- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 23 January 2017 17:13
- Hits: 1622
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตัวไม่ค่อยดียืนแดนลบเล็กน้อย ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของวันที่ 1552.16 จุด ลดลง 2.72 จุด ก่อนที่จะค่อย ๆ แกว่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องยืนแดนบวกได้ตลอดทั้งวัน เนื่องจากได้แรงซื้อหลักจากหุ้นขนาดใหญ่-กลางนำโดย DTAC, PTTEP, KTB, KBAN, THAI, MTLS ขึ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ 1566.34 จุด เพิ่มขึ้น 11.46 จุด ทำให้ทั้งวันมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 14.18 จุด ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1562.99 จุด เพิ่มขึ้น 8.11 จุด (+0.52%) มูลค่าการซื้อขาย 56,409 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ภาพของดัชนีตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาพักจตัวตั้งแต่ต้นสัปดาห์อย่างต่อเนื่องลงมาทำ Low ที่ 1546 ในวันพฤหัส และดีดกลับค่อนข้างแรงในวันศุกร์กลับมายืน 1560 จุด พร้อมกับยก High-Low ด้วยกราฟแท่งเทียนที่เป็น Positive ขึ้นทำ High ที่ 1566 จุด ก่อนที่จะอ่อนตัวแต่ยังคงทำปิดยืน 1560 จุด ทำให้ดัชนีมีแนวโน้มขยับขึ้นต่อแต่คงต้องลุ้นบริเวณ 1570 จุด เนื่องจากเป็นแนวที่ถูกกดจากเส้นแนวโน้มย่อยที่เป็นขาลงว่าจะผ่านได้หรือไม่ มองแนวต้าน 1570-1575 จุด แนวรับ 1555-1560 จุด
กลยุทธ์ : แกว่งตัวผันผวน-โอกาสไปต่อลุ้น 1570
Support 1540 // 1530 จุด Resistance 1575-1580 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124 Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(+) KTBST news comment - ENERGY: ผู้ผลิตบรรลุข้อตกลงในการควบคุมปริมาณการผลิตตามที่ตกลง
(+) กลุ่มที่อยู่อาศัย: ยอดขายโครงการใหม่ LPN และ SPALI ได้รับการตอบรับที่ดี
(+) BAY: รายงานผลการดำเนินงาน 4Q16 เพิ่มขึ้น และสินเชื่อเติบโตโดยเฉพาะธุรกรรมที่ให้ดอกเบี้ยสูง
(0) CIMBT: ผลการดำเนินงาน 4Q16 ขาดทุนสุทธิท่ามกลางการรายงานกำไรสุทธิในอุตสาหกรรม
(+) KKP: ผลการดำเนินงาน 4Q16 เพิ่มขึ้น จากการเติบโตตลาดทุน พร้อมอนาคตสดใสจากปลดล็อครถคันแรก
(-) FSMART : TRUE รุกตลาดตู้เติมเงิน
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดมีเรื่องสำคัญ 2 เรื่อง โดยเรื่องแรกคือช่วงเช้าของวันเสาร์ (ตามเวลาในประเทศไทย) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐ โดยประกาศแผนสร้างประเทศให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง ผ่าน กฎ 2 ข้อ"ซื้อสินค้า-สร้างงาน" ชาวอเมริกัน พร้อมขยายเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานให้ครอบคลุม นโยบายสำคัญๆ ที่พูดเป็นลำดับแรก คือ ผ่อนคลายกฎหมายโอบาม่าแตร์ (ไม่ได้ยกเลิก) ลดแผนปฎิบัติการลดโลกร้อน และยกเลิกการเจรจา TPP (The Trans-Pacific Partnership) เป็นต้น การตอบรับของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และค่าเงินดอลล่าร์ ดูจะไม่เป็นบวกหรือลบมากนัก เนื่องจากนโยบายเหล่านี้เป็นที่ทราบกันอยู่แล้ว แต่ระยาวอาจเพิ่มความกังวลให้กับประเทศคู่ค้า แม้จะได้ผลบวกจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิสหรัฐฯเข้ามาก็ตาม
