WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KGIบล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้               ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)

ปรับขึ้น ถ้อยแถลงทรัมป์ หนุนฟันด์โฟลว์ต่อ

  KGI คาด SET วันพฤหัสฯ ปรับขึ้น ค่าเงินเอเชียแข็งหลังทรัมป์แถลงนโยบาย หนุนฟันด์โฟลว์ต่อ (วานนี้ดัชนีฯ แกว่ง/บวกแคบๆ ตามคาด) เรามองการแถลงของนายโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อวานนี้เป็นบวกต่อสกุลเงินและตลาดหุ้นของเอเชีย หลังจากทรัมป์ไม่ได้กล่าวถึงนโยบายกีดกันการค้า และนโยบายการตอบโต้การปั่นค่าเงินของจีน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดการเงินกังวลก่อนหน้านี้ โดยทรัมป์ใช้เวลาการแถลงไปกับประเด็นทางการเมืองและการจัดการผลประโยชน์ทับซ้อนของตนเองมากกว่า ด้านราคาน้ำมันรีบาวด์แรง 3.2% หลังซาอุฯ เริ่มแจ้งลูกค้าถึงการปรับลดปริมาณผลิตน้ำมัน อย่างไรก็ดีแม้ฟันด์โฟลว์ยังดีแต่ valuations ของตลาดที่อยู่ในระดับสูง ผนวกกับ SET Index เหลืออัพไซด์เพียง 1.2% จากเป้าหมายปี 2560 ที่ 1,590 จุด เรายังคงมุมมองดัชนีฯ ไซด์เวย์ในสัปดาห์นี้ แนะเก็งกำไรหุ้นงบไตรมาส 4/2559 และ/หรือแนวโน้มไตรมาสนี้โดดเด่น เป็นธีมหลักต่อไป

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน   ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)

เก็งกำไร DRT, TACC, FN

  DRT (เป้าพื้นฐาน 5.6 บาท … หากขยับไปใช้เป้าปี 2560 มีโอกาสปรับขึ้น) 1) เราประเมินผลการดำเนินงาน 1Q60 มีแนวโน้มเติบโตเด่นจาก i) High season ii) หากปัญหาน้ำท่วมภาคใต้จบเร็ว คาดดีมานด์วัสดุก่อสร้างเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยมีโอกาสเพิ่มขึ้นในช่วงปลายไตรมาส (DRT ขายผลิตภัณฑ์สำหรับ ผนัง ฝ้า และรั้ว + ระบบหลังคา) iii) ราคาสินค้าเกษตรฟื้นตัว เป็นบวกต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในต่างจังหวัด 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไรปี 2560 = 440 ล้านบาท (EPS 0.42 บาท/หุ้น) คิดเป็น PE ที่ต่ำเพียง 13.1 เท่า (ถูกเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี = 16 เท่า และเทียบกับอัตราการเติบโตของกำไรเฉลี่ยปีละ 15%) 3) ประเมินแนวรับ 5.50 บาท แนวต้าน 5.90 บาท หากทะลุผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 6.20 บาท (Stop loss 5.2 บาท)

  TACC (เป้า Consensus 10.6 บาท ... ไม่รวมประเด็นผลิตภัณฑ์ใหม่) 1) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 10.4 บาท หากทะลุผ่านได้แนะนำ “Let profit run” โดยประเมินแนวต้านถัดไปที่ ±11.5 บาท แนวรับ 9.60 บาท (Stop loss 9.40 บาท) 2) เราประเมินมีประมาณการปี 2560 (เราคาดกำไรราว ±130 ล้านบาท คิดเป็น EPS 0.22 บาท/หุ้น) มี Upside จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เครื่องดื่มบำรุงกำลังที่ประเทศกัมพูชา (TACC มีผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชาเขียว ที่มีส่วนแบ่งตลาดฯอันดับต้นๆในกัมพูชา ทำให้มีช่องทางจำหน่ายที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว) ... เราประเมิน Upside ของกำไร เบื้องต้นจากสมมติฐานดังนี้ i) มูลค่าตลาดฯที่กัมพูชาราว 3 พันล้านบาท/ปี ii) อัตรากำไรสุทธิของธุรกิจฯเฉลี่ย 10 – 15% iii) Upside ของประมาณการฯจะอยู่ที่การแย่งส่วนแบ่งตลาดฯ คือทุกๆ ส่วนแบ่งตลาดฯที่เพิ่มขึ้น 1% ประมาณการกำไรของ TACC จะเพิ่มขึ้นราว 2 – 3% (กำหนดปัจจัยอื่นๆคงที่)

