WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBSบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

"เลือกซื้อ/ถือค่าบวก"


หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : TMB (จากถือเป็นซื้อ)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ SET Index ทรงตัวที่ 1576.32 โดยมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มแบงค์ ซึ่งนักวิเคราะห์ DBSV มีมุมมองที่ดีขึ้นกับผลประกอบการปี 60 จากเดิมที่คาดว่าจะติดลบ 5-7% มาเป็นทรงตัว อย่างไรก็ดี ต่างชาติและสถาบันในประเทศยังคงผนึกกำลังกันขายสุทธิ (รวมกันแล้วราว 2.7 พันล้านบาท) สำหรับปัจจัยสำคัญในช่วงนี้ ได้แก่
เฟดคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.75% ตามที่ตลาดคาด...รอดูความชัดเจนนโยบายทรัมป์
+/ มีรายงานว่ากลุ่มโอเปกมีระดับความร่วมมือลดการผลิตน้ำมันเดือนม.ค.ที่ 82% ดีกว่าที่ตลาดคาด (ลดไป 1 ล้านบาร์เรล/วัน) ราคาน้ำมันจึงรีบาวด์ได้ แต่ระยะทางอาจจำกัดเพราะสหรัฐยังคงผลิตน้ำมันสูงที่ 9 ล้านบาร์เรล/วัน (+6% จากก.ค.59)
ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.สำรวจโดย ADP ออกมาแกร่งเกินคาด ทำให้คาดหวังว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเดือนม.ค.จะออกมาดีมากด้วย (ประกาศคืนวันศุกร์นี้ เวลาไทย)
/- อัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค.60 ของไทยเร่งตัวขึ้นเป็น 1.55% ก.พาณิชย์คาด 1Q60 เพิ่มเป็น 1.77% แต่กำลังซื้อในประเทศยังซบเซา
/+ บจ.ทยอยรายงานผลประกอบการ 4Q59 และปี 59 รวมถึงการประกาศจ่ายปันผล ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นตลาดเดือนก.พ.
จัดพอร์ตบนความสมดุลของ Risk & Return (แบ่งเป็น 3 หมวด : หุ้นปันผล, หุ้นมั่นคง และหุ้นเติบโต) และทำ Re-balancing ต่อเนื่อง ทั้งนี้ตลาดหุ้นปีนี้มีแนวโน้มผันผวน ความเสี่ยง FX มากขึ้น และเริ่มต้นปีบน Index ที่สูง หุ้นพื้นฐานแนะนำเดือนก.พ.ของเราเป็น AOT, BANPU, HANA, TISCO และ Dark Horese คือ CK, GLOBAL ส่วนหุ้นกลยุทธ์แนะนำวันนี้เป็น TISCO
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นสัญญาณเป็นบวกเล็กๆ ซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก สำหรับการเทรดดิ้งมีฟิวเตอร์ที่ไม่ควรหลุด 1575 จุด แนวต้านระยะสั้น 1580-1590, 1600 จุด หุ้นเทคนิคเด่น BBL, SAWAD, SYNEX, SF, APCS, CTW, WORK, ATP30

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]

Need to know TODAY

ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ

 

ปัจจัยต่างประเทศ :
สหรัฐ : เฟดคงดอกเบี้ยนโยบายการเงินตามคาด...รอความชัดเจนในนโยบายทรัมป์
เมื่อ 1 ก.พ.69 คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.50-0.75% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ ขณะที่เฟดต้องการรอความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
สำหรับแถลงการณ์ของเฟดรอบนี้ ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อใด เพียงแต่ระบุว่าเฟดต้องการเวลามากขึ้นในการจับตาเศรษฐกิจ และเฟดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ส่วนมุมมองด้านเศรษฐกิจสหรัฐ เห็นว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง อัตราการว่างงานปัจจุบันที่ 4.7% มองว่าเป็นระดับการจ้างงานที่เต็มศักยภาพ ขณะที่เงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นในระยะกลางใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด และเศรษฐกิจจะขยายตัวในระดับปานกลาง

 

ตลาดหุ้นสหรัฐ : รีบาวด์
ดัชนี DJIA ปิดที่ 19,890.94 จุด เพิ่มขึ้น 26.85 จุด หรือ +0.14% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,642.65 จุด เพิ่มขึ้น 27.86 จุด หรือ +0.50% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,279.55 จุด เพิ่มขึ้น 0.68 จุด หรือ +0.03% โดยผลประชุมเฟดออกมาตามคาด คือ คงดอกเบี้ย Fed Fund Rate ไว้ที่ 0.75% ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.ที่รายงานโดย ADP ออกมาแข็งแกร่ง และผลประกอบการของ Apple Inc ดีเกินคาด

+ สหรัฐ : ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนและ PMI ภาคการผลิตเดือนม.ค.แข็งแกร่ง
# ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่าการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนม.ค.60 เพิ่มขึ้น 246,000 ตำแหน่ง (จากเพิ่ม 151,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค.) สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 165,000 ตำแหน่ง
# ดัชนีภาคการผลิต (PMI) ที่สำรวจโดย ISM +1.5% เป็น 56.0 ในเดือนม.ค.60 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่พ.ย.57 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 55.0 ส่วนผลสำรวจของ Markit ระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตสหรัฐขยายตัวเป็น 55.0 ในเดือนม.ค.60 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มี.ค.58 และเพิ่มจาก 54.3 ในเดือนธ.ค.59

+/ สัญญาน้ำมันดิบ : บวกดีขึ้น...กลุ่มโอเปกร่วมมือลดการผลิตในเดือนม.ค.ดีกว่าคาด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 53.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT เพิ่มขึ้น 1.22 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 56.80 ดอลลาร์/บาร์เรล หนุนโดยรายงานของ EIA ที่ระบุว่าการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 46,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 8.915 ล้านบาร์เรล/วัน ในสัปดาห์ที่แล้ว และในเดือนม.ค.60 กลุ่มโอเปกผลิตน้ำมันดิบลดลงรวมกัน 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน รัสเซียลด 100,000 บาร์เรลต่อวัน ระดับความร่วมมือในการลดการผลิตของกลุ่มโอเปกอยู่ที่ 82% ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดี สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐยังคงสูงมาก สัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้นถึง 6.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล

- สัญญาทองคำ : อ่อนลงก่อนการประชุมเฟด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 3.1 ดอลลาร์ หรือ 0.26% ปิดที่ระดับ 1,208.3 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยนักลงทุนรอผลประชุมเฟด และการแข็งค่าของเงิน US$ ก็กดดันด้วย

ปัจจัยในประเทศ :
อัตราเงินเฟ้อม.ค.60 เพิ่มเป็น 1.55% สูงสุดในรอบ 28 เดือน
กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนม.ค.60 ว่า +1.55%YoY สูงสุดในรอบ 28 เดือน และ +0.16%MoM ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน +0.75%YoY และ +0.07%MoM โดยดัชนีกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม +1.53%YoY และดัชนีหมวดที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม +1.55%YoY กระทรวงฯคาดการณ์เงินเฟ้อไตรมาส 1/60 ไว้ที่ 1.77% และประมาณการของปี 60 ไว้ที่ 1.5-2.0%

/+ KCE (ราคาปิด 103 บาท) : มาร์จิ้น 4Q59 อ่อนลงแต่จะดีขึ้นใน 1Q60
# ราคาทองแดงที่ปรับขึ้นมาในช่วง 2H59 ทำให้มาร์จิ้นของ KCE จะอ่อนลงใน 4Q59 แต่คาดว่าจะไม่ได้กระทบอย่างมีนัยสำคัญ เพราะวัตถุดิบทองแดงคิดเป็นประมาณ 10-12% ของต้นทุนการผลิตรวม นอกจากนั้นกำไรที่ลดลงใน 4Q59 มีปัจจัยฤดูกาลเข้ามากระทบด้วย
ทาง DBSV คาดว่าเมื่อบริษัทมีการใช้กำลังการผลิตเฟสใหม่ (เฟส 3) ที่เครื่องจักรมีประสิทธิภาพสูงใน 1Q60 แล้วมาร์จิ้นจะพลิกฟื้นขึ้นมาสู่ระดับที่ใกล้เคียงกับ 3Q59 ที่ประมาณ 36% ได้ ในด้านอุปสงค์ PCB ในกลุ่มยานยนต์ยังคงมีความแข็งแกร่งมาก และในปี 60-61 บริษัทจะรับรู้รายได้จากโรงงานใหม่ทั้งในเฟส 1-2-3 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น (ปี 60 ลงเครื่องจักร 5 แสนตรฟ. และปี 61 ลงอีก 3 แสนตรฟ.) ราคาหุ้นที่อ่อนลงเป็นจังหวะซื้อลงทุน โดย DBSV ยังคงให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 121 บาท

BA & SPF : ขึ้นค่าตั๋วเครื่องบิน 200 บาท/คน/เที่ยว & ผลกระทบถูกกล่าวหาบุกรุกที่ดินสาธารณะจำกัด
# ประเด็นถูกกล่าวหาบุกรุกที่ดินสาธารณะที่เกาะสมุย - นักวิเคราะห์ DBSV ได้สอบถามไปยัง BA แล้ว ทางบริษัทยืนยันว่าที่ผ่านมาได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนในกรณีที่แย่ที่สุด ผลกระทบจากการถูกกล่าวหาบุกรุกที่ดินสาธารณะก็ไม่มาก เนื่องจากพื้นที่ที่ถูกกล่าวหาเป็นส่วนการถมคลองที่ยังไม่ได้ใช้ในการดำเนินงาน และเป็นพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับรันเวย์ ทำให้ SPF จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทางฝ่ายวิจัยฯ DBSV จึงแนะนำซื้อ SPF (ราคาพื้นฐาน 26 บาท คาด Dividend Yield ปี 60 เท่ากับ 6.6%) โดย SPF มีความเสี่ยงจากกรณีนี้ต่ำกว่า BA โดยเปรียบเทียบ สำหรับ BA แนะนำทยอยซื้อสะสมเพื่อลงทุน (ราคาเป้าหมายปัจจุบันอยู่ที่ 30.90 บาท) ทั้งนี้คาดการณ์ว่าผลกระทบต่องบการเงินบริษัทจากกรณีนี้จะไม่มาก นอกจากนั้นบริษัทได้ประกาศปรับขึ้นราคาตั๋วเครื่องบินในประเทศ 200 บาท/คน/เที่ยว มีผลตั้งแต่ 8 ก.พ.60 เป็นต้นไปเพื่อสะท้อนอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินสำหรับเที่ยวบินในประเทศที่เพิ่มขึ้นจาก 0.20 เป็น 4.00 บาท/ลิตร ที่กฎหมายมีผลตั้งแต่ 25 ม.ค.60 ที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!