- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 24 January 2017 18:48
- Hits: 1806
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
ผันผวน? ภายใต้ความไม่แน่นอน โดยเฉพาะนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่เริ่มมีความชัดเจนตามลำดับทั้งการออกจาก TPP และเตรียมเจรจาข้อตกลงใหม่กับ NAFTA คาดอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของประเทศต่างๆ ที่ไปยังสหรัฐฯ (ขณะที่ไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ สัดส่วนประมาณ 10%ของยอดส่งออกทั้งหมด หรือประมาณ 700,000 ล้านบาท)
ขณะที่แนะติดตามการประชุมเฟด (31/1/60 – 1/2/60) หลังถ้อยแถลงของประธานเฟด ล่าสุด มีมุมมองที่ดีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เข้าใกล้เป้าหมายของเฟด ทั้งการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อ
ทางด้านประเด็นในประเทศ แม้ล่าสุดต่างชาติขายสุทธิออกมา แต่มูลค่าไม่มาก ประมาณ 260 ล้านบาท และเช้านี้เงินบาท ภาพรวมยังแข็งค่า 35.24 – 35.26 บาท ซึ่งคาด Fund Flow ยังมีโอกาสไหลกลับ ขณะที่ราคาน้ำมันปรับลง อาจส่งผลดีต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามยังอยู่ในระดับที่ดี เมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ยเมื่อปี’59 ซึ่งอยู่เพียง 41 – 42USD
พร้อมแนะติดตาม (1) ระยะสั้นต่อประเด็นการผิดนัดชำระหนี้ B/E โดยเฉพาะ บจ. ขนาดเล็ก ที่อาจกระทบความเชื่อมั่น และภาวะการเงินตึงตัว เป็นต้น และ (2) อยู่ในช่วงทยอยประกาศผลการดำเนินงานปี’59 คาดมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องถึงก.พ.’60 รวมถึงเงินปันผล
อย่างไรก็ตามยังมีมุมมองที่ดีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในปี’60 ภายใต้ (1) การลงทุนของภาครัฐ ที่ได้แรงขับจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (2) รายได้เกษตรกรที่คาดปรับตัวดีขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก และสถานการณ์ภัยแล้งที่มีแนวโน้มผ่อนคลายลง และ (3) การส่งออกปรับตัวดีขึ้นจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่เริ่มมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น ล่าสุด กกร. ปรับเพิ่มเป้าหมายส่งออกจากเดิม 0 – 2.0% เป็น 1.0 – 3.0% รวมถึงได้รับประโยชน์จากเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า และ (4) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาท่องเที่ยวไทย ซึ่ง ททท. คาดว่าทั้งปี’ 60 อยู่ที่ 34 - 35 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 32.59 ล้านคน เมื่อปี’59 พร้อมคาดรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพิ่มขึ้น 10% จาก 1.64 ล้านล้านบาท เมื่อปี’59 เป็น 1.8 ล้านล้านบาท
SET SET50 SET100
1,570.79 +7.80 976.04 +3.32 2,210.52 +8.80
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดต่างประเทศ DJIA -27.40, NASDAQ -2.39, S&P -6.11, FTSE -47.26, CAC -29.26 และ DAX -84.38
ภายใต้ความกังวลต่อนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังแสดงจุดยืนในการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าและปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐฯ อย่างชัดเจน โดยล่าสุดทรัมป์ ได้ลงนามถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงการค้าเสรีหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค (TPP) อย่างเป็นทางการ ขณะที่สหรัฐฯ เตรียมทำการเจรจาครั้งใหม่ต่อข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟต้า) กับแคนาดาและเม็กซิโก เพื่อไม่ให้สหรัฐฯเสียเปรียบในการทำการค้า นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ซึ่งส่งต่อราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มี.ค. -US$0.47 อยู่ที่US$52.75ต่อบาร์เรล หลังรายงานล่าสุด ระบุ แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 29 แท่น อยู่ที่ 551 แท่น ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด แม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก ออกแถลงการณ์ร่วมกันภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมที่กรุงเวียนนาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งผู้ผลิตได้ตกลงให้มีการใช้มาตรการติดตามความคืบหน้าของแต่ละประเทศในเรื่องการปรับลดกำลังการผลิต และเป็นไปด้วยดี
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
18.99 2.01 2.96
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 44,710.25
สถาบัน 528.58
บัญชีหลักทรัพย์ 104.38
ต่างประเทศ -262.88
ในประเทศ -370.08
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น SCC
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI ในขณะที่ CPN จะได้รับประโยชน์ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK, STEC, SYNTEC
(5) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้นส่วน BANPU ได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูง
(6) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วง 1Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น WORK
(7) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจสนามบิน เช่น AOT จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.06 อยู่ที่ 2.40% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.23 อยู่ที่ 11.77
หุ้นแนะนำ : VNG
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร .02-684-8788