- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 07 February 2017 18:23
- Hits: 1219
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ฟื้นตัวต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยขึ้นทดสอบด่าน 1,590 จุด ผลักดันด้วยกลุ่มธนาคาร และ ICT บวกกับบรรยากาศการลงทุนรอบเอเชียที่เปิดบวก ภายใต้ค่าเงินบาทแกว่งในกรอบแคบ ปิด ณ สิ้นวัน 1,589.13 จุด บวก 6.18 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 55,688 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทย 1,194 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 8 วันทำการ 1,054 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 8 มากถึง 13,033 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- ติดตามการประชุมครม.วันนี้ อาจมีการพิจารณาโครงการมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง
- ต่างชาติซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดในไทยวานนี้
- AOT เตรียมซื้อขายด้วยพาร์ 1 บาท วันที่ 9 ก.พ.นี้
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 8)
ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสไต่ระดับขึ้น เพื่อทดสอบด่านสำคัญทางจิตวิทยา 1,590-1,600 จุด ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย แต่อาจยังไม่สามารถปิดยืนเหนือแนวดังกล่าวได้ แม้ว่าต่างชาติจะซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดพร้อมกัน แต่ยอด QTD นักลงทุนต่างชาติยังคง Short สุทธิ 28,175 สัญญา ใน SET50 Index Futures เราจึงต้องติดตามกระแสเงินทุนต่างชาติอย่างใกล้ชิด ภายใต้บรรยากาศการลงทุนที่ไร้ปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน เป็นเพียงการเก็งกำไรต่อผลการดำเนินงาน 4Q59 และ/หรือ ผลตอบแทนจากเงินปันผลงวดปี 2559 หรือ 2H59
เราประเมินว่ากลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / กลุ่มอสังหาฯ มีแนวโน้มจะกลับมาเด่น ขณะที่กลุ่ม ICT ที่ฟื้นตัววานนี้จะกลับสู่ภาวะ sideways โดยผลตอบแทนจากเงินปันผลจะเป็นตัวแปรจำกัด downside risk ของหุ้นหลักอย่าง ADVANC / INTUCH
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำ "กลับมาขายทำกำไรบางส่วนระหว่าง 1,590-1,600 จุด และถือพอร์ตส่วนที่เหลือ ทั้งนี้นักลงทุนอาจปรับเปลี่ยนมาเก็งกำไรในหุ้นแถวสองที่ผลการดำเนินงาน 4Q59 เด่น และ/หรือ ปันผลเด่น"
Daily Pick
1. เก็งกำไร UNIQ : ราคาปิด 19.70 บาท ราคาเหมาะสม 22.50 บาท
a) รฟม.จะมีการลงนามเซ็นสัญญารถไฟฟ้าสายสีส้มวันที่ 9 ก.พ. โดย UNIQ ได้งาน 2 สัญญา รวมมูลค่า 1.37 หมื่นล้านบาท เป็นการต่อยอด Backlog จาก ณ สิ้นปี 2559 ที่ 2.0 หมื่นล้านบาท
b) เดือนมี.ค.คาดว่าจะประกาศผลการประมูลงานรถไฟรางคู่ 5 เส้นทาง มูลค่างาน 9.7 หมื่นล้านบาท ซึ่ง UNIQ คาดหวังไว้ 1 เส้นทางเป็นอย่างน้อย
c) ขณะที่กำไรสุทธิ 4Q59 คาดว่าจะทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 270 ล้านบาท เติบโต +18% yoy และ +1% qoq จากการรับรู้รายได้รถไฟฟ้าสายสีแดง
d) ทิศทางผลประกอบการปี 2560 คาดเติบโต +18.8% yoy เป็น 970 ล้านบาท และมี Valuation ที่น่าสนใจ โดยซื้อขายที่ระดับ PER2560 ที่ 21.89x ต่ำกว่า STEC ที่ 27.15x และ CK ที่ 26.39x
2. สะสม LH : ราคาปิด 9.95 บาท ราคาเหมาะสม 11.00 บาท
a) แม้ว่าผลการดำเนินงานใน 4Q59 ของ LH จะไม่เด่น คาดกำไรสุทธิเท่ากับ 1,486 ล้านบาท ลดลง 25% qoq และ 56% yoy ก็ตาม
b) แต่เงินปันผลสำหรับงวด 2H59 คาดจ่าย 0.26 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 2.6% อย่างไรก็ตาม เราประเมินถึงโอกาสที่ LH จะจ่ายปันผลงวดนี้มากกว่าคาดได้ เพราะปกติ LH จะจ่ายปันผลงวด 2H มากกว่า 1H
c) ขณะที่เงินปันผลงวดปี 2560 เราคาด 0.64 บาท หรือคิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 6.56% ยังไม่รวมกำไรพิเศษจากการขาย รร.แกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยท์ ราชดำริ เข้ากองทุน REIT ใน 1H60 ทำให้โอกาสที่ LH จะจ่ายปันผลมากกว่าที่คาดในปีนี้ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิ US$162 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$255 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ไทยต่อเนื่อง และหนาแน่น
นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 1,194 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 4,830 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 8 วันทำการ 1,054 สัญญา เทียบกับ 7 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 32,196 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Short บางส่วน และทำให้ยอดสุทธิ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิลดลงเล็กน้อยเป็น 28,175 สัญญา โดย S50H17 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 3 กว้างขึ้นเป็น 2.10 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 1.51 จุด
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติคงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 8 มากถึง 13,033 ล้านบาท รวม 8 วันทำการซื้อสุทธิ 38,732 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาพันธบัตรไทยขยับขึ้นเป็นวันที่ 3 อย่างโดดเด่น ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงมากถึง 3.75bps จากวันก่อนหน้าลดลง 0.01bps ปิดที่ 2.746%
Short-Selling วานนี้
เท่ากับ 623 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 486 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 53 หลักทรัพย์ เทียบกับวันก่อนหน้า 49 หลักทรัพย์
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 สะสมกลุ่มธนาคารอย่างหนาแน่น
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเร่งขึ้นเป็น 1,488 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 406 ล้านบาท รวม 6 วันทำการซื้อสุทธิ 4,433 ล้านบาท โดย NVDR ยังคงเน้นสะสมกลุ่มธนาคารมากถึง 1,165 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มขนส่ง 240 ล้านบาท และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง 125 ล้านบาท แต่ลดน้ำหนักกลุ่มพลังงานสูงสุด เพียง 130 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
นโยบายของประธานาธิบดี Trump
- ประธานาธิบดี Trump ยืนยันคำสั่งพิเศษของตนเองในการห้ามนักท่องเที่ยว 7 ชาติอิสลามเข้าประเทศ เพื่อเป็นการป้องกันผู้ก่อการร้ายเข้าประเทศ ทั้งนี้จับตาขั้นตอนการพิจารณาของศาลคืนนี้ ตามเวลาประเทศไทย
ยุโรป
สกอตแลนด์ต้องการกำหนดหลักเกณฑ์การเข้าเมืองเป็นของตนเอง: คณะกรรมการสภาของสกอต์แลนด์ ต้องการที่จะกำหนดนโยบายคนเข้าเมืองเป็นของตนเอง แยกออกจากกรณี Brexit เพราะสกอต์แลนด์ต้องการแรงงานในวัยทำงานจากต่างชาติ ขณะที่ประชากรในสกอต์แลนด์ลดลงอย่างต่อเนื่อง
คำสั่งซื้อโรงงานของเยอรมันทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2557: ยอดคำสั่งซื้อโรงงานเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.2% mom ฟื้นตัวจากเดือนพ.ย.ที่ -3.6% mom และดีกว่า Bloomberg consensus คาด 0.7% mom เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2557 โดยความต้องการสินค้าทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น
รัฐบาลอังกฤษห้ามไม่ให้สส.บล็อกเรื่อง Brexit: สส.ต่างพยายามหาวิธีที่จะทำให้รัฐบาลอังกฤษไม่สามารถเดินหน้า Brexit ซึ่งรัฐบาลอังกฤษยืนยันไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ รัฐบาลจะเดินหน้าในการออกจากการเป็นสมาชิกในกลุ่มอียูตามผลประชามติ
แผนการช่วยเหลือกรีซจะถูกยุติลงหาก IMF ถอนตัว: รมว.คลัง เยอรมัน เชื่อว่า IMF จะยังร่วมช่วยเหลือกรีซ แต่หาก IMF ขอถอนตัวจากการช่วยเหลือกรีซ ก็มีความเป็นไปได้ที่แผนช่วยเหลือกรีซจะถูกสิ้นสุดลง ทั้งนี้เยอรมันยังไม่ให้เงินช่วยเหลือกรีซที่ขนาดใหญ่ จนกว่ากรีซจะปฎิรูปและทำงบประมาณเกินดุลได้ 3.5% ของ GDP ในระยะกลาง ตามที่ตกลงกับเจ้าหนี้ Troika โดยแผนการช่วยเหลือจะสิ้นสุดลงในปี 2561
จีน
ภาคบริการของจีนยังคงแข็งแกร่ง: ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนม.ค. เท่ากับ 53.1 จุด ต่ำกว่าเดือนธ.ค.เล็กน้อยที่ 53.4 จุด โดยคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง ส่วนดัชนี CAIXIN Composite เดือนม.ค. เท่ากับ 52.2 จุด ลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีที่ 53.5 จุดในเดือนธ.ค.
