- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 07 August 2014 16:52
- Hits: 1751
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
“พักฐาน” เพื่อปรับสูงขึ้นต่อ เป้าหมายระยะสัปดาห์ 1,570-1,600 จุด: แรงขายทำกำไรในช่วงปลายตลาดตามการปรับลดลงของตลาดหุ้นยุโรป จากสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ปิดตลาดที่ 1,522.41 จุด ปรับลดลง -0.43% นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 1,048 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสั้น แม้มีแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาบ้าง แต่ระยะสัปดาห์ยังมองเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,570-1,600 จุด เหมือนเดิม จาก 1) พัฒนาการเชิงบวกทางการเมือง รับรัฐบาลใหม่ภายใน ก.ย.นี้ พร้อมพิจารณายกเลิกกฎอัยการศึก หนุนกระแสเงินทุนไหลเข้า 2) เศรษฐกิจฟื้นตัวตั้งแต่ 3Q14 ขณะที่ ธปท.ยังดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลาย ล่าสุดคงดอกเบี้ย 2% 3) Trigger Fund หลายกองเปิดขาดคาดเม็ดเงินใหม่เข้าหนุน SET ตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า
“ซื้อ” สะสมต่อเนื่องหุ้น Domestic Plays ต่อ: พัฒนาการเชิงบวกทางการเมืองหนุนกระแสเงินทุนจากต่างประเทศ และ Trigger Fund จะเป็นปัจจัยหนุน SET ระยะถัดไป แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มธนาคาร (KBANK) อสังหาฯ (SPALI QH LPN) รับเหมาฯ (CK STEC) วัสดุก่อสร้าง (TPIPL) ขนส่งและท่องเที่ยว (BTS BMCL AOT CENTEL) และกลุ่มสื่อสาร (SAMART)
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ “ถือ” AOT, BGH, BTS, CPALL, CK, EA, GFPT, SAMART, SPALI และ SPCG ต่อเนื่อง
CK…ได้รับผลดีจากโครงการลงทุนภาครัฐฯโดยตรง: แนะนำ “ซื้อ” ต่อเนื่อง แต่อยู่ในระหว่างการปรับประมาณการกำไร และเป้าหมายพื้นฐาน (Under Review) ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ผลการดำเนินงาน 2Q14 คาดว่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับ 1Q14 ที่ 365 ล้านบาท แต่การเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้นส่งผลดีต่อการรับงานโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐในอนาคต โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่คาดว่าจะเปิดประมูลภายในสิ้นปีนี้ (ออก TOR 19 ส.ค.นี้) 2) การขายหุ้น BMCL 1.17% ที่ 1.65 บาท ส่งผลให้ CK จะบันทึกกำไรพิเศษ 1 พันล้านบาท ใน 3Q14 3) ราคาหุ้นบริลูกที่ปรับสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาหรือมี NAV ปัจจุบันที่ 3 หมื่นล้าน คิดเป็น 67% ของ Market Cap ของ CK และ 4) เมื่อพิจารณาในทางเทคนิคเริ่มเกิดสัญญาณ “ซื้อ” เมื่อวานนี้ พร้อมปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ประเมินแนวต้านระยะสั้นที่ 29.0 บาท
CPALL…กำไรต่ำคาด แต่จะเป็นจุดต่ำสุดของปี: แนะนำ “ซื้อ” ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 65.0 บาท แม้กำไร 2Q14 จะต่ำกว่าคาด อยู่ที่ 2.25 พันล้านบาท แต่จะเป็นจุดต่ำสุดของปี
Technical
ดัชนี SET ไม่ผ่านแนวต้าน 1530 จุด : จังหวะตลาดปรับตัวลงเมื่อวานนี้ปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือน 1525 จุด เป็นสัญญาณลบระยะสั้น และสะท้อนแรงขายหุ้นในระยะสัปดาห์ คาดว่าตลาดจะแกว่งตัวแคบถึงอ่อนตัวลงมาเคลื่อนไหวในวันนี้ระหว่าง 1518-1530 จุด
หุ้นที่แนะนำซื้อ : GUNKUL ราคาฟื้นตัวขึ้นมาอยู่เหนือ 16.00-16.30 บาท เป็นสัญญาณซื้อ มีเป้าหมายถัดไปที่ 17.80 บาทTAE มีจังหวะบวกต่อเป็นโอกาสซื้อตาม มีโอกาสผ่านยอดเดิมที่ 4.80 บาท คาดว่าจะทดสอบ 4.90 บาท ขณะที่เป้าหมายสำคัญอยู่ที่ระดับ 5.20 บาท BHทะลุผ่านยอดเดิม 123 บาท ทำยอดสูงสุดใหม่ เป็นจังหวะซื้อตาม คาดว่าจะขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับ 132 และ 138 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา S50U14 ต่อเนื่องจากเมื่อวาน โดยแรงขายทำกำไรในช่วงก่อนปิดตลาดยังไม่ทำให้สถานะ Long หมดความได้เปรียบลง และยังคงเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,025-1,030 จุด ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 1,008 จุด
Gold Futures: แนะนำ “ปิด” สถานะ Short สัญญา GFQ14 ไปก่อนหลังจากปรับสูงขึ้นเหือ Trailing Stop ที่ 19,900 บาท และรอยืนยันการเปิดสถานะ Long อีกครั้ง เมื่อราคาทองคำทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (MAV200 วัน) ที่บริเวณ 1,310/ออนซ์
Oil Futures: แนะนำ “ปิด” สถานะ Short ทำกำไรไปก่อน โดยการ Rebound เมื่อคืนนี้ ส่งผลให้สถานะ Short หมดความได้เปรียบระยะสั้นลง แต่ระยะการ Rebound คาดว่าจะยังจำกัดที่บริเวณ 3420-3440 เท่านั้น
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล