- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 13 January 2017 17:51
- Hits: 1603
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวต้านสำคัญ 1580
SET Index: 1569.72 เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 1570 จุด หลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1580 จุด แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ อย่างไรก็ดี การปรับตัวลดลงยังมีมูลค่าการซื้อขายไม่สูงมาก จึงทำให้การปรับตัวลดลงในระยะสั้นมีโอกาสฟื้นตัวที่บริเวณ 1560 จุด เพื่อกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1580-1585 จุดอีกครั้ง แต่ถ้าปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 1550 จุด ถ้าหลุดจะเป็นจุด STOP LOSS สำหรับการเข้าซื้อเก็งกำไร และมีแนวรับถัดไปที่ 1530 และ 1500 จุด
แนวต้าน : 1570 และ 1574
แนวรับ : 1565 และ 1560
CPALL = 61.50 / 62.50, JAS = 8.40 / 8.60, PTT = 382 / 385, JAS-W3 = 4.70 / 4.80, BANPU = 19.50 / 19.80
Communicaiton & System Solution (CSS TB; THB 3.04) -ซื้อ
แนวต้าน : 3.20 และ 3.28 / แนวต้านสำคัญ 3.60
แนวรับ : 3.04 และ 3.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากฟื้นตัวเหนือแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้น ในขณะที่โครงสร้างในระยะยาวทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นไปได้แล้ว
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ CSS โดยมีแนวรับที่ 3.04 และ 3.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.20 และ 3.28 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ แนวต้านถัดไป 3.60
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.98 ลงไป
Filter Vision (FVC TB; THB 3.50) -ซื้อ
แนวต้าน : 3.70 และ 3.80 / แนวต้านสำคัญ 4.30
แนวรับ : 3.50 และ 3.44
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐาน ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ FVC โดยมีแนวรับที่ 3.50 และ 3.44 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.70 และ 3.80 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.34 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...หุ้นบางตัวในกลุ่มอสังหาและสื่อสาร ยังเก็งกำไรได้
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกตอนนี้ โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐ ถือว่าดีมากๆ เพราะมองว่านาย Donald trump น่าจะแถลงความชัดเจนเรื่องนโยบายทางเศรษฐกิจในวันที่ 20 ม.ค. ทั้ง มาตรการด้านภาษี การใช้มาตรการการคลัง การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและอื่นๆ โดยมาตรการเหล่านี้ตลาดมองว่าจะไปกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจของสหรัฐและของโลก ดูได้จากระยะหลังทั้ง OECD และ ธนาคารโลกออกมาปรับประมาณการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลก สหรัฐ และเอเชียในปีนี้เพิ่มขึ้น ขณะที่มองอัตราการทำกำไรของ S&P 500 ปีนี้โตถึง 12.4%
หากมาดูผลการสำรวจความรู้สึกของนักลงทุนในสหรัฐหรือ US Sentiment survey จากรูปด้านซ้าย พบว่าตอนนี้นักลงทุนมองตลาดหุ้นสหรัฐในเชิงดีมากๆ (Bullish) โดยเฉพาะหลังผลการเลือกตั้งสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย. 2016 โดยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาคือหลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2008 เปอร์เซ็นของการ Bullish ตลาดหุ้นสหรัฐที่เกิน 50% มีไม่กี่ครั้ง และจะยืนได้ไม่นาน เปอร์เซ็นการ Bullish ที่สูงที่สุดอยู่ในช่วงหลังการทำ QE ของสหรัฐในปี 2010 (2553) ที่ 63% ส่วนครั้งหลังเกิดขึ้นในช่วงที่ ECB BoE และ BoJ ออกมาตรการซื้อพันธบัตร คือปลายปี 2014 (2557) ที่ 57% ปัจจุบันขึ้นไปสูงสุดที่ 50% แล้วค่อยๆลดลง
เมื่อดูสัญญาณการ Bullish ของนักลงทุนต่อตลาดหุ้นสหรัฐ ส่วนใหญ่แล้วเมื่อขึ้นเกิน 50% สุดท้ายมักจะถอยลง กล่าวคือ มีแรงขายทำกำไรออกมา อย่างไรก็ตามในรอบนี้หลังสัญญาณดังกล่าวขึ้นไปที่ประมาณ 50% แล้วถอยลง มีความเป็นไปได้ ที่อาจจะขึ้นไปเหนือ 50%อีก หากนักลงทุนมองนโยบายเศรษฐกิจของนาย Donald Trump ในเชิงบวกที่จะเกื้อหนุนตลาดหุ้นและเศรษฐกิจสหรัฐ ในทางกลับกันหากมองนโยบายดีแต่ยังต้องใช้เวลาให้ผลของนโยบายมีผลต่อเศรษฐกิจ ก็มีความเป็นไปได้ที่สัดส่วนดังกล่าวจะลดลง จนนำไปสู่การขายทำกำไรหุ้นสหรัฐออก สรุปได้ว่าสัดส่วนการ Bullish ในตลาดหุ้นสหรัฐกำลังขึ้นมาในระดับที่อาจมีแรงขายทำกำไรในช่วงสั้น
ทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ไปถึงหลังวันที่ 20 ม.ค. คงยังต้องอิงกับทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐต่อไป ขณะที่การประกาศงบ Q4/16 จะเป็นอีกปัจจัยที่จะกำหนดทิศทางตลาด โดยงบของธนาคารพาณิชย์ที่กำลังทยอยประกาศ ส่วนใหญ่จะออกมาดีในเชิง YoY% ส่วนพลังงานไม่ต้องพูดถึงเพราะน่าจะออกมาดีมากๆเทียบ QoQ% และ YoY% หลังราคาน้ำมัน ส่วนต่างปิโตรเคมี ธุรกิจไฟฟ้าและค่าการกลั่น ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเหล่านี้ส่วนใหญ่ขึ้นมารับข่าวไปมากแล้ว ดูได้จากรูปด้านขวา ที่เราแสดงเปอร์เซ็นการขึ้นของดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมหลักอย่าง พลังงาน ธนาคารพาณิชย์ อสังหาริมทรัพย์และสื่อสาร
นับตั้งแต่ต้นปี 2016 ถึงปัจจุบัน กลุ่มพลังงานขึ้นไปประมาณ 40% ตามมาด้วย ธนาคารพาณิชย์ที่ขึ้นพอๆกับ SET ที่ประมาณ 20% ส่วนที่ยังขึ้นได้ไม่มาก คือ อสังหาริมทรัพย์และสื่อสาร ที่ตอนนี้ขึ้นพอๆกันที่ประมาณ 10% การจะขึ้นหรือลงใน 2 กลุ่มนี้ ขึ้นอยู่กับงบ Q4/16 ดังนั้นหุ้นใน 2 กลุ่มนี้ยังพอที่จะเล่นเก็งกำไรได้ วันนี้มองดัชนี SET เริ่มมีแรงขายทำกำไรหลังผิดหวังคำแถลงของนาย Donald Trump แต่จะเริ่มผันผวนแรงขึ้นทั้งเชิงบวกและลบในสัปดาห์หน้า วันนี้มองแนวต้านที่ 1573-1578 และแนวรับที่ 1562-1558 จุด วันนี้ซื้อเก็งกำไร TRUE PSH SIRI และ ITD
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,569.72 จุด เพิ่มขึ้น 0.88 จุด(+0.06%) มูลค่าการซื้อขาย 20,060.51 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ ในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาคที่แกว่งบวก-ลบ ตลาดรอปัจจัยใหม่มาหนุน ขณะที่นักลงทุนรอดูการแถลงนโยบาย "โดนัลด์ ทรัมปั"ที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ (20 ม.ค.) บ้านเราติดตามผลประกอบการ Q4/16 ของกลุ่มธนาคารที่จะทยอยประกาศในสัปดาห์หน้า
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย เราคาดว่าตลาดจะมีการปรับฐานลงต่อเนื่องจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนเพื่อรอดูการแถลงนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. โดยสัปดาห์หน้าปัจจัยที่ต้องติดตามจะเป็นการทยอยประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2559 ของกลุ่มธนาคาร เริ่มจาก TMB วันที่ 17 ม.ค., KBANK TCAP วันที่ 18 ม.ค. , BBL SCB วันที่ 19 ม.ค. และ BAY KKP KTB วันที่ 20 ม.ค. โดยราคาหุ้นกลุ่มธนาคารส่วนใหญ่ถูกเก็งกำไรขึ้นมาแล้ว ทำให้เราคาดว่ามีโอกาสจะถูก sell on fact ในสัปดาห์หน้า ถ้าผลการดำเนินงานไม่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด เราคาดว่าตลาดในสัปดาห์หน้าจะมีความผันผวนมากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนอาจเลือกขายทำกำไรหุ้น high beta และกลุ่มที่ outperform ตลาดอย่างกลุ่มพลังงาน, ธนาคารและอสังหาฯ แล้วไปพักเงินในหุ้น defensive อย่าง ICT (ADVANC INTUCH), ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO GLOBAL CPN PLAT), โรงพยายาล (BDMS) และหุ้นที่ได้ประโยชน์หากเงินบาทกลับมาอ่อนค่าอย่างกลุ่มอิเล็คโทรนิคส์ (DELTA KCE SVI), กลุ่มอาหาร (CPF GFPT TU) และกลุ่มโรงแรมและการท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ในระยะสั้นก่อน ในช่วงบ่ายให้แนวรับสำคัญที่ 1560 จุด หากยืนได้สัปดาห์หน้าตลาดก็มีโอกาสฟื้นตัวกลับไปที่ระดับ 1575 จุดได้ แต่หากยืนไม่ได้ตลาดมีโอกาสปรับฐานแรงไปที่ระดับ 1535 จุดในสัปดาห์หน้า
Technical Pick (PM) ...
Communication & System Solution (CSS TB; THB 3.04) - ซื้อ
Filter Vision (FVC TB; THB 3.50) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]
