- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 01 February 2017 17:10
- Hits: 3137
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวรับสำคัญ 1568-1570
SET Index: 1579.98 ฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1580 จุด หลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคที่บริเวณแนวต้านที่ 1600 จุด ทำให้แนวโน้มขาลงในระยะยาวที่บริเวณ 1580-1585 จุดกลับมามีอิทธิพลอีกครั้ง แนวโน้มในระยะสั้นจึงมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1568-1570 จุดตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น ในระยะสัน้ ถ้าหลุดลงไปต่อเนื่องจะมีแนวรับถัดไปที่ 1545-1550 จุดเป็นแนวรับสำคัญ
แนวต้าน : 1580 และ 1582
แนวรับ : 1575 และ 1570
SGF = 0.68 / 0.74, PTTEP = 98.00 / 100, PTT = 400 / 408, BEUATY = 10.50 / 10.70, SAWAD = 43.00 / 44.00
Sub Sri Thai (SST TB; THB 14.60) – ซื้อ
แนวต้าน : 16.00 และ 16.50 / แนวต้านสำคัญ 17.00
แนวรับ : 14.60 และ 14.40
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออก
ด้านข้างเพื่อสร้างฐานจากแรงขายทำกำไรทำกำไรในระยะสั้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น
MACD ปรับตัวลดลงตํ่ากว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้ดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ SST โดยมีแนวรับที่ 14.60 และ 14.40 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่16.00 และ 16.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดตํ่ากว่า 14.30 ลงไป
Wiik & Hoeglund (WIIK TB; THB 5.50) – ซื้อ
แนวต้าน : 5.75 และ 6.00 / แนวต้านสำคัญ 6.40
แนวรับ : 5.50 และ 5.40
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคต่อเนื่อง พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างจากแรงขายทำกำไรที่บริเวณจุดสูงสุดเดิม ในขณะที่แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ WIIK โดยมีแนวรับที่ 5.75 และ 6.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.50 และ 5.40 เป็นจุดขายทำกำไร
• STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดตํ่ากว่า 5.20 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…อ่อนตัวลง
ผลการประชุม FOMC วันนี้ตลาดคาดที่ประชุมน่าจะคงดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่เดิม แต่ตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มเผชิญกับแรงขาย หลังนาย Donald Trump เปิดเผยรายละเอียดแผนการจำกัดการไหลเข้าแรงงานจาก 7 ประเทศมุสลิม นอกจากนั้นในการพบปะกับผู้ผลิตยารายใหญ่ของโลก ทางนาย Donald Trump ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าบริษัทยาลักลอบผลิตยาจากประเทศที่มีค่าเงินอ่อนตัว ขณะที่ที่ปรึกษาทางการค้าของ Donald Trump ได้ออกมาแสดงความเห็นว่าว่าเยอรมันทำให้ค่าเงินของตนเองอ่อนตัวลงเพื่อให้ได้เปรียบทางการค้า ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์เทียบ 6 สกลุเงินหลักอ่อนตัวลงต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.
จากการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐ จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ ท่ามกลางความกังวลว่านโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐ จะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการค้าและอื่นๆ แต่จากผลการสำรวจของนักลงทุนทั่วโลก 47 กองทุน ปรากฏว่าในเดือน ม.ค. นักลงทุนกลับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามหากมาดูทิศทางดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลกนับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน จากรูปด้านซ้าย พบว่าตลาดหุ้นเกิดใหม่ต่างปรับตัวขึ้น 5.9% เทียบตลาดพัฒนาแล้วที่ปรับตัวขึ้นเพียง 2.3% โดยตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น 4.8% สภาพตลาดหุ้นช่วงที่นาย Donald Trump กำลังเปิดเผยรายละเอียดทางเศรษฐกิจ เราคาดว่าตลาดน่าจะเริ่มมีความผันผวนเพิ่มขึ้นทั้งจากผลกระทบจากนโยบายและแรงขายทำกำไรหลังดัชนีขึ้นมาสูงมาก
ในตลาดหุ้นไทย ดัชนีสามารถขึ้นสูงสุดที่ระดับ 1600+/- จุด แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีแรงขายทำกำไร หลังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ โดยแรงซื้อและขายยังกระจุกอยู่ในหุ้นกลุ่มพลังงานใหญ่อย่าง PTT และ PTTEP หากมองดัชนีกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่ทั้ง 4 บริษัทอย่าง PTT PTTEP PTTGC และTOP พบว่าระดับดัชนีได้ขึ้นมาที่ระดับ +1SD หากเทียบกับอดีตถือว่ายังมีช่องให้ขึ้นได้อีก เพียงแต่ตอนนี้ยังมีแรงกดในหุ้น PTTGC และ TOPส่วน PTT และ PTTEP ระดับราคาหุ้นได้ขึ้นมาที่ระดับ +2SD จึงไม่แปลกที่หุ้นทั้ง 2 ต้องเผชิญกับแรงขายทำกำไระยะสั้นทั้งรับข่าวเรื่องกสนนำหุ้น PTTOR เข้าจดทะเบียนในตลาดในปีนี้ ราคาน้ำมันและผลการดำเนินงานที่ออกมาดีใน Q4/16
อาทิตย์นี้มองทิศทางตลาดหุ้นไทย จะเข้าสู่ช่วงของการปรับตัวลง หลังดัชนีตลาดหุ้นในต่างประเทศเริ่มผันผวน จากความไม่แน่นอนจากนโยบายของนาย Donald Trump โดยมองแนวโน้มดัชนีจะลงมาเล่นที่กรอบ 1570-1560 จุด หรือต่ำกว่าหากดัชนีตลาดหุ้นในต่างประเทศผันผวนแรงนอกจากนั้นในตอนนี้สภาพการเล่นในตลาดหุ้นไทย แทบไม่มีกลุ่มไหนที่มีข่าวในเชิงบวกหรือพอมีช่องให้เล่น จะมีก็เพียงการเก็งในระยะสั้นระหว่างวัน และมีแรงขายหุ้นในกลุ่มหลัก เรามองว่าหุ้นในกลุ่มที่ยังพอมีข่าวและมีช่องให้ขึ้น คือ อาหาร เกษตร โรงพยาบาล บันเทิง
วันนี้ มองดัชนี SET มีแนวโน้มอ่อนตัวลงไปอีก หลังมีแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงานและขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ๆ ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคปรับตัวลง วันนี้มองแนวรับที่ 1570-1565 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1582-1586 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BCH KCE MAJOR และ BJC
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
ช่วงเช้าปิดที่ 1,579.98 จุด เพิ่มขึ้น 2.67 จุด(+0.17%) มูลค่าการซื้อขาย 25,769.31 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้รีบาวด์ในกรอบแคบ โดยมีแรงซื้อกลับในกลุ่มพลังงาน และธนาคารด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ นักลงทุนรอดูผลการประชุมเฟด (คืนนี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย หาก SET Index กลับไปยืนเหนือ 1580 จุด ไม่ได้จะเกิดสัญญาณขายและมีโอกาสลงต่อไปที่ 1563 จุด แต่หากสามารถกลับไปยืนเหนือ 1580 จุดได้ ก็จะเข้าสู่รอบการเก็งกำไรรอบใหม่ที่มีเป้าเดิมที่ 1600 จุด ภาพรวมตลาดหุ้นไทยปรับตัวตามตลาดภูมิภาค โดยปัจจัยหลักที่กดดันตลาดคือความกังวลต่อการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของทรัมป์ที่อาจจะสร้างให้เกิดการกีดกันทางการค้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลกตามมาในที่สุด ประกอบกับนักลงทุนน่าจะรอดูผลการเฟดในรอบนี้ว่าจะมีแถลงการใดที่อาจจะเป็นการส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐรอบใหม่หรือไม่ ระยะสั้นชะลอการลงทุนไปก่อน และรอซื้อที่ 1565 จุด
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
Sub Sri Thai (SST TB; THB 14.60) – ซื้อ
Wiik & Hoeglund (WIIK TB; THB 5.50) – ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : DIMET, ALT*, KOOL*, SCI*, TRUBB* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 – [email protected]/ [email protected]