- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 02 February 2017 17:38
- Hits: 1468
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET มีลุ้นบวกสลับ แต่คาดยังปรับลงได้อีก จึงรอซื้อช่วงลบดีกว่า
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET เริ่มแกว่งทรงตัวในกรอบแคบ หลังวันก่อนหน้าปรับตัวลงค่อนข้างแรง ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ก็เริ่มมีแรงซื้อหนุนให้แกว่งบวกได้ แต่เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ ทำให้ในช่วงท้ายตลาดยังมีแรงขายออกมากดดันให้ดัชนีปรับตัวลงจากจุดสูงสุดของวันกว่า 10 จุด ก่อนจะขยับขึ้นมาปิดเป็นลบเพียงไม่ถึง 1 จุด
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาพยุงตลาดได้ในช่วงอ่อนลง ทำให้มีลุ้นโอกาสขยับกลับเป็นบวกได้อีก ซึ่งเช้านี้ยังมีแรงหนุนจากการเปิดขยับบวกของตลาดหุ้นในเอเชียอยู่ หลังตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่ปิดด้านบวก ขานรับผลประชุมเฟดที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน และมีมุมมองด้านบวกต่อเศรษฐกิจ รวมทั้งยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ แอปเปิล อิงค์ , วอลโว่ และซีเมนส์ เอสอี นอกจากนี้ยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของกลุ่มยูโรโซน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบก็ขยับฟื้นตัวดีขึ้นอีกครั้ง หลัง EIA ระบุว่าการผลิตน้ำมันของสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลดลง และมีรายงานว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันซึ่งรวมทั้งโอเปกและรัสเซีย พร้อมใจกันลดกำลังการผลิตในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามกรอบบวกของตลาดเอเชียยังจำกัดและผันผวนให้เห็นอยู่ ทำให้ FSS คาดว่า SET ก็น่าจะบวกด้วยกรอบแคบ และยังต้องระวังจังหวะอ่อนตัวลงต่ออยู่เช่นเดิม
กลยุทธ์ : เรายังแนะนำให้รอเลือกหุ้นซื้อช่วงลบต่อดีกว่า แต่ซื้อแล้วเน้นถือได้
แนวรับ 1575-1570 , 1566-1563 จุด
แนวต้าน 1580-1582 , 1584-1586 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : JMART, BPP, VNG(buy back)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$36ล้าน นำโดยไทย US$60ล้าน และฟิลิปปินส์ US$11ล้าน ขณะที่ไหลเข้าอินโดนีเซีย US$27ล้าน และเกาหลีใต้ US$8ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคแต่อาจจะเบาบางลงหลังผลการประชุม Fed มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามตลาดคาดและแสดงมุมมองด้านบวกต่อเศรษฐกิจ แต่ตลาดยังมีความกังวลต่อการดำเนินนโยบายของปธน.ทรัมป์
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ค่าเงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่า ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐเดือน ม.ค. และตัวเลขเศษรษฐกิจอื่นออกมาสดใสมาก แต่ Fed ยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.50-0.75% เพราะคำนึงถึงความไม่แน่นอนของนโยบายทรัมป์ การไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ทำให้ค่าเงินบาทยังมีโอกาสแข็งค่าต่อในระยะนี้
(0) รัฐสภาอังกฤษเห็นชอบร่างกม. Brexit นสพ.ไทมส์รายงานว่านางเทเรซาเมย์จะประกาศใช้มาตรการ 50 วันที่ 9 มี.ค. นี้เพื่อเริ่มกระบวนการแยกตัวจากสหภาพยุโรป
(-) DELTA แนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q16 ไม่สดใส คาด -3% Q-Q, -20% Y-Y ยอดขายอินเดียไม่ฟื้นตัวตามคาด จากเดิมที่คาดว่าคำสั่งซื้อที่อินเดียจะเลื่อนมารับรู้ในไตรมาสนี้ เราปรับกำไรสุทธิปี 2016 ลง 3% เป็นหดตัว 20% Y-Y เหลือ 5.35 พันล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 4 ปี ส่วนปี 2017 คาดกำไรฟื้น 22% Y-Y จากฐานต่ำ และการฟื้นตัวของตลาดสหรัฐและอินเดีย คงราคาพื้นฐาน 74 บาท ปัจจุบันมี PE 16 เท่าแพงกว่ากลุ่ม คงคำแนะนำขาย