ข่าวสำคัญลำดับสอง จะเป็นข่าวการประชุมของผู้ผลิตน้ำมัน ที่เรียกว่า Ministerial Monitoring Committee (JMMC) หรือ คณะกรรมการตรวจสอบระดับการปฏิบัติตามข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมัน ประกอบด้วยตัวแทนจาก 5 ประเทศ ได้แก่ Algeria, Kuwait , Venezuela , Russia และ Oman มีข่าวว่า บรรดาผู้ผลิตน้ำมันสามารถลดกำลังการผลิตได้แล้ว 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจะลดได้ตามเป้าหมายที่ 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือนก.พ.นี้
เราประเมินว่า ทั้งสองปัจจัยหลักที่จะมีผลต่อตลาดหุ้นไทย ราคาน้ำมันมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นหลังปริมาณการผลิตน้ำมันที่ลดลงใกล้เคียงกับที่ตกลงกันจะเป็นบวกมาถึงหุ้นน้ำมัน-ปิโตรเคมี แต่ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ (จีน-ญี่ปุ่น) มีความกังวลต่อนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ฝั่งหนึ่งเป็นบวกแต่อีกฝั่งเป็นลบต่อตลาดหุ้น
นอกจากนี้ ตัวแปรอื่นๆ ที่น่าจะจับตาดูในสัปดาห์นี้ (23-27) ประกอบด้วย การประท้วงของคนอเมริกัน ที่มีมาตั้งแต่วันศุกร์จะลุกลามไปเพียงใด , ตัวเลข GDP q4 (a) ของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะขยายตัว 2.1% จาก 3.5% ใน q3 ที่ผ่านมา และทิศทางค่าเงินดอล่าร์ที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน (ตลาดหุ้นมักจะดี ถ้าดอลล่าร์แข็งค่า) และปิดท้ายสัปดาห์นี้ คือในวันศุกร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ-อังกฤษ จะมีการหารือกัน ซึ่งอาจมีความคืบหน้าเกี่ยวกับ BRExit และการค้าของสองประเทศนี้หลังอังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกของอียู
ปัจจัยในประเทศ การเข้าสู่ฤดูการรายงานผลประกอบการ-คาดการณ์กำไร q4 และการประกาศจ่ายเงินปันผลของบริษัทต่างๆ ขณะที่การทยอยออกมาตรการเศรษฐกิจ ช่วงนี้ อาจไปเน้นช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาคใต้ แต่ถึงกระนั้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่เกี่ยวกับการลงทุนของภาครัฐและเอกชน จะเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญของตลาดหุ้นอยู่ต่อไป ด้านปัจจัยเสี่ยงของตลาด จะเป็นความกังวลที่มีต่อการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตั๋วบีอี และสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใตของไทย
ผลการดำเนินงานหุ้นกลุ่มธนาคาร 11 แห่ง รายงานกำไร q4-59 ที่ 4.9 หมื่นล้านบาท สูงขึ้น 13.5% YoY แต่ลดลง 5.2% QoQ กำไรที่ออกมาส่วนใหญ่จากใกล้เคียงกับคาด มีเพียง CIMBT ที่คาดทุนในไตรมาสนี้ 1.4 พันล้านบาท
ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดจะมีแรงซื้อหุ้นกลับเข้ามาบางส่วน แต่ตลาดจะผันผวนจากความกังวลที่มีต่อนโยบายของสหรัฐฯ เพราะนักลงทุนยังมีการตีความที่ยังหลากหลาย (ทั้งบวกและลบ) เราคาดในวันนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่จะยังคงเล่นเก็งกำไรช่วงสั้น ซึ่งจะทำให้ดัชนีฯ จะเดินหน้าแบบ sideway
กลยุทธ์การลงทุน คงต้องรอดูปฎิกริยาของตลาดต่อนโยบายของทรัมป์กันต่อ และด้วยที่เรายังคงมองทิศทางตลาดว่ายังเป็นขาขึ้น (SET Index มีโอกาสขึ้นแตะ 1590 จุด ในเร็วๆนี้) กลยุทธ์โดยรวม เราจึงแนะนำเป็น Selective buy รอซื้อในจังหวะที่ดัชนีฯ(ราคาหุ้น)อ่อนตัว โดยเน้นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น สัปดาห์นี้เรากลับมาให้ความสนใจกับหุ้นน้ำมัน-ปิโตรเคมี อีกครั้ง หุ้นที่เป็น Domestic Play และหุ้นที่ถูกคาดว่าผลประกอบการจะออกมาดีหรือจ่ายปันผลสูง .......... ในการเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิเช่น PTTEP , TOP , IRPC , CPALL , UNIQ , BCH , SLP , SAWAD , KGI , LOXLEY
