- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 20 January 2017 18:15
- Hits: 1853
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET ยังลงอีกแต่คาดกรอบลบเริ่มจำกัด ก่อนขึ้นใหม่ เน้นทยอยซื้อ
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวลงแรงต่อเนื่อง หลังจากนักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) แม้ว่านายกฯ อังกฤษจะระบุว่าต้องใช้เวลาอีกพอควร ขณะที่ความไม่แน่ใจเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายของว่าที่ ปธน.สหรัฐ หลังเข้ารับตำแหน่งปลายสัปดาห์ก็ยังกดดันนักลงทุนอยู่ อย่างไรก็ตามในช่วงชั่วโมงสุดท้าย SET เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนบ้าง หลังราคาน้ำมันดิบโลกมีจังหวะฟื้นตัวขึ้นบ้าง
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เช้านี้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศยังไม่สดใสนัก หลังเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่ยังปิดแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันนี้ อย่างไรก็ตามตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐที่พุ่งขึ้นมากเกินคาดในเดือน ธ.ค. ยังพอช่วยให้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ไม่ได้ปรับตัวลงรุนแรงนัก แต่ก็ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังแกว่งตัวผันผวนในกรอบบวก/ลบแคบ และเน้นอ่อนตัวอยู่ ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีลุ้นปรับตัวลงต่อเนื่องได้อีก แต่กรอบลบน่าจะเริ่มจำกัดมากขึ้น โดยเน้นไปทางแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้นมากกว่า จากแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการและรอลุ้นการจ่ายปันผลของ บจ.ต่างๆ ในช่วงถัดไปด้วย
กลยุทธ์ : เราจึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยซื้อช่วง SET ปรับลง แล้วเน้นถือ
แนวรับ 1552-1546 , 1542-1538 จุด
แนวต้าน 1558-1562 , 1565-1568 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BCP, BLA, SAMART(buy back)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$23ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$111ล้าน และอินโดนีเซีย US$14ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไต้หวัน US$90ล้าน ฟิลิปปินส์ US$7.6ล้าน และไทย US$4.4ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค นักลงทุนชะลอการลงทุนก่อนการเข้าทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐคนใหม่ ส่วนที่ประชุม ECB เมื่อคืนนี้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและคงวงเงินการซื้อพันธบัตรตามเดิม
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) ตลาดให้น้ำหนักทรัมป์มากกว่าประเด็นอื่น วานนี้ ECB คงนโยบายตามเดิม โดยคงดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% เงินฝาก -0.4% และมี QE จนถึงสิ้นปีนี้ ตลาดกลับมาให้ความสนใจกับสุนทรพจน์ของ Trump เมื่อรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการคืนนี้ และเพิ่มความกังวลกับการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed หลังประธานเฟดแสดงความเป็นห่วงเรื่องเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเร็ว
(+) ธนาคารส่วนใหญ่กำไรดีกว่าคาด ธนาคาร 7 ใน 9 แห่งที่เราศึกษามีกำไรสุทธิ 4Q16 รวม 4.38 หมื่นล้านบาท +0.3% Q-Q, +18.5% Y-Y ดีกว่าคาด ส่วนใหญ่มาจากการตั้งสำรองลดลง ค่าใช้จ่ายลดลง และรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น ผลประกอบการใน 4Q16 ได้สะท้อนถึงคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้ตลาดสบายใจขึ้น และเราเริ่มเห็นการปรับประมาณการกำไรกลุ่มแบงก์ขึ้น ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นหุ้น Big cap ยังถูกกดดัน ขณะที่สินเชื่อจะยังไม่เห็นการเติบโตในอัตราเร่งในช่วงต้นปี การซื้อลงทุนยังไม่ต้องรีบร้อน ส่วนแบงก์ที่ผลประกอบการเด่น ยังซื้อได้ได้แก่ TISCO (ราคาพื้นฐาน 72 บาท), KBANK (ราคาพื้นฐาน 208 บาท), TMB (ราคาพื้นฐาน 2.70 บาท)
