- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 23 January 2017 17:04
- Hits: 1609
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ขึ้นต่อ แต่ช่วงการขึ้นอาจจำกัด
KGI คาด SET วันจันทร์ไซด์เวย์/บวกแคบๆ ธีมระยะสั้นคือฟันด์โฟลว์ดูดีขึ้นแต่ถูกลบล้างโดยความไม่ชัดเจนของแนวนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ (ศุกร์ที่แล้วดัชนีฯ ฟื้นตัวแรงกว่าที่เราประเมิน) การแถลงรับตำแหน่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อวันศุกร์ ไม่ลงรายละเอียดต่อนโยบายใดๆ ส่งผลให้เงินดอลล่าร์ฯ อ่อนลงและหนุนค่าเงินในเอเชีย/ฟันด์โฟลว์ ขณะที่ราคาน้ำมัน WTi ฟื้นตัว 3.5% ตามการแถลงของโอเปกและรัสเซียว่าการลดปริมาณผลิตน้ำมันทำได้เร็วกว่าที่ประเมิน หนุนหุ้นพลังงานตัวหลัก อย่างไรก็ดีคาดว่าจิตวิทยาตลาดหุ้นจะยังเป็นกลาง เนื่องจากตลาดการเงินอาจยังชะลอบ้างเพื่อรอดูนโยบายของสหรัฐฯ ที่จะทยอยออกมา ด้านปัจจัยภายใน ผลประกอบการไตรมาส 4/2559 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์สูงกว่าที่ consensus ประเมินเล็กน้อย น่าจะส่งสัญญาณบวกต่อแนวโน้มปี 2560 และหนุนดัชนีฯ ในระดับหนึ่ง ส่วนในสัปดาห์นี้ คาดตลาดจะให้ความสนใจต่อกำไรไตรมาส 4/2559 ของกลุ่มที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร KTB*, MTLS*, SQ
KTB* (เป้าพื้นฐาน 21.4 บาท) 1) ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ปรับประมาณการกำไรและเป้าพื้นฐาน KTB* ขึ้น (จาก 18.4 บาท เป็น 21 บาท) สะท้อนผลการดำเนินงานปี 2559 ที่ดี และคุณภาพสินทรัพย์ 2) Valuation น่าสนใจด้วย PBV ปี 2560 = 0.9 เท่า ขณะที่ ROAE 11.6% 3) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งขึ้นในกรอบแนวรับ – แนวต้าน 18.5 – 19.6 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบแนวรับ – แนวต้าน (Stop loss 18.3 บาท) ... นักลงทุนอาจพิจารณา เก็งกำไรในหุ้น BBL* และ KKP* ที่ฝ่ายวิจัยฯประเมินว่าผลการดำเนินงานโดดเด่นเช่นกัน ดูบทวิเคราะห์
ปัจจัยพื้นฐานวันนี้เพิ่มเติม
MTLS* (เป้าพื้นฐาน 27 บาท) 1) เราประเมินการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ – การบริโภคในประเทศจะเป็นบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของ MTLS 2) ประเด็นภาครัฐฯ จัดระเบียบหนี้นอกระบบ คาดจะทำให้สินเชื่อในกลุ่ม Non-bank มีโอกาสเติบโต (สินเชื่อกลับเข้าสู่ระบบฯ) คาดเป็น Sentiment ต่อหุ้นในกลุ่มฯ 3) เราประเมินรูปแบบราคามีโอกาสแกว่งตัวขึ้น หากทะลุแนวต้านกรอบ Sideway ที่ 26.25 บาท คาดมีโอกาสจะทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 28.75 บาท แนวรับ 25.5 บาท (Stop loss 24.9 บาท)
SQ (เป้าเฉลี่ย Consensus 5.03 บาท / สูงสุด 5.7 บาท) 1) เราประเมินเป็นหุ้น PE ปี 2560 ต่ำเพียง 14.8 เท่า และจะลดลงเป็น 10.9 เท่าในปี 2561 (ข้อมูลจาก Consensus) เทียบกับ Backlog ในมือ ±3.5 หมื่นล้านบาท (งานเหมืองแม่เมาะเฟส 7 – 8 รวมมูลค่า 2.4 หมื่นล้านบาท และงานเหมืองหงสา เฟส D มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท) ถือว่า Valuation น่าสนใจในกลุ่มงานรับเหมาฯที่ PE เฉลี่ย +20 เท่า 2) Upside อยู่ที่งานต่อเนื่องในโครงการที่มีโอกาสชนะสูง เช่น งานโครงการเหมืองแม่เมาะเฟส 9 ที่คาดจะเริ่มเปิดประมูลกลางปีนี้ (เป็นโครงการต่อเนื่องทำให้ต้นทุนเรื่องเครื่องจักร ต่ำกว่าคู่แข่ง ส่งผลให้มีโอกาสได้งานสูง แต่ Consensus ยังไม่รวมประเด็นนี้ในประมาณการฯ) 3) ประเมินแนวรับ 4.84 บาท แนวต้านจิตวิทยา 5.0 บาท หากทะลุผ่านได้มีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 5.30 บาท (Stop loss 4.7 บาท)
หุ้นในกระแส
หุ้นรับตรุษจีน (TFG*, GFPT) ราคาไก่ (หน้าฟาร์มทั่วไป) วันศุกร์ขยับขึ้นเป็น 37 บาท/กก (จากเดิมยืนที่ 34 บาท/กก ตั้งแต่ปลายปี 2559) นักลงทุนอาจพิจารณา เก็งกำไร TFG* และ GFPT
หุ้นกลุ่มวัสดุฯ (TASCO*, GLOBAL*, DRT, DCC, SCC*) เราประเมินจะได้อานิสงส์ยอดขายที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นหลังภาคใต้พ้นภาวะน้ำท่วม (เพื่อซ่อมแซมถนน+ที่อยู่อาศัย) นักลงทุนอาจพิจารณา “เก็งกำไร” หุ้นในกลุ่มฯ หุ้นเด่น DRT
หุ้นมีข่าว
(+) SAMART* กางแผนปีไก่ทอง ตั้งเป้ารายได้แตะ 2 หมื่นล้าน (ทันหุ้น) SAMART เปิดแผนงานกลุ่มสามารถในปี 2560 ตั้งเป้าดันรายได้รวมแตะ 2 หมื่นล้านบาท จากธุรกิจ ICT 9 พันล้านบาท ธุรกิจ Mobile 4.5 พันล้านบาท ธุรกิจ Related Business 2.3 พันล้านบาท และธุรกิจ U-trans 4.2 พันล้านบาท พร้อมเตรียมยื่นไฟลิ่งบริษัทลูก I-sport ในครึ่งปีแรกหวังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ไตรมาส 3/2560
(+) กฟผ.เปิดประมูล 1.57 แสนล. 'ILINK-DEMCO' จ่อชิงเค้ก (ทันหุ้น) กฟผ. เตรียมเปิดประมูลระบบสายส่งไฟฟ้าอีสาน-ใต้ กว่า 1.57 แสนล้านบาท ประเดิมปีนี้ 55 สัญญา มูลค่า 6 หมื่นล้านบาท ฟากโบรกชี้ ILINK-DEMCO-NWR เด่นเข้าตา มีลุ้นคว้างานเข้าพอร์ต
(+) SYNEX ปักธงรายได้ปี 60 โต 10% ทุ่มงบ 500 ล้าน ร่วมทุนพาร์ตเนอร์ในประเทศ (ข่าวหุ้น) SYNEX กางแผนปี 60 รายได้พุ่ง 8-10% หลังมั่นใจปี 59 รายได้ตามเป้า 23,000 ล้านบาท วางงบ 300-500 ล้านบาท เพื่อร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์ในประเทศ พร้อมโชว์เป็นตัวแทนจำหน่าย D-Link รุกเพิ่มตลาดคอมเมอร์เชียล
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
DRT (เป้าพื้นฐาน 7 บาท) ประเมินแนวรับ 5.50 บาท แนวต้าน 5.90 บาท หากทะลุผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 6.20 บาท (Stop loss 5.2 บาท) ... ฝ่ายวิจัยฯประเมิน PE ปี 2560 = 13.3 เท่า Dividend yield 5.4%
COM7* (เป้า Consensus 14.5 บาท) ประเมินราคาหุ้น Sideway สร้างฐานบริเวณ ±13 บาท ประเมินหากยืนเหนือแนวต้าน 13.4 บาทได้ มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 14.2 บาท (Stop loss 12.6 บาท) ... ประเมินอุตสาหกรรมค้าปลีกไอทีเข้าสู้ขาขึ้นรับไทยแลนด์ 4.0 + ลดการเล่นสงครามราคาในกลุ่มผู้ประกอบการฯ
BTW (เป้า Consensus 4.25 บาท) แนะนำ “ถือ” ประเมินรูปแบบราคา Downside ต่ำ แนวรับ 3.38 บาท (Stop loss 3.2 บาท) ... จากข้อมูล Opportunity day วันที่ 14 พ.ย.59 บริษัทมีโอกาสส่งออกงานโครงสร้างเหล็กไปประเทศญี่ปุ่น (อยู่ระหว่างการขอมาตรฐาน JIS H-grade) +คาดผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุด โดยใน 4Q59 คาดจะรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานโครงการโซลาร์ฟาร์มมูลค่าราว 400 ล้านบาท (ราว 10MW) และประเมิน Backlog ณ สิ้นปี 2559 อยู่ที่ราว 1 พันล้านบาท