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (20 ม.ค.) - SET Index ปิด 1562.99 จุด เพิ่มขึ้น 8.11 จุด หรือ 0.52% มูลค่าการซื้อขาย 56,408 ล้านบาท ตลาดมีแรงซื้อกลับเข้ามาคาดจะมาจากการเก็งกำไรจากการขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ และการประชุมผู้ผลิตน้ำมันในช่วงวันหยุด
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19827.25 จุด เพิ่มขึ้น 94.85 จุด การตอบรับในทางบวกต่อนโยบายเศรษฐกิจ(สหรัฐฯ) ของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ด้านตลาดหุ้นยุโรป Stoxx Europe 600 ลดลง 0.07% นักลงทุนชะลอการลงทุนก่อนการแถลงรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯของนายทรัมป์
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 52.42 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.05 เหรียญ การผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นจากรายงานตัวเลขการใช้แท่นผลิต ที่เพิ่มขึ้น 29 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ถูกกลบด้วยผลบวกของคาดการณ์ประขุมผู้ผลิตน้ำมันที่จะออกมาดี
ธนาคาร - นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เสถียรภาพของระบบการเงินไทยขณะนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ดี เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ในระดับสูง และธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) ยังมีความสามารถในการทำกำไรได้
พลังงาน- สนพ.เผยคาดการณ์พีกปี 60 อยู่ที่ระดับ 31,365 เมกะวัตต์ ขณะที่ยอดใช้น้ำมันยังพุ่งกระฉูด เผยเตรียมชง กพช. 17 ก.พ.นี้ อนุมัติเปิดซื้อไฟแบบไฮบริด เข้าระบบ 1,000 เมกะวัตต์ พร้อมประกาศเดินหน้าพลังงานทดแทน
เศรษฐกิจ - แบงก์ชาติรอความชัดเจนนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก่อนประเมินผลกระทบเศรษฐกิจไทย ย้ำความผันผวนและความไม่แน่นอนยังสูง แนะธุรกิจเกี่ยวข้องต่างประเทศควรป้องกันความเสี่ยง ส่วนการผิดนัดชำระหนี้ตั๋ว B/E เกิดเฉพาะบริษัทขนาดเล็กที่มีปัญหาและกระทบบางกลุ่มผู้ลงทุน
ธนาคาร - ธนาคาร พาณิชย์ทั้งระบบ จะเริ่มเชื่อมโยงข้อมูลบัญชีเข้าสู่ระบบพร้อมเพย์ หลังจากก่อนหน้านี้ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ได้นำร่องเชื่อมต่อข้อมูลกันแล้ว เพื่อทดลองดูว่าการทำงานของระบบติดขัดอะไรหรือไม่ หากไม่พบปัญหา และระบบเชื่อมต่อไปได้ด้วยดี คาดว่าจะกดปุ่มเปิดให้บริการได้อย่างเป็นทางการวันที่ 27 ม.ค. นี้
เศรษฐกิจ - นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ จะหารือร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เพื่อเร่งสรุปมาตรการลดหย่อนภาษี 2 เท่า กระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน ก่อนเสนอให้ครม.พิจารณาเห็นชอบภายในเดือนม.ค.นี้ เบื้องต้นจะเสนอเงื่อนไขเพิ่มเติมว่า เอกชนต้องลงทุนใช้จ่ายจริงในปีนี้ มากกว่าการลงทุนในปีที่ผ่านมา ถึงจะนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าได้ ขณะเดียวกัน สศค.ยังได้คิดเงื่อนไขอื่นเพิ่มเติม เพื่อให้แน่ใจว่าภาคเอกชนจะเร่งลงทุนในปีนี้ให้มากที่สุดด้วย
News Release :
แบงก์ปี59ยกซดกำไร 11 แห่งกว่า 1.99 แสนล.
+หุ้นธนาคารพาณิชย์ 11 แห่ง แจ้งผลประกอบการปี 59 มีกำไรสุทธิรวมกัน 1.99 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.37% ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ เผยแนวโน้มปีนี้กำไรยังเติบโต จากการตั้งสำรองหนี้ฯ ลดลง และสินเชื่อจะขยายตัว ยังแนะ BBL รวมถึงแบงก์ในกลุ่มลีสซิ่ง เช่น TISCO (ข่าวหุ้น)
ANANกำไรปี 59 เกิน 1.5 พันล้าน ซื้อเป้า 6.20 บ.