  FN (เป้าพื้นฐาน 10 บาท) 1) ราคาหุ้นเริ่มฟื้นแนวรับ ±8.35 บาท ตามคาด นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้อาจพิจารณาซื้อเก็งกำไร โดยรูปแบบราคาจะเริ่มเกิดสัญญาณซื้อกลับเมื่อยืนเหนือแนวต้าน 9.15 บาท (CBL line) หากทดสอบแล้วไม่สามารถผ่าน 9.15 บาทได้แนะนำ “ขายล๊อกกำไร” (กำหนดจุด Stop loss 8.3 บาท) 2) ยังคงประเมินผลการดำเนินงาน 4Q59 จะเติบโตจากการเปิดสาขาใหม่ที่อยุธยา ในเดือน พ.ย.59 + ยังมีแผนเปิดสาขาเพิ่มเติมอีก 2 แห่งใน 2Q60 และ 4Q60 ทำให้คาดกำไรปี 2560 จะเติบโตราว 50% YoY เป็น 210 ล้านบาท (EPS 0.21 บาท)

หุ้นในกระแส

  หุ้นกลุ่มอสังหาฯ (AP*, ANAN*) เริ่มเห็นภาพ Sector rotation หาหุ้นกลุ่มที่ Valuation ไม่แพง และได้อานิสงส์จากเศรษฐกิจฟื้นตัว เช่นกลุ่มอสังหาฯ แนะนำ “เก็งกำไร” หุ้นเด่น AP*, ANAN*

  หุ้นกลุ่มวัสดุฯ (TASCO*, GLOBAL*, DRT, DCC) เราประเมินจะได้อานิสงส์ยอดขายที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นหลังภาคใต้พ้นภาวะน้ำท่วม (เพื่อซ่อมแซมถนน+ที่อยู่อาศัย) นักลงทุนอาจพิจารณา “เก็งกำไร” หุ้นในกลุ่มฯ หุ้นเด่น DRT, TASCO*

  หุ้นรับกระแสไอที + อินเตอร์เนต (COM7*, SAMART, SAMTEL, ILINK, ITEL) เราประเมินหุ้นในกลุ่มที่ได้อานิสงส์จากนโยบายไทยแลนด์ 4.0 (เน้นการใช้เทคโนโลยีและอินเตอร์เนต เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ) ได้แก่หุ้นกลุ่มงานวางระบบสื่อสาร อย่าง SAMART+SAMTEL และ ILINK+ITEL และ COM7 ที่จะได้อานิสงส์ในด้านการขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ทั้งกลุ่มลูกค้าระดับบน (Studio7 + Banana IT) และล่าง (Banana Sure ขายคอมฯ มือสอง) รวมถึงระบบ Software เพื่อสนับสนุนกลุ่ม Startup แนะนำ “เก็งกำไร” หุ้นในกลุ่มฯ

  หุ้นที่ได้อานิสงส์เศรษฐกิจในประเทศฟื้น ธนาคารและสถาบันการเงิน (KBANK*, KTC*) ยานยนต์ (SAT, AH) ค้าปลีก (COM7*, TACC, ROBINS*) ลีสซิ่ง (GL, THANI) ผลจากราคาสินค้าเกษตรที่ฟื้นตัว และพ้นภาวะภัยแล้ง รวมทั้งเม็ดเงินลงทุนภาครัฐฯจำนวนมาก ที่จะเริ่มเข้าสู่ระบบในปีนี้ จะเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2560 โดยนักเศรษฐศาสตร์ บล เคจีไอ ประเมิน GDP ปี 2560 ไว้ที่ 3.6 – 3.8% (ขณะที่ปี 2559 คาดไว้ที่ 3.3%) แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” KTC*, SAT, COM7*, TACC และ GL

หุ้นมีข่าว

  (0) กพช.ถกอนาคตโซลาร์ในหน่วยงานราชการ (กรุงเทพธุรกิจ) ทั้งนี้จากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่าหน่วยงานราชกาบไม่สามารถดำเนินการผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่วยได้ จากข้อจำกัดดังกล่าว มีโอกาสที่กำลังการผลิต 400MW จะถูกโอนไปเป็นโควต้าของพลังงานทดแทนชนิดอื่น หรือเปลี่ยนแปลงผู้บริหารโครงการ ทั้งนี้ทางกพช.จะมีการพิจารณาถึงเรื่องนี้ในการประชุมวันที่ 17 ก.พ. 2560 เรามองว่าความน่าสนใจการลงทุนของพลังงานแสงอาทิตย์น่าจะลดลง โดยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอาจทำให้เกิดความล้าช้าของโครงการ ในขณะที่กลุ่มพลังงานทดแทนชนิดอื่นๆอาจะได้รับความสนใจมากขึ้นถ้าหากมีการเปลี่ยรแปลงโควต้าระหว่างชนิดพลังงานทดแทน

