- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 01 February 2017 18:08
- Hits: 4725
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
SET Retrieve
วันนี้คาดดัชนี ฟื้น โดยไม่หลุดแนวรับ 1,563 จุด แม้ว่าความผันผวนในสัปดาห์นี้ จะมากเกินคาด แต่เชื่อว่าการหลุดจากแนวรับระยะสัปดาห์ที่ 1,580 จุด ลงมา จะเกิดเพียงแค่รูปแบบ “ไส้แท่งเทียน” คือ ลงหลุด แล้วดึงตัวกลับ แนะกลยุทธ์ เลือกลงทุนรายตัว เน้นสะสมหุ้นบูลชิพปันผลสูง และ เลือกเล่นหุ้นที่มีประเด็นบวกรายตัว
สัปดาห์ที่แล้วดัชนีฯขึ้นผ่านแนวต้านระยะสัปดาห์ 1,575 จุด (ตามคาด) ก่อนจะพักตัวจากแรงขายทำกำไรที่แนวต้านจิตวิทยา 1,600 จุด สัปดาห์นี้คาดผันผวนในกรอบ 1,620-1,580 จุด ตามรายงานผลประกอบการ บจ.ไทย (DTAC แย่กว่าคาด เป็นต้น) และ รอดูถ้อยแถลงประธานเฟดในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯวันนี้
ระยะเดือน เดือน กพ. คาด (+/-) หุ้นรายตัว ผันผวนตามผลประกอบการและปันผล บจ.ไทย ที่ทยอย
ประกาศ (0/-) แถลงการณ์นโยบายของ ปธน.สหรัฐฯ ในเดือน กพ. (+) กรอบระยะเวลาการจัดตั้ง
Super Holding ของรัฐวิสาหกิจไทย คาดมีกระแสข่าวความคืบหน้าช่วงครึ่งหลังของเดือน กพ. (หุ้นใน
กลุ่ม PTT และ AOT, THAI, KTB, MCOT อาจได้จิตวิทยาบวกระยะสั้นจากข่าวนี้) กรอบ 1,550-1,620
จุด แนะเลือกลงทุน ไปที่หุ้นที่ ให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูง จากเงินปันผลปี 2016 (หักระหว่างกาล
แล้ว) สูงกว่า 4% ขึ้นไป เช่น GLOW IRPC KTB TCAP JASIF SC SIRI LPN
หุ้นแนะนำวันนี้ Earnings play: TPCH แนวรับ 18.6 บ. ต้าน 19.5 บ. Stop loss 18.4 บ.อิงจาก
คาดการณ์กำไรทั้งปี 2016 ของเราที่ 200 ล้านบาท (9 เดือนมีกำไร 130 ล้านบาท) เราคาด กำไร
4Q16 ที่ 70 ล้านบาท +118 y-y และ +40 q-q / SGF Resume trade วันนี้ / ARROW แนวรับ 17.2
บ. ต้าน 17.8/18 บ. Stop loss 17 บ. เมื่อวาน ครม.เพิ่มงบ สายไฟลงดินใน 3 โครงการ เป็น 9 พันล้านบาท
รายงานวันนี้
(0) IVL เราคาดกำไรสุทธิ 4Q16 ที่ 2.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 466% YoY แต่ลดลง 17% QoQ หาก
ไม่รวมรายการพิเศษ Inventory gain 283 ล้านบาทและ FX gain 20 ล้านบาท กำไรหลักคาดจะ
เติบโต 45% YoY แต่ลดลง 6% QoQ มาอยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท เรามองว่าสินค้าในกลุ่ม Polyester
(PET และ PTA) กำลังอยู่ในช่วง High season ซึ่งเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 1 และไปทำจุดสูงสุดในไตรมาส
2 โดยปกติ ซึ่งจากอดีตพบว่า ส่วนต่าง PET (Asia) และ PET (Western) จะเพิ่มขึ้น 15% และ 11%
QoQ ตามลำดับ หนุนให้กำไรใน 1Q17 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 42 บาท
(+) กลุ่มสายการบิน วานนี้สายการบินต้นทุนต่ำในประเทศ ทั้ง Thai AirAsia, Nok Air และ Thai Lion
Air ประกาศรวมภาษีน้ำมันเข้าไปในค่าตั๋วโดยสาย 150 บาท/คน/เที่ยว สะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
ภายหลังจากมีการประกาศเก็บภาษีน้ำมัน เรามองว่าข่าวนี้ส่งผลเชิงบวกต่อกลุ่มสายการบิน โดยจะช่วย
ลดความกังวลในแง่ของอัตราการทำกำไร เนื่องจากมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และข้อมูลในอดีตบ่งชี้ว่า การ
ปรับขึ้นค่าโดยสารเพื่อสะท้อนต้นทุนน้ำมันที่เพ่มขึ้น ไม่ได้กระทบต่อจำนวนผู้โดยสารอย่างมีนัยสำคัญ