+ "ANAN" ราคาหุ้นต่ำไม่สะท้อนพื้นฐาน โบรกฯชี้เป็นโอกาสงามเข้าเก็บหุ้น การันตี "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 6.20 บาท คาดงบปี 59 ฟันกำไรเกิน 1,500 ล้านบาท จับตาปี 60 เปิดโครงการใหม่มูลค่าทะลัก 36,000 ล้านบาท หนุนโตต่อเนื่อง(ข่าวหุ้น)
EA ควง GPSC ดาวเด่นวิ่งรับปี 59-60 กำไรโต
+ "EA" ควงคู่ "GPSC" เด่นสุดกลุ่มไฟฟ้า ขานรับกำไรปี 59-60 โตก้าวกระโดด โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" สั่งอัพราคาเป้าหมายใหม่ EA คว้าราคาเป้าหมาย 34 บาท ส่วน GPSC เคาะราคาเป้าหมาย 42 บาท(ข่าวหุ้น)
LPHลั่นปี60รายได้โต15%ลุ้นรับข่าวดีสปส.เดือนนี้
+ "รพ.ลาดพร้าว" เตรียมรับอานิสงส์สปส.เพิ่มการจ่ายเงินประกันสังคม รู้ผลเดือนนี้ หนุนรายได้พุ่ง พร้อมขอโควตาประกันสังคมเพิ่มอีก 50,000 ราย ลั่นเป้าปี 60 รายได้โต 10-15% จากปี 59 โบรกฯแนะ"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 11.80 บาท(ข่าวหุ้น)
SAMART กางแผนปีไก่ทอง ตั้งเป้ารายได้แตะ 2 หมื่นล้าน
+ SAMART เปิดแผนงานกลุ่มสามารถในปี 2560 ตั้งเป้าดันรายได้รวมแตะ 2 หมื่นล้านบาท จากธุรกิจ ICT 9 พันล้านบาท ธุรกิจ Mobile 4.5 พันล้านบาท ธุรกิจ Related Business 2.3 พันล้านบาท และธุรกิจ U-trans 4.2 พันล้านบาท พร้อมเตรียมยื่นไฟลิ่งบริษัทลูก I-sport ในครึ่งปีแรกหวังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ไตรมาส 3/2560 (ทันหุ้น)
BANPU เด้งรับถ่านหินพุ่ง โบรกชี้ลุ้นผลงานทำนิวไฮ อานิสงส์ออเดอร์ในตลาดโลกปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
+ BANPU รับอานิสงส์ราคาถ่านหินในตลาดโลกปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังจีนคุมปริมาณการผลิตในประเทศ โบรกชี้โดดรับผลบวกเต็มที่ คาดผลงานปี 2560 เติบโตก้าวกระโดด ส่วนกำไรแตะ 7.1 พันล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 4/2559 คาดกำไรทำนิวไฮ แนะ "ซื้อ" ส่องราคาเป้าหมาย 23.60 บาท(ทันหุ้น)
MFEC โชว์ฐานเงินสด 700 ล. รุกร่วมทุน-ลุยเน็ตหมู่บ้าน
+ MFEC เผยกระแสเงินสดสูง 700 ล้านบาท พร้อมรุกธุรกิจเต็มสูบ ผู้บริหาร "ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร" โชว์โมเดลธุรกิจใหม่ ลุยร่วมทุนและซื้อกิจการ เพื่อยกระดับงานวางระบบ พร้อมสยายปีกตลาดอาเซียนปูพรมนโยบาย One-Stop Services ดึงฐานลูกค้าใหม่ เด้งรับโครงการไอทีภาครัฐ 4G รอบใหม่ อินเทอร์เน็ตหมู่บ้าน-เปลี่ยนระบบคอมพิวเตอร์ ตุนงานวางระบบเพิ่ม ปักธงผลงานโต 15% ต่อปี(ทันหุ้น)
'PDG' ซุ่มแตกไลน์ธุรกิจเพิ่ม โชว์เงินสดในพอร์ตอื้อ 200 ล.
+ PDG ส่องเศรษฐกิจปี 2560 สดใส พร้อมรับอานิสงส์เต็มสูบ ฟากผู้บริหารระบุ อยู่ระหว่างศึกษาแผนแตกไลน์ธุรกิจใหม่ โชว์เงินสดในมือเพียบ 200 ล้านบาท ชี้เพียงพอต่อการลงทุนชัวร์ ตั้งเป้ารายได้ปีไก่ทองโต 10% เล็งผนึกพันธมิตรกัมพูชา ขยายธุรกิจต่างแดน(ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ : มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์