WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Mayบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วันศุกร์เกิด Technical Rebound ขึ้นทดสอบด่าน 1,580 จุด ผลักดันด้วย PTT และกลุ่มปิโตรเคมี จากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ฟื้นตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,582.95 จุด บวก 10.28 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 47,300 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทย 729 ล้านบาท แต่คง Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 7 ลดลงเหลือ 1,019 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 7 อีก 3,742 ล้านบาท

 ปัจจัยสำคัญวันนี้
- งบ ADVANC ออกมาอยู่ในเกณฑ์ดี
- การจ้างงานของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด
- รายการ Big Lot วันศุกร์ที่ผ่านมา หุ้น BJC อีก 2.4 พันล้านบาท ราคาเฉลี่ย 48.25 บาท

 มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 7)
แม้ว่า SET INDEX วันศุกร์ที่ผ่านมาจะเกิด Technical Rebound ตามที่เราคาดการณ์ บวกกับ DJIA - NYMEX ขยับขึ้นเด่นในวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่กระแสเงินทุนต่างชาติที่ยังคงลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง รวมถึง Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 7 ทำให้นักลงทุนภายในประเทศยังคงระมัดระวังต่อการลงทุนในช่วงสั้นต่อเนื่อง เราประเมิน SET INDEX ยังคงมี upside gain จำกัด 1,590-1,595 จุด เป็นแนวต้านสำคัญ
อย่างไรก็ตาม กลุ่ม ICT วันนี้มีโอกาสฟื้นตัวเด่น หลัง ADVANC รายงานงบ 4Q59 ออกมาอยู่ในเกณฑ์ดี รายได้เติบโต แม้ว่าจะแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่สูงขึ้นก็ตาม แต่ก็ทำให้ ADVANC รักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้ ทั้งนี้ปันผลงวด 2Q59 เท่ากับ 4.29 บาท XD วันที่ 5 เม.ย. คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 2.67%
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำ "เก็งกำไรหุ้นเป้าหมายเมื่อราคาย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อาย" เน้นประเด็นเก็งกำไรต่อผลการดำเนินงาน 4Q59 หรือหุ้นปันผลงวดปี 2559 หรือ 2H59 เป็นทางเลือกในช่วงนี้ เพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,590-1,600 จุด

Daily Pick

1. สะสม SCB : ราคาปิด 153.00 บาท ราคาเหมาะสม 169.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะได้อานิสงค์โดยตรงหากเม็ดเงินต่างชาติไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นเอเซียเกิดใหม่ หลัง Dollar Index เคลื่อนไหวอ่อนตัวลงต่ำกว่าระดับ 100 จุด
b) คงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มธนาคารในปี 2560 เนื่องจากได้ประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลให้สินเชื่อปี 2560 ขยายตัวได้ราว 4-6% จากการลงทุนของภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่คุณภาพของสินทรัพย์ที่ดีขึ้น จะส่งผลให้การตั้งสำรองของกลุ่มธนาคารลดลงจากปี 2559
c) จะเข้าสู่ช่วงของการประกาศเงินปันผลตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ. ถึงต้นมีค. โดยคาดการณ์เงินปันผล 2H59 หุ้นละ 3.80 บาท คิดเป็น Dividend Yield 2.4% และมี Catalyst รออยู่คือการขายหุ้น SCB LIFE ให้กับพันธมิตร ซึ่งจะส่งผลให้ SCB บันทึกกำไรพิเศษก้อนใหญ่และยังไม่รวมไว้ในประมาณการกำไรปี 2560

2. เก็งกำไร IRPC : ราคาปิด 5.30 บาท ราคาเหมาะสม 5.70 บาท
a) MBKET คาดว่ากลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจะไต่ระดับขึ้นต่อจากการขยับขึ้นของราคาน้ำมันดิบ หลังมีรายงานว่ารัสเซีย, ซาอุดิอาระเบีย และอิรักลดกำลังการผลิตน้ำมันลง ส่งผลให้ตลาดน้ำมันมี Demand-Supply ที่สมดุลมากขึ้น
b) คาดกำไรจากการสุทธิ 4Q59 ที่ 1,600 ล้านบาท เติบโต +257% yoy และ +22.5% qoq จากการเดินเครื่องของโครงการ UHV ที่ดีขึ้น หลังเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่กลาง 3Q59 ที่ผ่านมา นอกจากนั้น แรงหนุนจากกำไรสต็อกน้ำมันเป็นอีกปัจจัยบวกต่อผลประกอบการ 4Q59
c) จ่ายเงินปันผลปีละ 1 ครั้ง โดยคาดการณ์เงินปันผลปี 2559 หุ้นละ 0.22 บาท คิดเป็น Dividend Yield 4.2% และทิศทางผลประกอบการปี 2560 คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต +10% yoy เป็น 11,412 ล้านบาทจากการรับรู้รายได้จากโครงการ UHV เต็มปี และมี Upside Risk จากกำไรสต็อกน้ำมันที่ยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิ US$255 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$63 ล้าน

Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติ Short สุทธิใน SET50 Index Futures ต่อเนื่อง
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 729 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิลดลงเหลือ 3,646 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ short สุทธิเป็นวันที่ 7 ลดลงเหลือ 1,019 สัญญา รวม 7 วันทำการ Short สุทธิ 32,196 สัญญา คาดว่าจะเป็นการเปิดสถานะ Short ต่อเนื่อง และทำให้ยอดสุทธิ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 29,229 สัญญา ทำให้ S50H17 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 2 เท่ากับ 1.51 จุด จากวันก่อนหน้า Discount 2.81 จุด
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติคงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 7 อีก 3,742 ล้านบาท รวม 7 วันทำการซื้อสุทธิ 25,699 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาพันธบัตรไทยแกว่งในกรอบแคบ ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลง 0.01bps จากวันก่อนหน้าลดลง 2.08bps ปิดที่ 2.784%

Short-Selling วานนี้
เท่ากับ 486 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 521 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 49 หลักทรัพย์ เทียบกับวันก่อนหน้า 61 หลักทรัพย์

NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 ยังคงเน้นสะสมกลุ่มธนาคาร
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 406 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 715 ล้านบาท รวม 5 วันทำการซื้อสุทธิ 2,945 ล้านบาท โดย NVDR ยังคงเน้นสะสมกลุ่มธนาคารอีก 288 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มปิโตรเคมี 103 ล้านบาท แต่ลดน้ำหนักกลุ่มพลังงาน 269 ล้านบาท

 

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาดอย่างมีนัยยะสำคัญ


นโยบายของประธานาธิบดี Trump
ประธานาธิบดี Trump ส่งคำคัดค้านผลการตัดสินของศาลที่คุ้มครองชั่วคราวแก่นักท่องเที่ยว 7 ชาติอิสลาม
U.S State Department เริ่มรับผู้อพยพ รวมถึงซีเรีย ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. หลังกระทรวงยุติธรรมได้คัดค้านคำสั่งห้ามรับผู้อพยพชั่วคราวของประธานาธิบดี Trump เป็นเวลา 120 วัน
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นบวก
การจ้างงานนอกภาคการเกษตร เดือนม.ค. เท่ากับ 2.27 แสนตำแหน่ง ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 1.75 แสนตำแหน่ง และเดือนก่อนหน้าที่ 1.57 แสนตำแหน่ง เป็นระดับที่ดีสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. และสูงกว่าค่าเฉลี่ยปี 2559 ที่ 1.87 แสนตำแหน่ง
การจ้างงานภาคเอกชน เดือนม.ค. เท่ากับ 2.37 แสนตำแหน่ง ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 1.80 แสนตำแหน่ง และเดือนก่อนหน้า 1.65 แสนตำแหน่ง
อัตราการว่างงานเดือนม.ค. เท่ากับ 4.8% สูงกว่า Bloomberg consensus คาด 4.7% และเดือนก่อนหน้า 4.7% เนื่องจากมีผู้ว่างงานใหม่มาลงชื่อเพิ่มขึ้น ส่งผลให้แรงงานพร้อมทำงานเพิ่มขึ้น 1.83 แสนตำแหน่ง เป็น 13.4 ล้านคน
ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนม.ค. เท่ากับ 55.6 จุด ดีกว่าเดือนก่อนหน้า 53.9 จุด คำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5
คำสั่งซื้อโรงงานเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.3% mom ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 0.9% mom และฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้า -2.3% mom โดยคำสั่งซื้อสินค้าไม่คงทนเพิ่มขึ้น 3.1% mom สะท้อนกลับด้วยราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น ส่วนคำสั่งซื้อโรงงานสินค้าคงทนลดลง 0.5% mom

 

ยุโรป
คู่แข่งขวาจัดของฝรั่งเศสเสนอนโยบาย "Freedom": นาง Le Pen ตัวแทนจากพรรคขวาจัด เสนอนโยบายหาเสียง "Freedom" ออกจากการเป็นสมาชิกในกลุ่มอียู ด้วยการเสนอทำประชามติบนประเด็นนี้ ลดภาษีนำเข้าและแก้ไขภาษีของแรงงานต่างชาติ ลดอายุการเกษียณ และเพิ่มสวัสดิการสังคม รวมถึงลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา


จีน
ธนาคารกลางจีนเริ่มดูดซับสภาพคล่องทางการเงิน หลังเปิดทำการวันแรกของเทศกาลตรุษจีน
ธนาคารกลางจีนขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น: ธนาคารกลางจีนขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นผ่าน standing lending facility (SLF) ระยะสั้น 10bps มีผลตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. โดยอัตราดอกเบี้ย RP7 วันขึ้นเป็น 2.35% จาก 2.25% ส่วนอัตราดอกเบี้ย Overnight ของ SLF ขึ้นเป็น 3.10% จาก 2.75% ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ย SLF จะเป็นเพดานของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระหว่างธนาคาร (Interbank lending rate)


จีนเตรียมออกใบอนุญาตพลังงานทางเลือกในเดือนก.ค.: The National Development and Reform Commission (NDRC) เตรียมเปิดให้ใบอนุญาตโครงการโซล่าร์ และพลังงานลม วันที่ 1 ก.ค. เพื่อลดเงินอุดหนุนจากภาครัฐในพลังงานทางเลือก ทั้งนี้ผู้ใช้พลังงานทางเลือกทั้งเอกชนและรัฐวิสาหกิจจะถูกกระตุ้นให้เข้ามาซื้อใบอนุญาตนี้ โดยใบอนุญาตแต่ละใบจะมีขาด 1MW และผู้ที่ได้รับใบอนุญาตจะไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากภาครัฐอีกต่อไป โครงการนี้จะเป็นโครงการตัวอย่างก่อนที่จะเปิดมาตรการอย่างเป็นทางการปี 2561


ดัชนี Caixin PMI ภาคการผลิตต่ำกว่าคาด: เดือนม.ค. เท่ากับ 51.0 จุด ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 51.9 จุด และ Reuters Poll ที่ 51.8 จุด แม้ว่าดัชนีดังกล่าวจะยืนเหนือ 50.0 จุดต่อเนื่องก็ตาม โดยผลผลิตและคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัว มีแนวโน้มที่จะกระทบต่อการจ้างงาน


ทางการจีนเตรียมออกบทลงโทษหนักกับรายการทางการเงินที่ผิดกฎหมาย: หนังสือพิมพ์ Xinhua รายงานรัฐบาลกลางจีน เตรียมออกบทลงโทษขนานหนักกับรายการทางการเงินที่ผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันความเสี่ยงในตลาดการเงิน รายการทางการเงินที่ผิดกฎหมายได้แก่ การรับฝากเงินที่ผิดกฎหมาย, การระดมทุนที่ผิดกฎหมาย และรายการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสาธารณะโดยผิดกฎหมาย เช่นการฟอกเงิน ธนาคารในตลาดมืด และการขายผ่านออนไลน์ที่เป็นแชร์ลูกโซ่ เป็นต้น ด้านตลาดหุ้น รายการที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย เช่น การปั่นหุ้น การใช้ข้อมูลภายใน การปล่อยข่าวลือ ส่วนรายการที่ผิดกฎหมายในตลาดอสังหาฯ คือ การหลีกเลี่ยงภาษี เป็นต้น

เอเชียแปซิฟิก
อินเดียเตรียมสรุปที่ปรึกษาเพื่อดำเนินการนำบริษัทประกันเข้าตลาดหลักทรัพย์: รัฐบาลอินเดียวางแผนที่จะขายหุ้นในบริษัทประกันภัย New India Assurance Co., Ltd, United India Insurance Co Ltd, Oriental Insurance Co Ltd, National Insurance Co Ltd และบริษัทรับประกันภัยต่อ General Insurance Corp of India ในปีงบประมาณ 2560/61 เริ่มต้นเดือนเม.ย. คาดว่าจะระดมเงินเข้ารัฐบาลได้ US$1.6 พันล้าน จากการขายหุ้นออกเหลือ 75%

ไทย
สมคิด ยันหนุนซอฟท์โลน มั่นใจเมียนมาไม่ทิ้งทวาย: นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้โครงการทวายไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร เนื่องจากติดขัดปัญหาด้านของเมียนมาที่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งจะต้องรอให้คณะกรรมการร่วมระดับสูงของเมียนมา (เจเอชซี) เข้าไปดูในรายละเอียดว่า ปัญหาที่ติดขัดนั้น จะมีแนวทางแก้ไขอย่างไรได้บ้าง และไทยยินดีที่จะช่วยเหลือ เพื่อให้โครงการเดินหน้าต่อไปได้ แม้ว่าไทยจะมีวงเงินกู้ดอกเบี้ยผ่อนปรน (ซอฟท์โลน) 4,500 ล้านบาท ในการให้ความช่วยเหลือเพื่อให้เมียนมากู้เงินไปลงทุนก่อสร้างถนนเชื่อมสู่ชายแดนไทย แต่จนขณะนี้ทางเมียนมายังไม่ได้ร้องขอเข้ามา เชื่อว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย มีความสำคัญมาก และเมียนมาไม่ทิ้งโครงการแน่นอน เพียงแต่ขณะนี้ยังติดขัดในปัญหาหลายด้าน จากภายในเมียนมาเอง ในวันที่ 10 ก.พ.นี้ นายอาคม เติมวิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะเดินทางเยือนเมียนมา เพื่อหารือเกี่ยวก้บโครงการดังกล่าว

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัวต่อเนื่อง: มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 74.5 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับดัชนีในเดือน ธ.ค.2559 ที่อยู่ในระดับ 73.7 ถือว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือน ที่ 2 ติดต่อกันจากเดือน ธ.ค.ปีก่อน โดยปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ดัชนี ความเชื่อมั่นปรับตัวเพิ่มขึ้น เกิดจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ในช่วงปลายปี 2559 ประกอบกับการส่งออก และราคาสินค้าเกษตรปรับตัวดีขึ้น

Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul Assistant Analyst

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!