- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 19 January 2017 18:22
- Hits: 1154
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
อยู่ในทิศทางเดียวกับวานนี้? แม้ได้รับปัจจัยบวกจากถ้อยแถลงของประธานเฟด ล่าสุด ที่มีมุมมองที่ดีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เข้าใกล้เป้าหมายของเฟด ทั้งการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งล่าสุดอัตราเงินเฟ้อ 2.1% สูงกว่าเป้าหมาย 2.0% ของเฟด ทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามการส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ โดยเฟดประชุมในวันที่ 31 ม.ค. – 1 ก.พ.’60
แต่คาดภาพรวมยังมีความผันผวน แนะติดตามประเด็นต่างประเทศที่คาดมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นหลังจากนี้ไป (1) ความคาดหวังต่อการประกาศนโยบายอย่างเป็นทางการของนายโดนัลด์ ทรัมป์ หลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20/1/60 คาดเป็นไปตามที่ทรัมป์หาเสียงไว้ ซึ่งเน้นนโยบายการคลัง ทั้งการผ่อนคลายกฎระเบียบภาคอุตสาหกรรม การปฏิรูปภาษี รวมถึงการใช้งบประมาณ 1.0 ล้านล้านUSD ในการสร้างสะพาน ถนน และโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ และ (2) ผลกระทบจากประเด็น Brexit ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในช่วงมี.ค. นี้เป็นต้นไป คาดใช้เวลา 2 ปี
ทางด้านประเด็นในประเทศ Sentiment กลับเป็นลบ จาก Fund Flow หลังล่าสุด ต่างชาติขายสุทธิ เกือบ 3,200 ล้านบาท ขณะที่เงินบาทยังแข็งค่า คาด Fund Flow มีโอกาสไหลกลับ พร้อมแนะติดตาม (1) ระยะสั้นต่อประเด็นการผิดนัดชำระหนี้ B/E โดยเฉพาะ บจ. ขนาดเล็ก ที่อาจกระทบความเชื่อมั่น และภาวะการเงินตึงตัว เป็นต้น และ (2) อยู่ในช่วงทยอยประกาศผลการดำเนินงานปี’59 คาดมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องถึงก.พ.’60 รวมถึงเงินปันผล
อย่างไรก็ตามยังมีมุมมองที่ดีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในปี’60 ภายใต้ (1) การลงทุนของภาครัฐ ที่ได้แรงขับจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (2) รายได้เกษตรกรที่คาดปรับตัวดีขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก และสถานการณ์ภัยแล้งที่มีแนวโน้มผ่อนคลายลง และ (3) การส่งออกปรับตัวดีขึ้นจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่เริ่มมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น ล่าสุด กกร. ปรับเพิ่มเป้าหมายส่งออกจากเดิม 0 – 2.0% เป็น 1.0 – 3.0% รวมถึงได้รับประโยชน์จากเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า และ (4) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาท่องเที่ยวไทย ซึ่ง ททท. คาดว่าทั้งปี’ 60 อยู่ที่ 34 - 35 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 32.59 ล้านคน เมื่อปี’59 พร้อมคาดรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพิ่มขึ้น 10% จาก 1.64 ล้านล้านบาท เมื่อปี’59 เป็น 1.8 ล้านล้านบาท
SET SET50 SET100
1,560.83 -6.01 972.59 -4.23 2,199.26 -9.17
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-/+) ตลาดต่างประเทศ DJIA -22.05, NASDAQ +16.93, S&P +4.00, FTSE +27.23, CAC -6.29 และ DAX +59.39
หลังประธานเฟด กล่าวสุนทรพจน์ (บ่ายวันพุธตามเวลาสหรัฐฯ) ระบุเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าใกล้เป้าหมายของเฟด ทั้งการจ้างงาน และเงินเฟ้อ พร้อมเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจปรับตัวดีต่อเนื่องต่อไป พร้อมระบุการขึ้นดอกเบี้ยเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด (1) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) – ธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.3% จากที่เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อพ.ย. และเพิ่มขึ้น 2.1%YoY ซึ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% (2) การผลิตภาคอุตสาหกรรม – ธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.8% ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ และ (3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน – ม.ค. ลดลง 2 จุด อยูที่ 67.0 หลังเพิ่มขึ้นมากเมื่อธ.ค.
นอกจากนี้มีรายงานผลประกอบการ เช่น โกลด์แมน แซคส์ และซิตี้กรุ๊ป มีกำไรสูงกว่าที่มีการคาดการณ์ ทางด้านยุโรป อยู่ระหว่างรอการประชุมของ ธนาคารกลางยุโรป – ECB ในวันนี้ (19/1/60) คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การประชุมเมื่อ ธ.ค. ประกาศขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ออกไปอีก 9 เดือน จากเดิม มี.ค.’60 เป็น ธ.ค.’60
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. -US$1.40 อยู่ที่US$51.08ต่อบาร์เรล ภายใต้รายงานล่าสุดของ EIA ระบุว่า การผลิต shale oil ของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นในเดือนหน้า หลังจากลดลงเป็นเวลา 3 เดือน จากราคาน้ำมันที่เพิ่มแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 18 เดือน พร้อมคาดว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น 40,750 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 4.748 ล้านบาร์เรล/วัน
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
18.84 1.99 2.98
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 48,884.31
สถาบัน 1,106.14
บัญชีหลักทรัพย์ -56.78
ต่างประเทศ -3,175.25
ในประเทศ 2,125.89
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น SCC
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI ในขณะที่ CPN จะได้รับประโยชน์ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK, STEC, SYNTEC
(5) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น
ส่วน BANPU ได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูง
(6) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วง 1Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น WORK
(7) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจสนามบิน เช่น AOT จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.06 อยู่ที่ 2.39% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.61 อยู่ที่ 12.48
หุ้นแนะนำ : MALEE
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร .02-684-8788