- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 19 January 2017 18:20
- Hits: 1174
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (19/01/60)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “ต่างชาติขายแรง”
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลดลง หลังจากได้รับแรงกดดันจากแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศที่มียอดขายสุทธิกว่า 3,000 ล้านบาท โดยปัจจัยที่กดดันตลาดช่วงนี้ยังคงเป็นการรอดูนโยบายของสหรัฐหลังจะมีการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีคนใหม่ โดยกลุ่มที่มีแรงขายออกมามากได้แก่กลุ่มพลังงาน (-0.7%) ตามมาด้วยกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (-0.5%) ปิดตลาดดัชนีลดลง 6.01 จุด (-0.4%) มาที่ 1,566.83 จุด ด้วย Vol. 48,884 ล.บ.
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI วานนี้ลดลง 2.7%Day มาอยู่ที่ 51.08 US/Barrel ผลจากการที่ EIA สหรัฐฯ คาดว่าการผลิต Shale Oil จะเพิ่มขึ้นในเดือนหน้า รวมทั้งบริษัทต่างๆในสหรัฐจะเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน หลังราคาน้ำมันดิบสูงสุดรอบ 18 เดือน แม้ OPEC/Non OPEC อยู่ในข้อตกลงลดกำลังการผลิต
(-) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านของสหรัฐ เดือน ม.ค. ลดลง 2 จุด จากฐานที่สูงในเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 67 จุด
(-) ส.อ.ท. รายงานยอดผลิตรถยนต์เดือน ธ.ค. ต่ำสุดรอบ 19 เดือน มาอยู่ที่ 1.36 แสนคัน (-11%YoY) แต่ทั้งปี 59 ยอดผลิตสูง 1.9 ล้านคัน (+1.64%YoY) และปี 60 ตั้งเป้ายอดผลิต 2 ล้านคัน
(+) ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมไทย เดือน ธ.ค. อยู่ที่ 88.5 จุด (สูงสุดในรอบ 22 เดือน) ผลบวกจากมาตรการช๊อปช่วยช่าติ
(+) ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ เดือน ธ.ค. +0.8%YoY เทียบกับเดือน พ.ย. ที่ -0.7%YoY
(+) อัตราเงินเฟ้อเดือน ธ.ค. ของสหรัฐ สูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่งที่ระดับ +2.1%YoY (ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของ FED ที่ตั้งไว้ที่ 2%YoY)
(+) FED เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) สรุปว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวในระดับปานกลางทั่วทุกภูมิภาคตั้งแต่ พ.ย.-ธ.ค.59, การจ้างงานและเงินเฟ้อเริ่มเข้าใกล้เป้าหมายของ FED
(+) วานนี้ดัชนี BDI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.25%Day มาอยู่ที่ 952 จุด คาดสร้าง Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มเดินเรือ TTA, PSL, RCL
(+) กระทรวง DE มีแนวคิดตั้ง Digital Park Thailand ในพื้นที่ 500 ไร่ของ CAT ที่ อ.ศรีราชา เตรียมเสนอ ครม. อนุมัติมาตรการภาษี ในเดือน มี.ค. 60
(+/-) ยกเลิกโควตาภาษีนำเข้าเหล็กญี่ปุ่น ตั้งแต่ 1 ม.ค. 60 ทำให้เหล็กนำเข้าจากญี่ปุ่นภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น จะได้รับยกเว้นภาษีไม่จำกัดปริมาณการนำเข้าอีกต่อไป
(+/-) จากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งมากขึ้น รวมทั้งถ้อยแถลงประธาน FED ที่ออกมาล่าสุด ทำให้ตลาดคาดว่าในปีนี้ FED จะทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐขึ้นอีก หากแต่จะเป็นการปรับแบบค่อยเป็นค่อยไป
(+/-) ค่าเงิน USD เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น (Dollar Index +0.49%Day) กดดันให้ราคาสินค้า Commodity อย่างทองคำ COMEX ลดลง 0.07%Day มาอยู่ที่ 1212.10 US/ออนซ์, ถ่านหินลดลง 0.83%Day มาอยู่ที่ 83.85 US/Tons ปัจจัยที่ต้องติดตาม หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
ประชุม ECB 19 ม.ค. 60
Trump จะเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ปธน.สหรัฐ ในวันที่ 20 ม.ค.
เริ่มเข้าสู่ช่วงการประกาศผลประกอบการ 4Q59 เริ่มด้วยกลุ่ม BANK
ตัวเลขสำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ GDP4Q59 จีน (20 ม.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน'เลือกรายตัว'
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มแกว่งตัวปรับตัวลดลง กดดันจากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนแรงลง ประกอบกับจะถูกโมเมนตัมลบของเม็ดเงินต่างชาติที่มียอด Net Sell ถึง 3.1 พันล้านบาทวานนี้ เรายังคงแนะนำเน้นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มสายการบินและท่องเที่ยว โดยมองว่าเป็นกลุ่มที่ laggard และได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง และเราแนะนำเก็งกำไรสั้นกลุ่มที่มีปัจจัยเฉพาะ เช่น การขยายงาน กำไรจากสต๊อคสินค้าที่จะบันทึกในช่วงไตรมาส 1
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
AAV เก็งกำไร
เข้าสู่ช่วง High Season ในไตรมาส 1 จากช่วงเทศกาลตรุษจีน
Hedge ราคาน้ำมันไปราว 70% ลดความเสี่ยงจากตลาดน้ำมันขาขึ้น CGS
ประเมินกำไรปี 59-60 ขยายตัว 100% และ 14%
GUNKUL เก็งกำไร
ตั้งเป้าปี 64 มีกำลังผลิตไฟฟ้า 1,000 MW ตั้งงบลงทุน 3 หมื่นล้านบาท
บริษัทตั้งเป้าเติบโตรายได้ 20-30% ในปี 60
อยู่ระหว่างศึกษางานสายส่งไฟฟ้าในประเทศพม่า
ทีมวิเคราะห์