จีนประกาศลดการใช้ถ่านหิน 30% ในปีนี้: สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ปัญหาเรื่องหมอกควันในปันกกิ่ง ทำให้ทางการเตรียมลดการใช้ถ่านหินลง 30% ภายในปีนี้ และอาจยกเลิกการใช้ถ่านหินใน 6 เมืองหลัก และทางตอนใต้ของปักกิ่งในปีนี้ ส่งผลให้การใช้ถ่านหินในเมืองลดลงเหลือ 7 ล้านตัน/ปี ในปีนี้ จากเป้าปกติที่ 10 ล้านตัน/ปี ซึ่งก็ลดลงจาก 22 ล้านตันในปี 2556
เอเชียแปซิฟิก
ฟิลิปปินส์เตรียมปิดเหมืองกว่าครึ่ง เพราะผิดกฎหมาย: รมว.เหมืองแร่ ตัดสินใจปิดเหมืองแร่กว่าครึ่งของทั้งประเทศ เนื่องจากผิดกฎหมายและมีการหลบเลี่ยงภาษีและค่าธรรมเนียมแก่ทางการ แม้ว่าขั้นตอนต่างๆ อยู่ระหว่างการพิจารณาก็ตาม ทั้งนี้ทีมตรวจสอบเสนอให้มีการหยุดการผลิตชั่วคราว เพื่อให้เอกชนจ่ายค่าปรับด้านสิ่งแวดล้อม มากกว่าจะสั่งปิดเหมือง 23 แห่ง
ออสเตรเลียสั่งให้ขายอสังหาฯ ที่ผิดกฎหมาย: ทางการออสเตรเลียสั่งให้ขายอสังหาฯ 15 แห่งที่ต่างชาติเป็นผู้ซื้อ ซึ่งกฎหมายการถือครองอสังหาฯ ได้แก่จีน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, อิหร่าน, มาเลเซีย, อังกฤษ และเยอรมัน โดยอยู่ใน Victoria และ Queeensland รวมมูลค่ากว่า U$11 ล้าน
เศรษฐกิจอินโดนีเซียเติบโตต่ำกว่าคาดใน 4Q59: ขยายตัว 4.94% yoy ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 5.0% yoy แต่ลดลง 1.77% qoq ใกล้เคียงกับที่ Bloomberg consensus คาดหดตัว 1.8% qoq ส่งผลให้เศรษฐกิจปี 2559 ขยายตัว 5.02% เร่งขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 4.88% โดยการใช้จ่ายภาครัฐลดลง 4.05% yoy ใน 4Q59 ขณะที่การบริโภคภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น 4.99% yoy
ไทย
รมว.คลัง ยืนยันฐานะการคลังไม่มีปัญหา: รมว.คลัง ยืนยันว่า ฐานะการคลังของประเทศไม่ได้มีปัญหา ซึ่งเงินคงคลังที่ลดลงจากช่วงที่ผ่านมา นั้นไม่เกี่ยวข้องกับเหตุผลที่รัฐปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินอย่างแน่นอน โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ถังแตกจนต้องปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตดังกล่าว แต่การปรับขึ้นภาษีในครั้งนี้เป็นการปรับขึ้นเพื่อสร้างความยุติธรรมและลดความเหลื่อมล้ำ เนื่องจากภาษีน้ำมันไม่ได้มีการปรับขึ้นมาหลายสิบปีแล้ว ในขณะที่ภาษีน้ำมันประเภทอื่นมีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยที่ 3-6 บาท/ลิตร ดีเซลอยู่ที่ 5 บาท/ลิตร เงินคงคลังที่ลดลง 7 หมื่นล้านบาทนั้นเป็นเรื่องจริง แต่เป็นไปตามนโยบายที่เพิ่งได้มอบหมายให้กรมบัญชีกลางไปรักษาระดับเงินคงคลังให้อยู่ในระดับต่ำสุดเท่าที่จะรับได้ ซึ่งปัจจุบันเงินคงคลังที่ระดับ 1 แสนล้านบาทต้องจ่ายดอกเบี้ยที่ระดับ 2 พันล้านบาท
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul Assistant Analyst