(-) KCE ราคา Copper Foil ที่ปรับขึ้นแรง 40% ในช่วงที่ผ่านมาแต่ยังไม่สามารถปรับราคากับลูกค้าได้ ทำให้เราคาดกำไรใน 4Q16 จะลดลง 25-30% Q-Q เหลือ 550-600 ล้านบาท เรามีแนวโน้มกำไรปี 2017 ลงเพราะราคาสินค้าที่ขายล่วงหน้าบางส่วน ตกลงกันก่อนที่ราคา copper foil จะขึ้นแรง เบื้องต้นคาดว่าราคาพื้นฐานอาจลดลงเหลือ 105 บาท+/- (ปัจจุบันให้ไว้ 117 บาท) ลดคำแนะนำเป็นถือ จากเดิมซื้อ
(0) M กำไรสุทธิ 4Q16 ไม่น่าตื่นเต้น คาด +2.5% Q-Q, +5.7% Y-Y ทำให้กำไรทั้งปีโต 12% Y-Y ส่วนปี 2017 เราคงประมาณการเดิมที่คาดกำไร +13.8% Y-Y จากการเปิดสาขาใหม่ 40 แห่ง คาด SSSG กลับมาเป็นบวก 3% คงราคาพื้นฐานที่ 60 บาท แต่ upside ที่เหลือเพียง 5% จึงลดคำแนะนำลงเป็นถือ จากเดิมซื้อ
(+) BEM แนวโน้มกำไรปกติ 4Q16 ไม่น่าตื่นเต้น คาด -1.2% Q-Q จากดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการออกหุ้นกู้ 8,000 ล้านบาท ไม่สามารถชดเชยรายได้ที่โตได้ แต่ +59.7% Y-Y จากการเปิดทางด่วนศรีรัชรอบนอกตั้งแต่ ส.ค. และคาดกำไรทั้งปี 2016 +108% Y-Y เราปรับราคาพื้นฐานลงเป็น 10.50 บาทจาก 12 บาทจากการปรับลดจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายลงเพราะเห็นผู้โดยสารสายสีม่วงต่ำกว่าคาดมาก และปรับลดปริมาณการจราจรทางด่วนศรีรัชรอบนอกลง ยังคงแนะนำซื้อ
(-) THCOM ผลประกอบการ 4Q16 พลิกเป็นขาดทุนสุทธิ 114 ล้านบาท หากตัดรายการพิเศษ กำไรปกติก็เหลือเพียง 85 ล้านบาท -76% Q-Q, -89% Y-Y จากรายได้ที่หดตัวอย่างมาก แนวโน้มปี 2017 ยังเป็นลบ ประมาณการกำไรที่เราคาดมี Downside ยังคงแนะนำขาย ราคาพื้นฐาน 19 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
2 ก.พ. - ไทย:อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)
- จีน: Manufacturing and Non-Manufacturing PMI (ม.ค.)
- อังกฤษ: BOE Meeting
3 ก.พ. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (ม.ค.)
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Composite PMI (ม.ค.)
6 ก.พ. - อินโดนีเซีย: 4Q16 GDP
7 ก.พ. - จีน: Caixin China PMI Composite (ม.ค.)
8 ก.พ. - ไทย:กนง.ประชุม (เราคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%)
9 ก.พ. - ฟิลิปปินส์:ธนาคารกลางประชุม
10 ก.พ. - จีน:ดุลการค้า (ม.ค.)
13 ก.พ. - ญี่ปุ่น: 4Q16 GDP
14 ก.พ. - จีน:อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)
- ยูโรโซน:4Q16 GDP, Zew Survey Expectation (ก.พ.)
15 ก.พ. - ไต้หวัน: 4Q16 GDP
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาพลิกมาปิดบวกได้เล็กน้อยหลังที่ประชุม FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือน ม.ค. ขยายตัวสูงสุดในรอบ 7 เดือน
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกได้เช่นกันโดยนักลงทุนจับตาดูและให้น้ำหนักการการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่สดใส
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวค่อนมาในแดนบวกได้จากบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายมากขึ้น อย่างไรก็ตามตลาดจับตาดูสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ
(0) ค่าเงินบาทเริ่มแกว่งทรวตัวหลังจากแข็งค่าขึ้นในช่วงก่อนหน้า ล่าสุดยังเคลื่อนไหวในกรอบ 35.05-35.16 บาท/ดอลลาร์
(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 53.88 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ตามราคาเริ่มปรับตัวลงในวันนี้หลังมีรายงานว่าสต๊อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งบดบังปัจจัยบวกจากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC และอื่นๆ
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 3.10 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,208.30 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุม FED ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือน ม.ค. ออกมาแข็งแกร่ง
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch