- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 02 February 2017 17:54
- Hits: 3425
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (2/02/60)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้'รอผล FED'
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้เคลื่อนไหวในแดนบวกลบสลับไปมาตลอดวัน หลังจากตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามา โดยนักลงทุนส่วนใหญ่รอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (31/1-1/2) ว่าจะมีมติออกมาในแนวทางใดรวมถึงรอดูว่านโยบายของประธานาธิบดีของสหรัฐว่าจะมีอะไรออกมาเพิ่มเติมอีกโดยเฉพาะด้านที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ โดยกลุ่มที่มีแรงซื้อเข้ามาหนาแน่นได้แก่กลุ่ม ICT และ รับเหมาก่อสร้าง (+1%) ขณะที่กล่มค้าปลีกมีแรงขายออกมา (-0.9%) ปิดตลาดดัชนีปรับลดลง 0.99จุด (-0.1%) มาอยู่ที่ 1,576.32 จุด ด้วย Vol. 60,515 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ประชุม FOMC วานนี้ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5-0.75% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดว่า FED จะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในรอบนี้ แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ และการจ้างงานจะฟื้นตัวดี โดยอัตราการว่างงานอยู่ที่ 4.7% และอัตราเงินเฟ้อเข้าใกล้ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของ FED
(+) PMI ภาคการผลิตสหรัฐ เดือน ม.ค. อยู่ที่ 56 จุด ดีกว่าที่คาดไว้ที่ 55 จุด
(+) ราคาน้ำมันดิบ WTI +2%Day มาปิดที่ 53.88 US/Barrel หลัง EIA รายงานการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 46000 บาร์เรล/วัน สู่ 8.915 ล้านบาร์เรล/วัน แต่มี Stock น้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น 6.5 ล้านบาร์เรล (มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ +3.3 ล้านบาร์เรล)
(+) ดัชนีหุ้นทั้งสหรัฐ และยุโรปวานนี้ปิดบวกขึ้นทุกตลาด จากทั้งผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดี และ FED ยังคงดอกเบี้ยตามคาด ทำให้ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะได้รับอานิสงค์เชิงบวกตามไปด้วย
(+) เกาหลีสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ระยอง มูลค่า 1.5 แสนลบ. ซึ่งคาดเปิดประมูลได้ราว เม.ย. 60
(-) โครงการรถไฟไทย-จีน มูลค่า 1.7 แสนล้านบาท ติดปัญหาด้านกฎหมาย-แบบก่อสร้างที่เสนอมาไม่ได้มาตรฐานสากล
(+/-) อัตราเงินเฟ้อเดือน ม.ค. 60 ของไทย เพิ่มขึ้น 1.55% สูงสุดในรอบ 28 เดือน จากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น กังวลราคาสินค้าและบริการถูกปรับเพิ่มขึ้น
(+/-) ที่ประชุม EEC เร่งพัฒนาแผนการพัฒนสนามบินอู่ตะเภา คาดเฟสแรกจะรองรับได้ 3 ล้านคน/ปี และจะเป็นพันธมิตรกับ THAI ด้านศูนย์ซ่อมอากาศยาน ภายในกลางปี 60
(+/-) กระทรวงอุตสาหกรรม อยู่ระหว่างจัดทำมาตรการส่งเสริมการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี) คาดแล้วจะเสร็จภายใน 2 เดือน และสนับสนุนการลงทุนของ BMW ในส่วนของเครื่องยนต์ผสมผสานกับพลังงานไฟฟ้า
(+/-) 2 ก.พ. ทางภาครัฐเตรียมจะหารือเรื่องการมีดาวเทียมของรัฐ ซึ่งกระทรวง DE และ CAT จะศึกษารูปแบบดาวเทียมของภาครัฐที่เป็นไปได้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
อยู่ในช่วงประกาศผลประกอบการ 4Q59/งบปี 59 (สิ้นสุด~สิ้นเดือน ก.พ.)
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ ได้แก่ ประชุม BOE (2 ก.พ.), อัตราการจ้างงานสหรัฐ ในเดือน ม.ค. (3 ก.พ.), PMI นอกภาคการผลิตสหรัฐ (3 ก.พ.)
กลยุทธ์การลงทุน 'เน้นกลุ่มพลังงาน'
ประเมินตลาดมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หนุนจากราคาน้ำมันที่ได้ปัจจัยบวกจากการเก็งรับปริมาณผลผลิตของ OPEC และรัสเซีย ที่คาดว่าจะลดลง ตามที่ได้มีการตกลงไว้ และได้โมเมนตัมบวกจากผลการประชุม FOMC ที่ยังคงดอกเบี้ยนโยบายลดความกังวลต่อประเด็นเม็ดเงินต่างชาติที่จะไหลออกจาก Emerging Market ภาพรวมเรายังคงมองตลาดอยู่ใน Zone แพงแต่ยังมีโมเมนตัมบวกหนุนคงแนะนำเก็งกำไรสั้นในกลุ่มที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะ อย่างกลุ่มพลังงาน ขณะที่ระยะกลางเน้นสะสมกลุ่มโรงกลั่นที่คาดว่าจะรายงานผลประกอบการ 4Q59 เด่นในสัปดาห์หน้า
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
PTTEP เก็งกำไร
คาดผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโต QoQ ต่อเนื่องในปี 60
ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
จ่ายปันผล 2.5 บาท/หุ้น XD วันที่ 10 ก.พ.60
SGP เก็งกำไร
ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น หนุนให้ราคา LPG ปรับตัวบวกต่อเนื่องในเดือน ม.ค. 60
คาดรายงานผลประกอบการ 4Q59 เด่น จากราคา LPG ที่ปรับเพิ่มขึ้น QoQ
ปัจจุบันซื้อขายกันที่ระดับ PER 13.4 เท่า PBV 1.37 เท่า
ทีมวิเคราะห์