- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 16 January 2017 16:41
- Hits: 2547
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)
Technical highlights
SET lndex : แนวโน้มลงทดสอบ แนวรับสำคัญ 1550-1555
ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1575.24 จุด เพิ่มขึ้น 6.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 45,151 ล้านบาท ตลาดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนที่บริเวณแนวต้านสำคัญที่ 1580-1585 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1620 และ 1650 จุด และมีแนวรับสำคัญที่ 1550 จุด
Weekly: เคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนที่บริเวณแนวต้านสำคัญที่ 1585 จุด ซึ่งเราคาดว่า โครงสร้างในระยะยาวของ SET Index ยังมีความเสี่ยงในการเคลื่อนไหวในกรอบแนวโน้มขาลง โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1580-1585 จุด ซึ่งเรายังคงแนะนำให้ระวังความเสี่ยงจากการขายทำกำไร โดยมีแนวรับสำคัญในระยะสั้นที่ 1550 จุด ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิคต่อเนื่อง
กลยุทธ์ :SET Index ฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญของโครงสร้างในระยะยาวที่ 1580-1585 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1620 และ 1650 จุด แต่เรายังคงแนะนำให้เน้นการถือเงินสด โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1550 จุดลงไป ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายต่อเนื่อง
Most Active Value: แนวรับ แนวต้าน
JAS สัญญาณฟื้นตัว แนวต้าน 9.00 แนวรับสำคัญ 8.60 ถ้าหลุดแนวรับถัดไป 8.20 5.20 / 5.10 5.30/5.40
CPALL สัญญาณฟื้นตัว แนวต้าน 64.00 และ 65.50 แนวรับสำคัญ 61.00 61.50 / 61.00 62.50/63.00
PTT ขายที่แนวต้าน 388-390 แนวรับ 380 และ 370 380 / 374 388/390
JAS-W3 แนวต้านสำคัญ 4.90-5.00 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ แนวต้านถัดไป 5.50 4.80 / 4.70 4.90 /5.00
TASCO ขายที่แนวต้าน 24.00 แนวรับสำคัญ 22.50 23.00 / 22.50** 24.00 /24.50
IVL แนวโน้มขึ้นทดสอบ 38.00 และ 39.00 แนวรับสำคัญ 35.50 36.00 / 35.50 37.00 /38.00
SCC แนวโน้มลงทดสอบ 484 แนวต้าน 494-498 488 / 484 494/498
IRPC ซื้อที่แนวรับ 5.10 แนวโน้มขึ้นทดสอบ 5.60 และ 5.80 5.20 / 5.10 5.30/5.40
BANPU แนวรับสำคัญ 19.50 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายต่อเนื่อง แนวรับถัดไป 19.00 19.50** / 19.00 19.80/20.00
SCB สัญญาณขาย แนวต้าน 158 แนวรับ 150 และ 145 155 / 154 158/160
NCL International Logistics (NCL TB; THB 2.18) - ซื้อ
แนวต้าน : 2.34 และ 2.48 / แนวต้านสำคัญ 2.70
แนวรับ : 2.18 และ 2.14
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60 แนะนำซื้อ NCL โดยมีแนวรับที่ 2.18 และ 2.14 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.34 และ 2.48 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.08 ลงไป
Thiensurat (TSR TB; THB 5.25) -ซื้อ
แนวต้าน : 5.55 และ 5.75 / แนวต้านสำคัญ 6.00
แนวรับ : 5.25 และ 5.20
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น เคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ฟื้นตัวเหนือระดับ 50 แนะนำซื้อ TSR โดยมีแนวรับที่ 5.25 และ 5.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.55 และ 5.75 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 5.15 ลงไป
Trading Pick Follow up: แนวรับ แนวต้าน
BR แนวโน้มขึ้นทดสอบ 7.35 และ 7.80 แนวรับสำคัญ 6.70 6.80 / 6.70** 7.20 /7.35
ITD แนวโน้มขึ้นทดสอบ 5.40 และ 5.60 แนวรับสำคัญ 5.00 5.10 / 5.00 5.30 /5.40
AUCT แนวโน้มขึ้นทดสอบ 11.10 และ 11.70 แนวรับสำคัญ 10.30 10.50 / 10.30** 11.10** /11.70
ECF แนวโน้มขึ้นทดสอบ 3.48 และ 3.60 แนวรับสำคัญ 3.24 3.40 / 3.36 3.48 /3.60
SPRC สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 13.50 และ 13.80 แนวรับสำคัญ 12.40 13.00 / 12.80 13.50 /13.80
MDX สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 6.80 และ 7.00 แนวรับสำคัญ 6.15 6.40 / 6.30 6.60 /6.80
CSS สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 3.20 และ 3.28 แนวรับสำคัญ 2.98 3.08 / 3.04 3.20 /3.28**
FVC สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 3.70 และ 3.80 แนวรับสำคัญ 3.34 3.40 / 3.36 3.60 /3.70
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...อาทิตย์นี้ผันผวนแรงขึ้นทั้งเชิงบวกและลบ
อาทิตย์นี้ถือเป็นอีกอาทิตย์ที่มีความสำคัญกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในวันศุกร์ที่ 20 ม.ค. ที่จะเป็นวันที่นาย Donald Trump จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ โดยตลาดคาดกันว่านาย Trump อาจจะเปิดเผยรายละเอียดของแผนเศรษฐกิจ ทั้งเรื่องภาษี เม็ดเงินกระตุ้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายกระตุ้นด้านการคลัง นโยบายทางการค้ากับประเทศคู่ค้ากับจีนและอื่นๆ หากผลการแถลงเป็นที่ถูกใจของตลาด ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก น่าจะดีดตัวขึ้นรับข่าว แต่คงไม่แรง เนื่องจากดัชนีต่างรับข่าวมาตั้งแต่ช่วงชนะการเลือกตั้ง เพียงแต่ตอนนี้ อยากฟังว่านโยบายยังเหมือนเดิมหรือไม่
หากผลการแถลงออกมาในเชิงผิดคาดหรือ นโยบายทางการค้าที่จะออกมา จะนำไปสู่แนวโน้มที่จะเกิดสงครามทางการค้ากับจีนและเอเชีย ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐและทั่วโลก น่าจะปรับตัวลงแรง โดยคาดกันว่าการแถลงจะอยู่ในวันที่ 1 ก.พ. 2017 ส่วนในตลาดหุ้นไทยเอง อาทิตย์นี้งบ Q4/16 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะทยอยประกาศหมด ซึ่งคาดกันว่าจะออกมาดีขึ้น นอกจากนั้นเริ่มมีสัญญาณในเชิงบวกกับตลาดหุ้นไทยเกิดขึ้น คือ สัดส่วน Earning Momentum ratio เริ่มจะผงกหัวขึ้น แต่ยังอยู่ในแดนลบ การที่เริ่มผงกหัวขึ้น ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกกับตลาดโดยรวม การที่ค่า Earning momentum ปรับตัวดีขึ้นก็มาจากนักวิเคราะห์เริ่มปรับเพิ่มกำไรต่อหุ้นของหุ้นมากกว่าที่จะปรับลง ซึ่งมาจากหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์และพลังงาน ดูจากรูปด้านซ้าย
เรามองว่าเมื่อนักวิเคราะห์เริ่มมีการปรับเพิ่มกำไรต่อหุ้น ของหุ้นในกลุ่มพลังงานและธนาคารพาณิชย์ สุดท้ายจะไปหนุนให้อัตราการทำกำไรของตลาด (EPS growth) ในปีนี้เพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งตอนนี้ค่า EPS growth ปีนี้อยู่ที่ 9-10% เทียบปี 2016 ที่ประมาณ 11-12% ถือเป็นอัตราที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับหลายๆ ปีที่ผ่านมา (ดูรูปด้านขวา) อย่างไรก็ตามในแง่ของการลงทุน เมื่อเกิดสัญญาณในเชิงบวกกับแนวโน้มการทำกำไรของตลาด ก็ใช่ว่าดัชนี SET จะพุ่งขึ้นทันที เนื่องจากสภาพตลาดตอนนี้ ดัชนี SET วิ่งขึ้นมารับข่าวไปมากแล้ว ขณะที่สัญญาณการเทคนิค กำลังบ่งบอกว่าในช่วงสั้นๆ นี้ดัชนี SET จะเริ่มค่อยๆ ซึมลง หลังหุ้นในกลุ่มหลักอย่าง ธนาคารพาณิชย์ พลังงาน ปิโตรเคมี ปรับตัวขึ้นจนมีเหลือช่องให้ขึ้นน้อยลง ดังนั้นสัญญาณการเข้าซื้อหุ้นในรอบนี้ ยังต้องรอให้ดัชนี SET ย่อตัวลงมาก่อน
อาทิตย์นี้หากการเข้ารับตำแหน่งของนาย Trump ตลาดตอบรับในเชิงบวก คาดดัชนี SET น่าจะปรับตัวขึ้นต่อที่กรอบ 1580-1600 จุด แต่หากตลาดผิดหวังหรือเกิดการ Take profit รับข่าว ดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มปรับตัวลงในช่วงสั้น อันจะทำให้ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียรวมทั้งไทยปรับตัวลงตาม โดยดัชนี SET คาดน่าจะลงไปที่ต่ำกว่า1550 จุด
เปิดขึ้นมาวันแรกของสัปดาห์ คาดดัชนี SET จะยังเคลื่อนไหวตามดัชนีในภูมิภาคในลักษณะซึมตัวลง หลังตลาดยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ และรอข่าวการแถลงนโยบายของนาย Donald Trump ขณะที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง วันนี้มองแนวต้านที่ 1578-1582 จุดและแนวรับที่ 1570-1565 จุด วันนี้แนะนำซื้อเก็งกำไร PTTGC TTA TASCO และ BEAUTY
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์: อาทิตย์นี้ถือเป็นอีกอาทิตย์ที่มีความสำคัญกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในวันศุกร์ที่ 20 ม.ค. ที่จะเป็นวันที่นาย Donald Trump จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ โดยตลาดคาดกันว่านาย Trump อาจจะเปิดเผยรายละเอียดของแผนเศรษฐกิจ ทั้งเรื่องภาษี เม็ดเงินกระตุ้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายกระตุ้นด้านการคลัง นโยบายทางการค้ากับประเทศคู่ค้ากับจีนและอื่นๆ หากผลการแถลงเป็นที่ถูกใจของตลาด ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก น่าจะดีดตัวขึ้นรับข่าว แต่คงไม่แรง เนื่องจากดัชนีต่างรับข่าวมาตั้งแต่ช่วงชนะการเลือกตั้ง เพียงแต่ตอนนี้ อยากฟังว่านโยบายยังเหมือนเดิมหรือไม่ อาทิตย์นี้หากการเข้ารับตำแหน่งของนาย Trump ตลาดตอบรับในเชิงบวก คาดดัชนี SET น่าจะปรับตัวขึ้นต่อที่กรอบ 1580-1600 จุด แต่หากตลาดผิดหวังหรือเกิดการ Take profit รับข่าว ดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มปรับตัวลงในช่วงสั้น อันจะทำให้ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียรวมทั้งไทยปรับตัวลงตาม โดยดัชนี SET คาดน่าจะลงไปที่ต่ำกว่า1550 จุด เปิดขึ้นมาวันแรกของสัปดาห์ คาดดัชนี SET จะยังเคลื่อนไหวตามดัชนีในภูมิภาคในลักษณะซึมตัวลง หลังตลาดยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ และรอข่าวการแถลงนโยบายของนาย Donald Trump ขณะที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง วันนี้มองแนวต้านที่ 1578-1582 จุดและแนวรับที่ 1570-1565 จุด วันนี้แนะนำซื้อเก็งกำไร PTTGC TTA TASCO และ BEAUTY
Themes play :
กลุ่มค้าปลีก : เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไร หุ้นในกลุ่มค้าปลีกที่ราคายังคงปรับขึ้นช้ากว่ากลุ่ม (laggard) อย่าง BJC CPALL และ ROBINS โดยมีราคาเป้าหมาย (Bloomberg consensus) ที่ 56.42 บาท, 71 บาทและ 67.62 บาท ตามลำดับ เราคาดว่าตลาดในสัปดาห์นี้จะมีความผันผวนมากขึ้น จากการประเมินการแถลงนโยบายเศรษฐกิจของนาย โดนัลด์ ทรัมปั ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 20 ม.ค. ส่งผลให้นักลงทุนอาจเลือกขายทำกำไรหุ้น high beta และกลุ่มที่ outperform ตลาดอย่างกลุ่มพลังงาน, ธนาคารและอสังหาฯ แล้วไปพักเงินในหุ้น defensive อย่างกลุ่มค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO GLOBAL CPN PLAT) ในระยะสั้นได้ โดยหุ้น BJC ปรับตัว -2%, CPALL -0.8% และ ROBINS -4.3% เมื่อเทียบกับกลุ่มค้าปลีก -0.4% และตลาด (SET) ที่ปรับตัวขึ้น +2.1%
ประเด็นในสัปดาห์
18 ม.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข CPI YoY เดือนธ.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ 1.7%
18 ม.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Industrial production MoM เดือนธ.ค. โดยตลาดคาด 0.4% จากเดือนก่อนหน้าที่ -0.4%
19 ม.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Housing Starts เดือนธ.ค. โดยตลาดคาด 1.17 ล้านยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 1.09 ล้านยูนิต
19 ม.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Building Permits เดือนธ.ค. โดยตลาดคาด 1.22 ล้านยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 1.2 ล้านยูนิต
19 ม.ค. : การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) โดยตลาดคาดว่าจะคงอัตราดดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.00%
คาดการณ์วันประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2016
17 ม.ค. : TMB
18 ม.ค. : KBANK TCAP
19 ม.ค. : BBL SCB
20 ม.ค. : BAY KKP KTB
Fundamental Stock :
JAS : Company Note คำแนะนำ : ถือ ราคาเป้าหมาย : 8.10 บาท
Technical Pick:
กลยุทธ์ : SET Index มีแนวต้าน 1580-1585 และมีแนวรับสำคัญ 1550 จุด
NCL International Logistics (NCL TB; THB 2.18) - ซื้อ
Thiensurat (TSR TB; THB 5.25) - ซื้อ
SET Index : แนวโน้มลงทดสอบ แนวรับสำคัญ 1550-1555
Retail Research Team