WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLSบล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

รอบด้านตลาดหุ้น

Sideways       

  วันนี้คาดดัชนีฯ Sideways กรอบ 1,563-1,575 จุด ปัจจัยบวก ถ้อยแถลง ปธน.สหรัฐฯ เมื่อคืนสร้าง Sentiment บวก หลังส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการสร้างงานสุดโต่ง "ผมจะเป็นผู้ผลิตงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่พระเจ้าเคยสร้างมา" ทรัมป์กล่าว

วันนี้ตลาดจับตาถ้อยแถลงประธาน ECB จากรายงานการประชุม ที่เตรียมสำหรับการประชุมสัปดาห์หน้า (คาดส่งสัญญาณผ่อนคลายไม่เป็นลบต่อตลาดหุ้นโลก) คาดจิตวิทยาบวกหนุนหุ้นบูลชิพใหญ่ (เน้น Financial sectors: ธนาคาร อสังหาฯ) ยังคง Outperform ตลาด               

  แนวโน้มสัปดาห์นี้ คาดสร้างฐานบริเวณ 1,560 +/- 5 จุด เพื่อรอจังหวะขึ้นต่อ ทะลุแนวต้านสั้น 1,575 จุด (แนะเลือกลงทุนรายตัวตราบใดที่ไม่หลุด 1,560 +/-) แนวต้านระยะสัปดาห์ 1,600 จุด ปัจจัยหนุนจะมาจาก (1) แนวโน้มการพักเงินไว้ในภูมิภาค เพื่อเก็งกำไรการแข็งค่าของค่าเงินหยวน จากนโยบายจีนสกัดเงินทุนไหลออกผ่านการใช้มาตรการค่าเงินหยวนแข็งค่าเป็นครั้งแรกตั้งแต่ ปี 2005 โดยค่าเงินภูมิภาคและค่าเงินบาท แข็งค่าหลังจาก จีนปรับขึ้นค่ากลางเงินหยวน 0.9% (6 มค.) เป็น 6.8668 CNY/US$ (2) ตัวเลขเศรษฐกิจโลกคาดส่งผลบวก/ลบ คละกัน โดยตัวเลขส่งออกภูมิภาค จีน ฟิลิปปินส์ แย่ลง แต่ US Retail sale ดีขึ้น และ เงินเฟ้อ, ดัชนี Industrial production ยุโรป คาดดีขึ้น (3) ประชุมธนาคารกลางยุโรป (Minute) และ เกาหลีใต้ คาดเดินนโยบายผ่อนคลายต่อเนื่อง

ระยะเดือน มค. คาดมีโอกาสที่จะเกิด January effect เหมือนกับปี 2012-13 และ 2015 ที่ดัชนีหุ้นขึ้นในช่วงเดือน มค.อิง (1) แรงซื้อคืนจาก นลท.ต่างชาติ...โดยแรงขายคาดว่าจะจำกัดอิงสัดส่วนถือครองหุ้นไทยที่ 29% ต่ำสุดในรอบ 5 ปี และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 32% (2) ตัวเลขเศรษฐกิจภูมิภาคช่วงต้นปี คาดโมเมนตั้มยังดีต่อเนื่อง-จากปลายปี 

  ส่วนข่าวลบ วิตกเม็ดเงินไถ่ถอนหน่วยลงทุน LTF ที่คาดว่าจะกดันหุ้นไทยเดือน มค. คาดว่าจะกระทบหุ้นไทยจำกัดเพราะ (1) เม็ดเงินซื้อ LTF สุทธิปี 2013 คิดเป็นประมาณ 8% ของ NAV (หรือคิดเป็นเพียง 2 หมื่นกว่าลบ.เท่านั้น จากที่ BLS รวบรวม) และ อิงข้อมูลการไถ่ถอนหน่วยฯ ย้อนหลัง 3 ปี พบว่าการขายหน่วยจะกระจายหลายเดือน ไม่ได้กระจุกตัวในเดือน มค.เพียงเดือนเดียว (2) ระดับผลตอบแทนหุ้นไทยปี 2013 เทียบ ณ.ปัจจุบันเฉลี่ยเพียง 8% ซึ่งไม่ได้ให้ผลตอบแทนสูงเหมือนรอบ ปี 2012 และครบกำหนดปี 2016 ที่ให้ผลตอบแทนถึง 22% / กกร. และสภาอุตฯ ประเมินผลกระทบน้ำท่วมภาคใต้ ไม่เกิน 1.5 หมื่นล้านบาท

หุ้นแนะนำวันนี้ TICON มีประเด็นบวกหลายปัจจัยที่จะหนุนราคาหุ้นขึ้นไปได้ทั้งการเติบโตของ

  ธุรกิจเดิมซึ่งคาดจะทำจุดต่ำสุดในปีนี้ และเข้าสู่ช่วงขาขึ้นตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป จากการหยุดขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT, ดอกเบี้ยจ่ายจะลดลงอย่างมาก จากการเตรียมเงินไว้จ่ายหนี้

กว่า 8.8 พันล้านบาท  และประเด็นการเข้ามาของกลุ่มเฟเซอร์ ที่ซึ่งนอกจากเงินทุนที่จะเข้ามาช่วยลดหนี้แล้วยังเกิดการสร้างฐานที่แข็งแกร่งในระยะยาว

  KTC คาดสินเชื่อปี 2560 เติบโต 5% และการเติบโตของการปริมาณการใช้บัตรที่ 7% หนุนให้กำไรปี 2560 ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ 16% ซึ่งผลประกอบการมีโอกาสที่จะออกมาดีกว่าที่เราคาดอิงตาม เป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อปี 2560 ที่ 10% และการเติบโตของการปริมาณการใช้บัตรที่ 15%

รายงานวันนี้

  (+) MAJOR เราเชื่อว่าตลาดหนังในประเทศไทยจะถูกปลุกขึ้นอีกครั้งในปี 2560 จากทั้งโปรแกรมภาพยนตร์ต่างประเทศและภาพยนตร์ไทย โดยเฉพาะภายนตร์ฟอร์มยักษ์จากต่างประเทศ แม้ว่ากำไรหลักในไตรมาส 4/59 น่าจะอ่อนตัวลงจากไตรมาส 4/58 และ 3/59 แต่เราเชื่อว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ในปี 2560 เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 1/60 เราแนะนำนักลงทุนอย่ายึดกับความผิดหวังที่เกิดขึ้นในไตรมาส 4/59 (เหตุการณ์นอกเหนือการควบคุม) และทยอยเข้าสะสมในช่วงที่ราคาหุ้นอ่อนตัว เพื่อรับกับผลประกอบการที่จะดีขึ้นใน 2560 เรามองว่ามีโอกาสที่ภาพยนตร์ไทย 2 เรื่องในไตรมาส 1/60 จะสร้างความประหลาดใจเชิงบวกให้กับตลาดทั้ง “โอเวอร์ไซส์..ทลายพุง” จากค่ายน้องใหม่แต่มือเก๋า อย่าง T moment และ “Mr. Hurt มือวางอันดับเจ็บ” จาก Transformation เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 35 บาท

  (-) TISCO รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/59 ที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4%  YoY และ 3% QoQ กำไรที่ออกมาต่ำกว่าที่เราคาด 6.8% และต่ำกว่าตลาดคาด 2% จากการตั้งสำรอง LLP ที่มากกว่าคาด โดย TISCO รายงาน LLP ไตรมาส 4/59 ที่ 964 ล้านบาท สูงกว่าที่เราคาดไว้ 660 ล้านบาท ภาพรวมกำไรปี 2016 โต 18% YoY มุมมองไตรมาส 1/60 เราเชื่อว่ากำไรจะปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากการตั้ง LLP ที่น้อยลงและการเติบโตของสินเชื่อที่ปรับตัวดีขึ้น จากนโยบายการตั้ง LLP ที่ค่อนข้างระมัดระวัง เราปรับประมาณการ LLP ขึ้น 5.3% ในปี 2017 และ 2018 ทำให้มีการปรับประมาณการกำไรปี 2017 ลง 2% และ 2018 ลง 4.6% ราคาเป้าหมายถูกปรับลงมาอยู่ที่ 71 บาท (ลดลง 4%) ยังคงคำแนะนำ ซื้อ

  (+) IVL คาดกำไรหลักจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งไปจนถึง 2Q17 จากปัจจัยหนุนด้าน high season และคาดกำไรหลักปี 2017 จะเติบโตได้ถึง 10% มากกว่า SET รวมที่ 8% เพราะส่วนต่างกำไรยังคงกว้างและปริมาณการขายยังคงเติบโตได้ดี นอกจากนี้กำไรยังมีอัพไซด์จากโอกาสในการซื้อกิจการในอนาคต และภาษีที่อาจลดลงจากภาษีจ่ายใน USA ที่อาจมีโอกาสปรับลงจากนโยบายของทรัมป์ ซึ่ง 35% ของ EBITDA ของบริษัทมาจาก USA เราคงคำแนะนำ ซื้อราคาเป้าหมาย 42 บาท

หุ้นมีข่าว/ประเด็น

  (+) MONO ตัดหุ้นเพิ่มทุน 143 ล้านหุ้น ขาย PP ให้ 8 นลท. ราคาหุ้นละ 2.85 บ. ชำระเงิน 11-13 มค.นี้ (Lock up period ห้ามขาย 6 เดือน ) นำเงินไปซื้อ Content ต่อยอดการแข่งขันในธุรกิจทีวีดิจิตอล อีกทั้งยังได้ประเด็นหนุนจากเม็ดเงินโฆษณาของทีวีดิจิตอลในเดือน ธ.ค. 2559 ที่ฟื้นตัวดีกว่าคาด พลิกกลับมาเป็น +14.8% YoY ในขณะที่อะนาล๊อกทีวียังติดลบ 5.6% YoY

  (-) กพช. แก้ปมโซลาร์ราชการ นัดถก 17 กุมภาพันธ์ พิจารณาที่ นโยบายที่ชัดเจนของโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์)ส่วนราชการ 400 เมกะวัตต์ ที่ยังไม่สามารถเดินหน้าโครงการได้เพราะติดพ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ(ทีพีพี) (นสพ.แนวหน้า) / ความเห็น BLS Research คาดข่าวนี้เป็น sentiment เชิงลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนที่อิงโซล่าร์ เพราะหากการพิจารณาออกมาว่าหน่าวยงานราชการไม่สามารถดำเนินการได้ โครงการจะล่าช้าออกไปอีก

ปัจจัยที่มีผล

  (+) พฤหัส รายงานประชุมธนาคารกลาง ยุโรป จับตาถ้อยแถลงที่จะมีผลต่อการประชุมในสัปดาห์หน้า, US PPI final demand ธค. คาด +0.3% จาก +0.4% m-m. US Retail sale ธค. คาด +0.5% จาก +0.1% m-m. US U of M consumer sentiment คาด 98.6 จาก 98.2, ฝรั่งเศส CPI คาด +0.6% คงที่, อิตาลี Industrial production, EU area industrial production พย. คาด +0.2% จาก -0.1% m-m. อินเดีย CPI ธค.คาด +3.5% จาก +4.2% และ Industrial production คาด -2.2% จาก +0.7% (ที่มา Bloomberg)

  (0) ศุกร์ จีน ส่งออก เดือน ธค. คาด -3.8% จาก -1.6% y-y. ส่วนดุลการค้าเพิ่มขึ้นเป็น US$bn48 จาก 44.2 ประชุมธนาคารกลาง เกาหลีใต้ คาดคงดอกเบี้ย 1.25% (ที่มา Bloomberg)

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336

นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค

นักวิเคราะห์: ธนัท พจน์เกษมสิน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

นักวิเคราะห์: นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!