- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 27 January 2017 18:06
- Hits: 9799
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : PSH (จากซื้อเป็นถือ)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยขึ้นไปทดสอบ 1600 จุดแต่ยังยืนไม่ได้ ปิดตลาด +6.71 จุดที่ 1591 จุด ปัจจัยหนุนคือ Sentiment บวกของตลาดหุ้นสหรัฐ & เอเชีย ต่างชาติซื้อสุทธิเพิ่มเป็น 3.1 พันล้านบาท สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 800 กว่าล้านบาท รายย่อย&พอร์ตบล.ขายสุทธิ สำหรับปัจจัยสำคัญในช่วงนี้ ได้แก่
+ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งต่อ โดย PMI ภาคผลิต & บริการเดือนม.ค.ปรับขึ้นต่อ หนุนดัชนีดอลลาร์กลับมาที่ 100.5 จาก 99.92
+ ราคาน้ำมันดิบกระเตื้องขึ้นหลังสะท้อนความกังวลเรื่องสหรัฐมีแนวโน้มผลิตเพิ่มไปพอควร ขณะเดียวกับกลุ่มในและนอกโอเปกกำลังเดินหน้าลดปริมาณการผลิตตามแผน...กำไร PTTEP ฟื้นแกร่งในปี 59 และคาดว่าจะเติบโตอีก 15% ในปี 60 ให้ราคาพื้นฐาน 105 บาท
+ พบเชื้อหวัดนกในญี่ปุ่นต้องทำลายไก่ไปแล้วกว่า 1.6 แสนตัว อาจเป็นโอกาสที่ไทยจะส่งออกไก่ไปญี่ปุ่นได้มากขึ้น ให้ GFPT เป็นหุ้น Top Pick ในกลุ่มไก่ส่งออก ประเมินราคาพื้นฐานไว้ที่ 17.40 บาท
•/+ บจ.ทยอยรายงานผลประกอบการ 4Q59 และปี 59 รวมถึงการประกาศจ่ายปันผล ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นตลาดเดือนก.พ.
• จัดพอร์ตบนความสมดุลของ Risk & Return (แบ่งเป็น 3 หมวด : หุ้นปันผล, หุ้นมั่นคง และหุ้นเติบโต) และทำ Re-balancing ต่อเนื่อง ทั้งนี้ตลาดหุ้นปีนี้มีแนวโน้มผันผวน ความเสี่ยง FX มากขึ้น และเริ่มต้นปีบน Index ที่สูง หุ้นพื้นฐานแนะนำเป็น PTTEP
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นสัญญาณเป็นบวก ซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก แนวต้านระยะสั้น 1600} 1610-1620 จุด การอ่อนตัวจนหลุด 1580 จุดดูไม่ค่อยดี ควรลดพอร์ตตาม/Stop Loss สำหรับการ Trading
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศสำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ :
+/• อังกฤษ : เศรษฐกิจ 4Q59 ขยายตัว 0.6%QoQ สูงกว่าที่ตลาดคาด
สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า เศรษฐกิจอังกฤษมีการขยายตัว 0.6%QoQ ในไตรมาส 4/59 โดยเศรษฐกิจยังคงขยายตัวได้แม้มีการลงประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของภาคบริการ การเพิ่มของยอดค้าปลีก รวมทั้งมีการดีดตัวในภาคการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภค แต่นักวิเคราะห์เตือนว่าอังกฤษยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนในอนาคต และเศรษฐกิจอาจชะลอตัวลงในช่วงต่อไปในปี 60
+/• สหรัฐ : ตัวเลขภาคบริการม.ค.59 แข็งแกร่ง ส่วนภาคแรงงาน & ที่อยู่อาศัยชะลอเล็กน้อย
# มาร์กิตเปิดเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 55.1 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2015 หลังจากอยู่ที่ระดับ 53.9 ในเดือนธ.ค.
# กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 22,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 259,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 247,000 ราย
# ยอดขายบ้านใหม่ร่วงลง 10.4%MoM ในเดือนธ.ค.59 สู่ระดับ 536,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 588,000 ยูนิต เพราะจำนวนบ้านให้เลือกซื้อมีน้อยลง
• ตลาดหุ้นสหรัฐ : แกว่งตัวหลังทำ Record High ในวันก่อนหน้า
ดัชนี DJIA ปิดที่ 20,100.91 จุด +32.40 จุด หรือ +0.16% ดัชนี NASDAQ -1.16 จุด หรือ -0.02% และดัชนี S&P500 -1.69 จุด หรือ -0.07% ทั้งนี้รายงานผลประกอบการบจ.ยังช่วยหนุนตลาดในช่วงนี้ต่อ นอกเหนือจากความหวังว่ามาตรการทรัมป์จะทำให้เศรษฐกิจและกำไรภาคธุรกิจสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่ง
+/• ราคาน้ำมันดิบ : ปรับรีบาวด์ แต่ยังกังวลการผลิตเพิ่มของสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.03 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 53.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 56.24 ดอลลาร์/บาร์เรล หนุนโดยความคืบหน้าในการลดการผลิตของกลุ่มในและนอกโอเปก อย่างไรก็ตาม การผลิตเพิ่มของสหรัฐก็ยังกดดันการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบในปีนี้
- ราคาทองคำ : อ่อนลงต่อหลังดอลลาร์แข็งขึ้น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 8 ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ระดับ 1,189.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังดัชนีดอลลาร์แข็งขึ้นเป็น 100.5 จาก 99.92
ปัจจัยในประเทศ :
• ธปท.ชี้เศรษฐกิจไทยปี 60 ยังเสี่ยงสูง
ผู้ว่าการธปท.ระบุว่าเศรษฐกิจไทยปี 60 คาดว่าจะเติบโต 3.2% ภายใต้ความเสี่ยงสูง เนื่องจากโลกกำลังเข้าสู่ช่วงวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น นำโดยสหรัฐ ซึ่งทำให้หลายประเทศอาจต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยตามในที่สุดเพื่อรักษา Gap ระหว่างอัตราดอกเบี้ยท้องถิ่นกับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐไม่ให้มากเกินไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเงินทุนเคลื่อนย้าย ปัจจัยห่วงใยยังคงเป็นระดับหนี้ครัวเรือนที่ยังสูงมาก ซึ่งจำกัดการขยายตัวของการบริโภค, การสูญเสียความสามารถแข่งขันผู้ส่งออก, การลงทุนของภาคเอกชนที่ยังอ่อนแอ และการปรับตัวที่ล่าช้าของ SME ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ค่อนข้างจำกัด
+ กลุ่มไก่ส่งออก : ญี่ปุ่นพบเชื้อไข้หวัดนก H5N6 ในพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้...แนะนำซื้อ GFPT
กระทรวงเกษตรญี่ปุ่นเปิดเผยว่า การะบาดของเชื้อไข้หวัดนก H5N6 ส่งผลให้ฟาร์มสัตว์ปีกทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น และทางจังหวัดมิยาซากิต้องฆ่าทำลายไก่ไปแล้วราว 163,000 ตัวที่ฟาร์มในเมืองคิโจ ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวมีจำนวนไก่เนื้อมากที่สุดในบรรดา 47 จังหวัดของญี่ปุ่น
ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : การพบเชื้อไข้หวัดนกในญี่ปุ่นทำให้การเลี้ยงไก่ในช่วงฤดูหนาวนี้จะต้องชะลอตัวไปบ้าง และอาจกระตุ้นให้มีการนำเข้าไก่สดแช่แข็ง & แปรรูปจากไทยมากขึ้น ซึ่งตลาดญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกหลักของไทยอยู่แล้ว โดยเฉาะ GFPT ซึ่งมีการส่งออกไก่ไปญี่ปุ่นราว 50-60% ของการส่งออกทั้งหมดของบริษัท (บริษัทมีรายได้จากการส่งออกโดยตรง 19% และส่งออกโดยอ้อม 10%) เรายังคงคำแนะนำซื้อ GFPT โดยคาดว่าผลประกอบการ 4Q59F ยังคงแข็งแกร่งแม้ว่าจะลดลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล แต่สามารถเติบโตได้ 3%YoY เป็น 456 ล้านบาท และทั้งปี 59F มีกำไรสุทธิ 1.61 พันล้านบาท +35%YoY ส่วนปี 60F คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตได้ต่อราว 5% เป็น 1.68 พันล้านบาทเพราะต้นทุนอาหารสัตว์ไม่ได้สูงมาก ประเมินราคาพื้นฐาน GFPT ไว้ที่ 17.40 บาท อิงกับ P/E ปี 60 ที่ 13 เท่า
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