เรายังคงชื่นชอบ AAV ที่สุดในกลุ่ม
(+) AU แม้ว่าราคาหุ้นจะมีการปรับตัวขึ้นมากว่า 176% จากราคา IPO ที่ 4.50 บาท แต่เราเชื่อว่ามี
โอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นได้ต่อ หนุนโดยอัตราการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง โดยเราคาดกำไรปี
2017 โต 36% และยังมีโอกาสปรับประมาณการขึ้นในอนาคตอีกจากธุรกิจ OEM และโอกาส M&A เรา
คาดกำไรหลัก 4Q16 ที่ 26 ล้านบาทเติบโต 41% YoY และ 25% QoQ อย่างไรก็ตามเราคาดจะมี
ค่าใช้จ่ายพิเศษเกี่ยวเนื่องกับ ESOP ราว 7.6 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิประเมินไว้ที่ 21 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 3% YoY แต่ลดลง 8% QoQ เรามีการเปลี่ยนวิธีประเมินมูลค่าสะท้อนการเติบโตของกำไรที่
ก้าวกระโดด โดยประเมินด้วยวิธี PEG (จาก DCF) ณ ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 14.20 บาท อิง PEG 2 เท่า
ยังต่ำกว่า M ที่ 3 เท่า และใกล้เคียงกับ Global peers ที่ 1.8 เท่า เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ
(-) PTTEP เชลล์ ตกลงขายหุ้นแหล่งบงกช 22.2% ให้ Kuwait Foreign Petroleum Exploration
มูลค่า 900 ล้านเหรียญฯ ซึ่งแหล่งบงกช อยู่ในพื้นที่บริเวณอ่าวไทย โดยมี PTTEP ถือหุ้นใหญ่ 44.44% เรามองว่าข่าวนี้เป็น sentiment ด้านลบกับ PTTEP เพราะการที่บริษัทไม่ชนะการประมูลครั้งนี้คาดตลาดจะมีมุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้นต่อความคาดหวังกับดีล M&A ในครั้งต่อไป เพราะราคาที่บริษัทให้อาจสู้ตลาดไม่ได้ ซึ่งดีลที่ตลาดรอคอยอยู่เช่น การซื้อหุ้น 28.3% ในโครงการ Myanmar’sYadana จาก Chevron ในบรรดาหุ้นน้ำมัน เราชอบ PTT มากที่สุด (-) BAY คาดกำไรของธนาคารจะเติบโตราว 10% ในปีนี้ หลังจากที่โตราว 15% ในปี 2016 คาด
ส่วนใหญ่กำไรได้ปัจจัยหนุนจาก การซื้อสินเชื่อจาก Bank of Tokyo Mitsubishi (Thailand) คาดการเติบโตของสินเชื่อจะลดลงสู่ระดับปกติ (หากไม่รวมการซื้อสินเชื่อ) และการเน้นการปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจญี่ปุ่นคาดส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตได้ไม่มาก และยังมีการลงทุนระบบ IT ซึ่งมีโอกาสที่ค่าใช้จ่าย OPEX เพิ่มในปีนี้ ด้วย valuation ปัจจุบันหุ้นเทรดที่ PBV ที่ 1.3 เท่า ใกล้กับเป้าหมายของเราที่ 1.4 เท่า เราจึงปรับคำแนะนำลงเป็นถือ ราคาเป้าหมาย 42.5 บาท
(+) BBL เราเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ เรามองว่าปี 2017 ผลประกอบการน่าจะยังคงเติบโตได้ดี โดยประเมินอัตราการเติบโตของสินเชื่อที่ 4% หนุนโดยทั้งการลงทุนจากภาครัฐและเอกชน
ในขณะที่ NPL คาดจะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อยจากปีที่แล้วจากภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและการบริหารงาน NPL ได้ดี การปรับใช้มาตรฐานบัญชี IFRS9 ประเมินว่าน่าจะส่งผลกระทบค่อนข้างจำกัด
เนื่องจาก BBL มีอัตรา Loan-loss-coverage ที่สูงถึง 174% ในปี 2016 อยู่แล้ว โดยภาพรวมเราคาดกำไรปี 2017 ที่ 3.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% YoY เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 213 บาท
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) SGF กลับมาเทรดวันนี้ (ที่มา ตลท.)
(+) ARROW ครม.เพิ่มงบประมาณสายไฟลงใต้ดิน โครงการ ปทุมวัน, พระราม 3 และนนทรี เป็น 9 พันล้านบาท (ที่มา ไทยรัฐฯ)
(+) XD 7 กพ. [email protected] บ. 2 มีค. [email protected] บ. / 3 มีค. [email protected] [email protected]@0.0412 และ Stock dividend 2.7:1 และแจกวอร์แรนต์ 3:1 @ 0 บ. ขึ้น WX วันที่ 16มีค. / 4 เมย. [email protected] บ. (ที่มา ตลท.)
(0) กำไรแบงก์ลด หนี้เสียพุ่ง ฟิทช์ชี้ เศรษฐกิจชะลอ หนี้ครัวเรือนสูง แบงก์เข้มปล่อยกู้ (ที่มา พาดหัวข่าว กรุงเทพธุรกิจ) / ความเห็น จากรายงานกำไรกลุ่มธนาคารรอบนี้ ข้อเท็จจริงเราพบว่า NPLเฉลี่ยปี 2016 ได้ปรับลงเหลือ 3% จากปี 2015 ที่ 3.2% ส่วนการตั้งสำรองซึ่งในปีที่ผ่านมามีการเร่งตั้ง เกิดจากการปฏิบัติตามมาตรฐานบัญชีใหม่ ไม่ได้เกิดเพราะสัญญาณหนี้เสียพุ่งขึ้น และสัดส่วนเงินตั้งสำรองของกลุ่มแบงก์ตอนนี้เฉลี่ยสูงถึง 136% รองรับความผันผวนของหนี้เสียเก่าและใหม่ได้โดยเชื่อว่าไม่มีความจำเป็นต้องตั้งสำรองเพิ่ม โดยแบงก์ส่วนใหญ่มีการกันสำรองค่อนข้างสูง(BBL 174% BAY 147% TMB 145% SCB 130% เป็นต้น)
ปัจจัยที่มีผล
(0) สศค. ปรับแนวโน้มขยายตัวเศรษฐกิจไทยในอัตราเร่งขึ้นมาอยู่ที่ 3.6% (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่3.1-4.1%) จากเดิมที่เคยคาดว่าจะเติบโตได้ราว 3.4% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่าที่เคยคาดไว้ ราคาน้ำมันสูงขึ้น และค่าเงินบาทอ่อนค่าช่วยหนุนการฟื้นตัวของการส่งออกอีกแรงหนึ่ง (ที่มา อินโฟเควส ASPEN)
(+) พุธ US ISM ภาคผลิต มค. คาด +55 จาก 54.5, ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดคงดอกเบี้ยlower bound 0.5 และ upper bound 0.75% สเปน และ อิตาลี PMI, EU area PMI คาด 55.1คงที่, จีน Official PMI mfg. คาด 51.2 จาก 51.4, เงินเฟ้อไทย เดือน มค. คาด +1.5% จาก1.1% y-y. เกาหลีใต้ส่งออกเดือน มค.คาด +9% จาก +6.4% y-y. (ที่มา Bloomberg)
(0) พฤหัส US Nonfarm productivity คาด +1% q-q. จาก +3.1%, ECB Economic bulletin,ประชุมธนาคารกลางอังกฤษ คาด คงดอกเบี้ย 0.25% และ QE 4.35 แสนล้านปอนด์, ญี่ปุ่นConsumer confidence, เกาหลีใต้ CPI คาด +1.6% จาก +1.3% (ที่มา Bloomberg)
(0) ศุกร์ US การจ้างงานนอกภาคเกษตร มค. คาด 1.68 แสนรายจาก 1.56 แสนราย, US อัตราว่างงาน มค.คาด +4.7% คงที่, สเปน และอิตาลี PMI ส่วน EU PMI composite คาด 54.3, BOJminutes, (ที่มา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค