WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CSGบล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

แนวโน้มตลาดวันนี้ (18/01/60)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'ลงต่อ'
  ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ยังคงอยู่ในแดนลบอย่างต่อเนื่องอีกวัน โดยนักลงทุนยังคงรอติดตามผลประกอบการของกลุ่มธนาคารที่ทยอยประกาศออกมาในช่วง1-2 สัปดาห์นี้ ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศระยะสั้นมีการรอฟังคำแถลงของนายกรัฐมนตรีอังกฤษเกี่ยวกับเรื่อง Brexit รวมถึงรอดูการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค. นี้ด้วย โดยกลุ่มที่กดดันตลาดคือกลุ่มค้าปลีก (-0.6%) ปิดตลาดดัชนีปรับตัวลดลง 4.96 จุด (-0.3%) มาที่ 1,566.84 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ 50,193 ล้านบาท

 

ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้

  (+) ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ของสหรัฐฯ เดือน ม.ค. อยู่ที่ 6.5 จุด โดยขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน
  (+) ZEW Economic Sentiment Index ของเยอรมัน ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 15.1 จุด โดยตัวเลขของเดือน ม.ค. 60 อยู่ที่ 16.6 จุด
  (+) ประชุมครม.ประจำสัปดาห์นี้มีการพิจารณามาตรการช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ ทั้งค่าลดหย่อนภาษีสำหรับซ่อมบ้าน 1 แสนบาท และรถยนต์ 3 หมื่นบาท และเห็นชอบในหลักการ พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงปม.60 วงเงิน 1.9 แสนลบ.
  (+) มาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) คาดว่าจะมีการออก BOI “ยกเว้น” และ “ลดหย่อน” ภาษีเงินได้นิติบุคคลออกมา อีกทั้งล่าสุดมีการใช้ ม.44 เพื่อตั้งคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และตั้งสำนักงานเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) คาดเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มนิคมฯ
  (+) ราคาน้ำมันดิบ WTI วานนี้บวก 0.2%Day มาอยู่ที่ 52.48 US/Barrel โดยมีปัจจัยบวกจากการที่ค่าเงิน US อ่อนค่าลง (Dollar Index -1.25%Day)
  (+) ราคาถ่านหิน Newcastle วานนี้ปิดบวกขึ้น 2%Day มาอยู่ที่ 84.55 US/Tons คาดสร้างแรงบวกต่อการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มถ่านหิน BANPU
  (+) JMART ผู้บริหารฯ ตั้งเป้าปี 60 โต 30%YoY หลังปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่เป็น JMART Mobile, J Fintech, J Ventures
  (+) กทพ. เตรียมเสนอโครงการก่อสร้างทางพิเศษ(ทางด่วน) 2 เส้นทางภายใต้แผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วน วงเงินรวม 4.65 หมื่นล้านบาท ให้ครม. พิจารณาในเดือนก.พ.นี้
  (+) KBANK ประกาศงบ 4Q59 อยู่ที่ 1.02 หมื่นลบ. (ดีกว่าที่คาดไว้ 7%) และ TMB งบ 4Q59 อยู่ที่ 2.14 พันลบ. (ดีกว่าคาด 5%)
  (+/-) วานนี้นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้แถลงยืนยันการออกจาก EU ของอังกฤษ หากแต่ขั้นตอนสุดท้ายต้องผ่านการลงมติในรัฐสภา จึงช่วยลดแรงกดดันจากประเด็น BREXIT ลงไปบ้าง แต่ดัชนี FTSE100 ปรับตัวลง 1.5%Day
  (+/-) อัตราเงินเฟ้อ เดือน ธ.ค. ของประเทศอังกฤษ อยู่ที่ 1.6% (ตามคาด)

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
  หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
  ประชุม ECB 19 ม.ค. 60
  Trump จะเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ปธน.สหรัฐ ในวันที่ 20 ม.ค.
  เริ่มเข้าสู่ช่วงการประกาศผลประกอบการ 4Q59 เริ่มด้วยกลุ่ม BANK
  ตัวเลขสำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อสหรัฐเดือน ธ.ค. (18 ม.ค.)

กลยุทธ์การลงทุน 'เลือกรายตัว'
  ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มแกว่งตัวออกข้าง จากปัจจัยภายในประเทศที่ค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ดี จะได้แรงพยุงจากงบกลุ่มธนาคารที่ทยอยประกาศ และดีกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดคาดการณ์ เราเน้นเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะตัว เช่น กลุ่มธนาคาร และกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งจะได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีน และเรายังมองว่ามีความเสี่ยงต่ำจากที่ยัง laggard ตลาด

หุ้นเด่นประเด็นร้อน
AAV เก็งกำไร
  เข้าสู่ช่วง High Season ในไตรมาส 1 จากช่วงเทศกาลตรุษจีน
  Hedge ราคาน้ำมันไปราว 70% ลดความเสี่ยงจากตลาดน้ำมันขาขึ้น CGS
  ประเมินกำไรปี 59-60 ขยายตัว 100% และ 14%

CENTEL เก็งกำไร
  ได้ประโยชน์จาการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า 19 ประเทศ
  คาดได้โมเมนตัมบวกจากการท่องเที่ยวที่จะคึกคักในช่วงเทศกาลตรุษจีน

ทีมวิเคราะห์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!