- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 20 January 2017 18:10
- Hits: 1314
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ยังคงซึมตัวลงต่ออีกวัน เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่กังวลกับการปรับพอร์ตในตลาดหุ้นไทยของต่างชาติวันก่อนหน้า อีกทั้งรอถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Trump ในค่ำคืนนี้ ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,554.88 จุด ลบอีก 5.95 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 53,206 ล้านบาท
ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เพียง 154 ล้านบาท แต่ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 มากถึง 15,775 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 4,701 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
งบ KTB ออกมาดีกว่าคาด 30% // BBL และ SCB ใกล้เคียงคาด
ติดตาม GDP ใน 4Q59 ของจีนวันนี้ Bloomberg คาด 6.7% yoy
ติดตามถ้อยแถลงหลังเข้ารับพิธีสาบานตนของประธานาธิบดี Trump
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
ติดตามการประกาศงบ 4Q59 ของ SCC/ PTTEP
การปิดทำการของตลาดหุ้นไต้หวัน / เกาหลีใต้/ สิงคโปร์/ มาเลเซีย/ ฟิลิปปินส์/ เซี่ยงไฮ้/ ฮ่องกง วันที่ 27-30 ม.ค.
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลางถึงบวก (วันที่ 13)
หลัง SET INDEX ปรับฐานลงตลอด 4 วันทำการสู่แนวรับ 1,550-1,555 จุด กลายเป็นโอกาสของการสะสมหุ้นหลัก/หุ้นเป้าหมายสำหรับรอบการฟื้นตัวใหม่ แม้ว่าต่างชาติจะลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยและ SET50 Index Futures ก็เพียงรอดูถ้อยแถลงของนาย Trump หลังพิธีสาบานตน เราเชื่อว่านโยบาย / แผนงานด้านเศรษฐกิจจะเหมือนที่เคยหาเสียง แต่กรอบเวลาอาจไม่ชัดเจน ซึ่งอาจสร้างความผิดหวังต่อนักลงทุน และเกิดแรงขายทำกำไรในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า และจะไหลสู่ตลาดหุ้นในเอเชียเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทยที่งบการเงิน 4Q59 ออกมาดีกว่าคาดเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่ อีกทั้งปัจจัยแวดล้อมในสัปดาห์หน้าขาดสีสรรเช่นกัน เป็นเพียงการติดตามผลการดำเนินงานที่ทยอยประกาศอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นเดือนก.พ.
เราประเมิน SET INDEX แกว่งแคบระหว่าง 1,550-1,570 จุด และยังให้น้ำหนักกับการเกิด Technical Rebound นำโดยหุ้น Big Cap ในกลุ่มธนาคาร / พลังงาน รวมถึงหุ้นที่ให้ปันผลสูงในงวดปี 2559 หรือ 2H59
Daily Pick
1. เก็งกำไร KTB : ราคาปิด 18.40 บาท ราคาเหมาะสม 21.00 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก หลังรายงานกำไรสุทธิ 4Q59 ที่ 7,440 ล้านบาท เติบโต +10% yoy และดีกว่าคาดการณ์ของ Consensus ถึง 30% ขณะที่ Coverage Ratio เพิ่มขึ้นจาก 106% เป็น 121%
b) คาดการณ์เงินปันผลปี 2559 หุ้นละ 0.90 บาท (จ่ายปีละ 1 ครั้ง) คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีที่ 4.9%
c) ทิศทางผลประกอบการปี 2560 คาดว่าจะขยายตัวจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ และประเด็นลงทุนใน KTB นอกจากเงินปันผลที่สูงแล้ว Valuation ยังค่อนข้างถูก ซื้อขายที่ PER2560 เพียง 7.6 เท่า และ PBV2560 ที่ 0.9 เท่า
2. เก็งกำไร IVL : ราคาปิด 34.75 บาท ราคาเหมาะสม 41.00 บาท
a) ราคาหุ้นที่ปรับตัวลง -5% ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา จากภาวะตลาดที่ผันผวน เชื่อว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเก็งกำไรเพื่อคาดหวังการดีดกลับ
b) ปัจจัยบวกระยะสั้น คือ ผลประกอบการ 4Q59 คาดว่าจะเติบโตสูง ถึง +460% yoy เป็น 2,250 ล้านบาท เทียบกับ 4Q58 ที่ฐานกำไรสุทธิต่ำเพียง 407 ล้านบาท
c) คาดกำไรปกติปี 2560 จะเติบโตถึง +32% yoy เป็น 9,897 ล้านบาท จากปริมาณขายที่จะเพิ่มขึ้น +6.4% yoy เป็น 8.9 ล้านตัน จากผลประโยชน์ของการเข้าซื้อกิจการในปี 2559 ที่ผ่านมา นอกจากนั้น ยังมี Upside Risk จากการปรับลดภาษีนิติบุคคลของสหรัฐฯลงจาก 35% เหลือ 15% ซึ่งจะส่งผลให้ภาษีจ่ายของ IVL ลดลงจากประมาณการราว 900 ล้านบาทต่อปี
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
กลับมาซื้อสุทธิ US$23 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิเล็กน้อย US$9 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติขายสุทธิทั้ง 3 ตลาดในไทย
นักลงทุนต่างชาติ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 ลดลงเหลือ 154 ล้านบาท กดดันให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิลดลงเหลือ 4,397 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 3 มากถึง 15,775 สัญญา รวม 3 วันทำการ Short สุทธิมากถึง 17,965 สัญญา คาดว่าเป็นการเร่งปิดสถานะ Long และกลับมาถือสถานะ Short อีกครั้ง โดย QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิ 3,815 สัญญา และกดดันให้ S50H17 ยังคงปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 4 มากขึ้นอีกเล็กน้อยเท่ากับ 1.99 จุด แคบลงจากวันก่อนหน้า Discount 1.49 จุด
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 4,701 ล้านบาท เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 33,701 ล้านบาท โดยที่ราคาพันธบัตรไทยกลับมาปรับฐานลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 1.44bps จากวันก่อนหน้าลดลง 1.22bps ปิดที่ 2.699%
Short-Selling วานนี้
เท่ากับ 772 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 456 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 52 หลักทรัพย์ จากวันก่อนหน้า 48 หลักทรัพย์
NVDR Movement
NVDR กลับมาซื้อสุทธิ โดยเน้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร และลดน้ำหนักกลุ่มค้าปลีก
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาซื้อสุทธิ 1,845 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 905 ล้านบาท โดย NVDR เน้นสะสมหุ้นกลุ่มพลังงานสูงสุด 735 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มธนาคาร 679 ล้านบาท กลุ่มอสังหาฯ 293 ล้านบา แต่ลดน้ำหนักกลุ่มค้าปลีกเด่น 285 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นบวก
- ยอดก่อสร้างบ้านใหม่เดือนธ.ค. เท่ากับ 1.226 ล้านหลัง ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 1.200 ล้านหลัง และเดือนก่อนหน้า 1.102 ล้านหลัง หรือเพิ่มขึ้น 11.3% mom โดยเป็นการก่อสร้าง Multi-units ดีดตัว 57% mom ขณะที่บ้านเดี่ยวหดตัว 4.0% mom
- ยอดขอสวัสดิการว่างงาน เท่ากับ 2.34 แสนตำแหน่ง ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 2.55 แสนตำแหน่ง และสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.49 แสนตำแหน่ง
ยุโรป
รมว.คลังอังกฤษ ยืนยันจะคงความสามารถในการแข่งขันแม้ว่าจะออกจากอียู: รมว.คลัง อังกฤษ นาย Hammond ส่งสัญญาณเตือนถึงอียู หากอังกฤษไม่สามารถคงความสัมพันธภาพทางด้านการค้ากับทางอียูหลัง Brexit ได้ ทางอังกฤษก็พร้อมที่จะหาทางอื่นๆ เพื่อคงความสามารถทางการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบภาษีที่สามารถแข่งขันกับอียู แต่ทางที่ดีที่สุดคือ การคงความสัมพันธภาพทางด้านการค้ากับอียู เหมือนเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดที่สุดของอังกฤษ
ดัชนีราคาบ้านในอังกฤษลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน: ดัชนีราคาบ้านเดือนธ.ค.ลดลงเป็น 24 จุด จาก 29 จุดในเดือนพ.ย. การสำรวจถึงยอดขายบ้านใน 3 เดือนข้างหน้ามีเพียง 4% เท่านั้นที่เชื่อว่าจะเพิ่มขึ้น แต่ภาพรวมในปี 2560 ตลาดบ้านในอังกฤษจะยังเติบโต
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
ธนาคารกลางมาเลเซียคงอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากค่าเงินที่อ่อนค่า: ธนาคารกลางมาเลเซียคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 3.0% สอดคล้องกับ Bloomberg consensus เป็นการคงอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 หลังค่าเงินริงกิตอ่อนค่าถึง 6% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ หลังนาย Trump ชนะการเลือกตั้ง อีกทั้งความไม่แน่นอนเศรษฐกิจโลก และนโยบายต่างๆ สร้างความผันผวนให้แก่ตลาดเงินและตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ธนาคารกลางจึงต้องติดตามปัจจัยต่างๆ เหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจมาเลเซียจะเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ
ไทย
ไม่มี
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul Assistant Analyst