- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 26 January 2017 22:54
- Hits: 7703
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
ยังมีโอกาสปรับขึ้น? ตามตลาดต่างประเทศ ที่ได้รับ Sentiment บวกจาก DJIA หลังสามารถทะลุแนวต้าน 20,000 จุด เป็นครั้งแรก นับจากก่อตั้งตลาดหุ้นนิวยอร์ก แม้ ปธน.ทรัมป์ จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ภายใต้การลงนามคำสั่ง ปธน. หลายฉบับ คาดช่วยหนุนความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน รวมถึงการก่อสร้างท่อน้ำมัน ขณะที่คาดหลังจากนี้มีการใช้นโยบายต่างๆ เพื่อหนุนให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น รวมถึงการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคของภาครัฐ คาดโดยรวมเป็น Sentiment ที่ดีต่อความต้องการทั้งพลังงานและสินค้าทุนอื่นๆ
อย่างไรก็ตามแนะติดตามนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่เริ่มมีความชัดเจนตามลำดับทั้งการออกจาก TPP และเตรียมเจรจาข้อตกลงใหม่กับ NAFTA คาดอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของประเทศต่างๆ ที่ไปยังสหรัฐฯ (ขณะที่ไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ สัดส่วนประมาณ 10%ของยอดส่งออกทั้งหมด หรือประมาณ 700,000 ล้านบาท)
รวมถึงการประชุมเฟด (31/1/60 – 1/2/60) หลังถ้อยแถลงของประธานเฟด ล่าสุด มีมุมมองที่ดีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เข้าใกล้เป้าหมายของเฟด ทั้งการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อ
ทางด้านประเด็นในประเทศ (-) Fund Flow หลังต่างชาติขายสุทธิเพิ่มอีก 1,554 ล้านบาท (+) ราคาน้ำมัน ที่คาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากแผนการปรับลดปริมาณผลิตลง เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคา คาดยังส่งผลดีต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน
พร้อมแนะติดตาม (1) ระยะสั้นต่อประเด็นการผิดนัดชำระหนี้ B/E โดยเฉพาะ บจ. ขนาดเล็ก ที่อาจกระทบความเชื่อมั่น และภาวะการเงินตึงตัว เป็นต้น และ (2) อยู่ในช่วงทยอยประกาศผลการดำเนินงานปี’59 คาดมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องถึงก.พ.’60 รวมถึงเงินปันผล
อย่างไรก็ตาม ยังมีมุมมองที่ดีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในปี’60 ภายใต้ (1) การลงทุนของภาครัฐ ที่ได้แรงขับจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (2) รายได้เกษตรกรที่คาดปรับตัวดีขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก และสถานการณ์ภัยแล้งที่ผ่อนคลายลง และ (3) การส่งออกปรับตัวดีขึ้นจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่เริ่มมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น โดย กกร. คาดส่งออกเติบโต 1.0 – 3.0% รวมถึงได้รับประโยชน์จากเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า และ
หันไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
19.16 2.02 2.94
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 66,820.55
สถาบัน 2,324.55
บัญชีหลักทรัพย์ -51.5
ต่างประเทศ -1,553.78
ในประเทศ -719.28
(4) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาท่องเที่ยวไทย ซึ่ง ททท. คาดว่าทั้งปี’60 อยู่ที่ 34 - 35 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 32.59 ล้านคน เมื่อปี’59 พร้อมคาดรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพิ่มขึ้น 10% จาก 1.64 ล้านล้านบาทเมื่อปี’59
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น SCC
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีเช่น ANAN, AP และ SPALI ในขณะที่ CPN จะได้รับประโยชน์ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK, STEC, SYNTEC
(5) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น
ส่วน BANPU ได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูง
(6) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วง 1Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น WORK
(7) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจสนามบิน เช่น AOT จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.05 อยู่ที่ 2.52% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.26 อยู่ที่ 10.81
หุ้นแนะนำ : UNIQ
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร .02-684-8788