(+) GFPT เราปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 18.30 บาทจากเดิม 17.70 บาทจากการปรับเพิ่มกำไรปี 2016-17 ขึ้น 20% และ 12% แม้กำไร 4Q16 ชะลอเพราะ Low season (คาด -7% Q-Q, +2% Y-Y) แต่ดีกว่าเดิมที่เคยคาดไว้ สำหรับกำไรปี 2017 จะโตเล็กน้อย 2% Y-Y เพราะฐานปี 2016 ที่โตสูงถึง 35% Y-Y แต่ราคาไก่ยังดูสดใสเพราะไข้หวัดนกที่เกิดในหลายประเทศ ยังคงแนะนำซื้อ และชอบที่สุดในกลุ่มไก่
(0) TU แนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q16 จะชะลอเพราะ Low season และมีค่าใช้จ่ายการซื้อกิจการ และมีขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน เราคาดกำไรสุทธิ -46% Q-Q, +14% Y-Y กำไรทั้งปี 2016 น่าจะต่ำกว่าประมาณเดิมที่เราคาดประมาณ 10% แต่ปี 2017 จะ Turnaround จากการฟื้นตัวของธุรกิจทูน่าและแซลมอน และรับรู้กำไรจากธุรกิจที่ซื้อมาในปีก่อน หากราคาหุ้นปรับลงเพราะผิดหวัง 4Q16 เป็นโอกาสซื้อ คงราคาพื้นฐาน 26 บาท
(0) SCC กำไร 4Q16 น่าจะต่ำสุดของทั้งปีเพราะโรงงาน Ethylene หยุดซ่อมบำรุง และ Margin ของธุรกิจเคมีชะลอ ตลาดปูนซิเมนต์ในประเทศซบเซา เราคาดกำไรสุทธิ -34% Q-Q, -19% Y-Y แต่ทั้งปี 2016 น่าจะเป็น new high 5.3 หมื่นล้านบาท +17% Y-Y และคาดปี 2017 -5% Y-Y ชะลอจากฐานที่สูงมากในปีก่อน แนะนำซื้อ เพราะ PE ต่ำเพียง 11.8 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปี และคาด Dividend yield 2% ของงวด 2H16 ราคาพื้นฐาน 600 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20 ม.ค. - จีน:4Q16 GDP, Industrial Production, Retail sales (ธ.ค.)
- สหรัฐ: Trump เข้ารับตำแหน่งปธน.คนที่ 45 อย่างเป็นทางการ
21-22 ม.ค. - OPEC ประชุมติดตามผลเรื่องการลดการผลิต
23 ม.ค. - ไทย:ยอดขายรถ (ธ.ค.)
24 ม.ค. - ยูโรโซน:Markit Eurozone Manufacturing PMI (ม.ค.)
25 ม.ค. - เกาหลีใต้:4Q16 GDP
- ไต้หวัน: 4Q16 GDP
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ธ.ค.)
26 ม.ค. - ฟิลิปปินส์:4Q16 GDP
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (ธ.ค.)
27 ม.ค. - ไทย: ดุลการค้า (ธ.ค.)
- สหรัฐ: 4Q16 GDP, คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ธ.ค.)
30 ม.ค. - ไทย:ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (ธ.ค.)
- สหรัฐ: Pending home sales (ธ.ค.)
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ปิดลบกว่า 70 จุด หลังนักลงทุนชะลอการซื้อขาย ก่อนว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐจะทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันนี้ อย่างไรก็ตามดัชนีดาวโจนส์ฟื้นตัวขึ้นมาจากระดับเป็นลบกว่า 100 จุดได้ จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ยังแข็งแกร่ง
(-) ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ก็ปิดลบด้วยเช่นกัน หลังจาก ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ย และคงวงเงิน QE
(0) อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดมายังแกว่งตัวผันผวน โดยมีทั้งบวกและลบในกรอบจำกัด
(0) ค่าเงินบาทเริ่มทรงตัวได้บ้าง หลังอ่อนค่ามาวันก่อน โดยล่าสุดยังแกว่งตัวในกรอบ 35.33-35.45 บาท/ดอลลาร์
(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. กลับมาบวกเพิ่มขึ้น 0.29 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 51.37 ดอลลาร์/บาร์เรล จากแรงซื้อกลับหลังจากที่ผ่านมาราคาปรับตัวลงมาพอควร พร้อมยังได้แรงหนุนจากรายงานของ IEA ที่ระบุว่าตลาดน้ำมันโลกอยู่ในภาวะตึงตัว
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ยังลงต่ออีก 10.6 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,201.5 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐพุ่งขึ้นมากเกินคาดในเดือน ธ.ค. กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำ
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch