอกสารเชิญชวนยื่นข้อเสนอ (RFP) ช่วง 10-15 ก.พ. และยื่นในวันที่ 27 มี.ค. ทีโอทีคาดจะประกาศผู้ชนะภายใน พ.ค. เซ็นสัญญาในไตรมาส 3 และให้ผู้ชนะเริ่มติดตั้งโครงข่ายในไตรมาส 4/60 และเริ่มให้บริการในปีหน้า (The Nation)ความเห็น: เรื่องนี้เป็นการเพิ่มตัวเลือกให้แก่ค่ายมือถือโดยเฉพาะ DTAC ที่มีแบนด์วิธภายใต้ระบบใบอนุญาตน้อย อย่างไรก็ตามมีแบนด์วิธจำนวนมากที่ กสทช. เตรียมจัดสรรประมูล ถ้าเกิดดีลนี้มีค่าใช้จ่ายมากไป ค่ายมือถืออาจจะรอการประมูลแทน แต่ในทางลบคือยิ่งมีคลื่นออกมาให้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสที่รายใหม่จะเข้ามาในตลาดมากเท่านั้น

ต่างประเทศ :
ดอลลาร์สหรัฐไต่สู่ระดับสูงสุดรอบกว่าสัปดาห์เมื่อวันอังคาร และปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 5 วัน หนุนโดยตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐในเดือนธ.ค. ลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ การเข้าซื้อหลังจากที่ขาดทุนในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรปซึ่งจะมีการเลือกตั้งในปีนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.6% ที่ระดับ 100.53 ฟื้นตัวจากผลการดำเนินงานในเดือนม.ค. ซึ่งตกต่ำนับแต่ปี 1987 เงินยูโรอ่อนค่า 0.8% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 1.0665 ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่ามากที่สุดนับแต่วันที่ 15 ธ.ค. ก่อนฟื้นตัวขึ้นสู่งระดับ 1.0696 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐยังปรับตัวขึ้น 0.6% เทียบกับเงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.39 เยน (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่านโยบายที่เน้นการเจริญเติบโตอาจถูกบั่นทอนจากการที่ทรัมป์ให้ความสนใจประเด็นอื่น ๆ มากกว่า ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวลง 4/32 อัตราผลตอบแทนแตะอยู่ที่ระดับ 2.43% (Reuters)

สหรัฐ :
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเมื่อวันอังคาร หนุนโดยผลการดำเนินงานของบริษัทขนาดใหญ่ชดเชยกับหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลงเนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลง โดยได้รับแรงกดดันจากสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นและกำลังผลิตน้ำมันชั้นหินที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ การปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ส่งผลให้ดัชนีแนสแดคปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนดัชนีดาวโจนส์แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในระหว่างวันหลังจากที่ตลาดเปิดไม่นาน (Reuters)
กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐในไตรมาส 4/59 ถูกมองว่าดีที่สุดในรอบ 9 ไตรมาส จากข้อมูลของทอมสัน รอยเตอร์ส l/B/E/S กว่าครึ่งของบริษัทต่าง ๆ ใน S&P500 ที่ได้รายงานผลประกอบการ มีกำไรสุทธิในไตรมาส 4/59 อยู่ในแนวทางที่เพิ่มขึ้น 8.2% ซึ่งคาดว่าเป็นผลการดำเนินงานดีที่สุดนับแต่ไตรมาส 3/57 ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิในไตรมาสดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 8.1% เมื่อวันจันทร์ และ 6.1% ในช่วงเริ่มต้นปีนี้ (Reuters)

ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันอังคารปรับตัวสูงขึ้นด้วยแรงหนุนจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวลดลงท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์การเลือกตั้งปธน. ฝรั่งเศสคนใหม่ ขณะที่ผลประกอบการที่น่าผิดหวังของ BNP Paribas ได้ฉุดราคาหุ้นปรับตัวลดลง (Reuters)
นาง Marine Le Pen ผู้นำพรรคขวาจัดมีคะแนนเสียงเป็นที่นิยมมากขึ้นก่อนการเลือกตั้งปธน. ฝรั่งเศส โดยนาง Marine Le Pen ได้ชูนโยบายไม่ยึดติดกับความเป็นโลกาภิวัฒน์และต้องการจะออกจากกลุ่ม EU ขณะที่คะแนนเสียงของนาย Francois Fillion ผู้สมัครจากพรรค Republican ลดลงสวนทางกันท่ามกลางข่าวอื้อฉาวทางการเงิน ถึงแม้ว่าโพลล์ล่าสุดจะยังสะท้อนว่านาง Le Pen จะไม่ชนะศึกเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ตลาดมีความเคลือบแคลงสงสัยเนื่องจากการโหวต Brexit รวมถึงการเลือกตั้งปธน. สหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ก็พลิกความคาดหมายมาแล้ว (Reuters)

เอเชีย :
ดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นเกินดุลต่ำกว่าคาด: ดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นเกินดุลที่ 1.11 ล้านล้านเยน (9.88 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) ในเดือนธันวาคม โดยข้อมูลของกระทรวงการคลังแสดงให้เห็นในวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อเทียบกับการคาดการณ์เฉลี่ยของนักเศรษฐศาสตร์จากโพลรอยเตอร์คาดอยู่ที่ 1.29 ล้านล้านเยน (Reuters)
นโยบาย BOJ ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่การลดค่าเงินเยน: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่น Taro Aso กล่าวว่านโยบายการเงินของ BOJ เล็งไปที่วัตถุประสงค์ในประเทศในการเอาชนะภาวะเงินฝืด เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่เงินเยนอ่อนตัวลง เขากล่าวว่าญี่ปุ่นจะยึดติดอยู่กับคำมั่นที่ให้ไว้ต่อ G20 กับการไม่แข่งกันลดค่าเงินสกุลตัวเอง (Reuters)
ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนลดลงอย่างกะทันหันสู่ระดับใกล้ 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือนมกราคมเป็นครั้งแรกในรอบเกือบหกปี แต่การควบคุมกำกับดูแลที่เข้มงวดมากขึ้นดูเหมือนจะทำให้เกิดความคืบหน้าบางส่วนในการชะลอเงินทุนไหลออก ซึ่งทุนสำรองลดลง 12.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือนมกราคมเป็น 2.998 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่า 10.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ การลดลงของเดือนมกราคมยังมีขนาดเล็กกว่า 41 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคม และเป็นขนาดที่เล็กที่สุดในเจ็ดเดือนย้อนหลัง แสดงให้เห็นการปกป้องการไหลออกของเงินจากจีนดูเหมือนจะได้ผลแล้วอย่างน้อยในตอนนี้ (Reuters)
นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซ่า เมย์ จะไปเยือนประเทศจีนในปีนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าล่าสุด เพื่อประสานความสัมพันธ์กับประเทศมหาอำนาจในขณะที่เธอกำลังเจรจานำสหราชอาณาจักรอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป(Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันดิบลบกว่า 1% วันอังคาร กดดันจากสต็อกน้ำมันเบนซินในสหรัฐโตขึ้น เพราะเริ่มมีหลักฐานว่าสหรัฐจะกลับมาเริ่มผลิตน้ำมันหินดินดาน (เชลออย) ซึ่งถ้าเกิดจริงก็จะลดผลของความร่วมมือระหว่าง OPEC และผู้ผลิตน้ำมันอื่นที่พยายามจะลดกำลังการผลิต น้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้า ลบ 67 เซนต์ (-1.2%) ปิด 55.05 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐลบ 84 เซนต์ (1.6%) ปิด 52.17 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองคำร่วงจากจุดสูงสุดสามเดือนเมื่อวันอังคาร กดดันจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าจากยุโรปร่วงเพราะกังวลการเลือกตั้งฝรั่งเศสที่จะมีขึ้นและตัวเลขอุตสาหกรรมเยอรมัน ราคาทองคำตลาดจรลบ 0.4% ที่ 1,230.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากก่อนหน้านี้ทองแตะ 1,235.73 ดอลลาร์สหรัฐ ต่ำสุดนับแต่ 11 พ.ย. (Reuters)

Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!