EGCO* (เป้าพื้นฐาน 230 บาท ประเมินแนวรับ 199 บาท แนวต้าน 206 บาท ถัดไปที่ 220 บาท (Stop loss 198 บาท) ... นักลงทุนที่เน้นปันผลอาจเลือก GLOW* ที่คาดยังมีปันผลสำหรับ 2H59 อีกราว 4.29 บาท/หุ้น (Dividend yield 5.4%) แต่ราคาหุ้นอาจ Upside จำกัดกว่า โดยฝ่ายวิจัยฯประเมินเป้าพื้นฐานไว้ที่ 85 บาท
KTC* (เป้าพื้นฐาน 160 บาท) ประเมินแนวรับ 137.5 บาท แนวต้าน 141.5 บาท และถัดไปที่ 148 บาท (Stop loss 133.5 บาท) ... PE ปี 2560 ต่ำเพียง 12.2 เท่า และปันผล 3.5%
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
AOT* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 4.54 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดว่า ธุรกิจของ AOT มีแนวโน้มจะฟื้นตัวขึ้นใน 1H60 ก่อนที่จะเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นใน 2H60 ทั้งนี้ เรามองว่าผลกระทบจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญน่าจะเกิดขึ้นแค่ในระยะสั้นเราคิดว่ากำไรสุทธิของบริษัทใน 1Q60 (ตุลาคม-ธันวาคม 2559) จะไม่โตเท่าช่วง high season ปกติ เนื่องจากถูกกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ น้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาดฯ” กำไรโดยรวมดีกว่าประมาณการประมาณ 4% ในงวด 4Q59 และดีกว่าประมาณการ 2% ในงวดทั้งปี 2559 จาก ค่าใช้จ่ายดำเนินงานและการกันสำรองต่ำกว่าที่คาด ในขณะที่ผลการดำเนินงานโดยรวมยังคงอ่อนแอจากกิจกรรมการปล่อยกู้ที่ชะลอตัว และค่าธรรมเนียมประกันชีวิตที่ลดลงอย่างมาก ทั้งนี้คุณภาพสินทรัพย์ยังไม่แสดงสัญญาณที่ดีขึ้นจากหนี้ NPL ในกลุ่ม SME ยังคงเพิ่มขึ้น แต่กระนั้นธนาคารส่วนใหญ่ยังสามารถเพิ่มสัดส่วนการตั้งสำรอง/หนี้ (NPL coverage) เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับหนี้เสียในอนาคต ทั้งนี้จากการที่กำไรออกมาดีเกินคาดทำให้เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2560/2561 ขึ้นอีกปีละประมาณ 3% ฝ่ายวิจัยฯประเมินว่าผลการดำเนินงานของ BBL, KTB, และ KKP จะโดดเด่น โดยเฉพาะในแง่ขนาดของสินทรัพย์ และเนื่องจากราคาหุ้นที่ไม่แพง (KTB ซื้อขายอยู่ที่ P/E 7.7x, BBL ที่ 9x, และ KKP ที่ 8x)
จึงชอบหุ้นสามตัวนี้
LPN* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 15 บาท ถึงแม้ฝ่ายวิจัยฯจะคาดว่ารายได้จากการโอนจะยังคงอ่อนแอในปี 2560 แต่การเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนมาก และกลยุทธ์การระบายสต็อกเก่าน่าจะช่วยหนุนให้ยอดโอนฟื้นตัวขึ้นได้ คาดว่ายอด presales ที่แข็งแกร่งจะช่วยเติม backlog ในปีต่อๆ ไป และกลายเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นได้ ฝ่ายวิจัยฯ ปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้น LPN จาก ถือ เป็น ซื้อ เพราะเชื่อว่าอุปสงค์ที่อั้นมาจากช่วงก่อนหน้าจะส่งผลดีต่อแผนการเปิดโครงการใหม่เชิงรุกของ LPN ใน 1H60
จิตวิทยาตลาดวันนี้ --- ค่าเฉลี่ยสี่และเก้าวันบรรจบต้านอยู่ที่ 1563 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1563 จุดได้นั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1563-1580 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1563 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1563-1550 จุด
แนวรับวันนี้: 1558/1552 แนวต้านวันนี้: 1563/1577
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
บทวิเคราะห์ : อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]