  (+) BCPG ควักกระเป๋าหมื่นล้าน สยายปีกพลังงาน 1000MW (ทันหุ้น) BCPG จ่อ COD โซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น-โซลาร์ราชการเพิ่ม 20 เมกะวัตต์ ภายในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2560 นี้เชื่อหนุนผลงานแกร่ง เตรียมแจ้งซื้อกิจการพลังงานลม บิ๊ก "บัณฑิต สะเพียรชัย" เผยปี 2560 ทุ่มงบ 1 หมื่นล้านบาท ลุยสยายปีกธุรกิจพลังงานเต็มสูบ พร้อมตั้งเป้าภายในปี 2563 โชว์กำลังผลิต 1000 เมกะวัตต์

  (+) BA* นำโด่งตรวจสอบออก AOC ใหม่ กพท.ตั้งเป้าปีนี้ ICAO ปลดธงแดง (ข่าวหุ้น) “BA” นำโด่งตรวจสอบออกใบรับรองผู้ดำเนินอากาศ (AOC) ใหม่ ล่าสุดเข้าขั้นที่ 4 ได้ครึ่งทางแล้ว ขณะที่ THAI AAV ตามมาติดๆ กพท.คาดภายในมี.ค.สามารถออก AOC ให้ 3 แอร์ไลน์นี้ได้ มิ.ย.ยื่นขอรับการตรวจจาก ICAO ตั้งเป้าปีนี้ต้องปลดธงแดง

  (+) WINNER ผุดสินค้าป้อน 7-11 กวาดผลงานเติบโตโดดเด่น (ทันหุ้น) WINNER สบช่องผุดโปรดักต์ใหม่ป้อนเซเว่นอิเลฟเว่นเพิ่ม พร้อมยิ้มรับเศรษฐกิจปี 2560 ฟื้น ภาคการอุปโภค-บริโภคสดใส รับอานิสงส์ภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนการเติบโตโดดเด่น

  (+) SPALI* ปูพรมผุด 29 โครงการบุกเมืองใหญ่ (ไทยโพสต์) ศุภาลัยกางแผนปี 60 เดินหน้าผุด 29 โครงการใหม่ ปูพรมหัวเมืองท่องเที่ยว มูลค่ารวมกว่า 37,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าหมายปีนี้มียอดขายที่ระดับ 27,000 ล้านบาท

หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า

  COM7* (เป้า Consensus 14.1 บาท ... สูงสุด 17.5 บาท) แนะนำ “สะสม” ที่ ±13 บาท (Stop loss 12.6 บาท) ในกรณีที่ทะลุผ่านแนวต้าน 13.4 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 14 บาท ... เราประเมินอุตสาหกรรมค้าปลีกไอที เข้าสู่ขาขึ้น i) คู่แข่งเลิกสงครามราคาที่ใช้มายาวนาน 5 ปี ii) นโยบายไทยแลนด์ 4.0 สร้างดีมานด์คอมพิวเตอร์และอุกรณ์

  CPF* (เป้าพื้นฐาน 42 บาท) แนะนำ “ถือ” ประเมินแนวรับ 29.25 บาท แนวต้าน 31.5 บาท ... Catalyst บวกเรื่อง i) ครม มีมติอนุมัตินำเข้าถั่วเหลืองเสรี 3 ปี (ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลง) ii) การส่งออกไก่ไทยมีแนวโมเติบโตหลังปลดล๊อกปัญหาไข้หวัดนก

  ASEFA (เป้า Consensus 8.9 บาท) พิจารณาแนวต้าน 8.20 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” แต่หากไม่ผ่าน แนะนำ “รอซื้อแนวรับ” 7.85 บาท ... คาดกำไร 4Q59 ลุ้นโต YoY และ QoQ จากเป็น High season ของการส่งมอบงาน (ตู้ระบบไฟฟ้า)

  SAT (เป้า Consensus 16.5 บาท) แนวต้าน ±17 บาท แนวรับ 15.2 บาท (Stop loss 14.5 บาท) ... ประเมินอุตสาหกรรมยานยนต์พ้นจุดต่ำสุด โดยคาด i) กำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศจะฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ (ผลจากการลงทุนภาครัฐฯ + ราคาสินค้าเกษตรฟื้นตัว)

  TNR (เป้า Consensus 20.26 บาท ... คาดมีโอกาสปรับขึ้น) ประเมินแนวรับ 29 บาท หากต่ำกว่า แนะนำ “ขายล๊อกกำไร” ... ประเมินได้อานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อน + 4Q เป็น High season + คาดกำไรปีหน้าโตเด่นจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น (โรงงานที่หยุดผลิตในปีนี้กลับมาผลิต ด้วยกำลังการผลิต +30%)

  THAI* (เป้าสูงสุด Consensus 34 บาท) หากไม่สามารถยืน 23 บาทได้ แนะนำ “ขายตัดขาดทุน”

  TRC* (เป้าสูงสุด Consensus 1.8 บาท) อยู่ระหว่างทดสอบแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ ±1.53 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” ... คาดปลดล๊อกการลงทุนเหมืองแร่โปแตซ (APOT) ภายใน 1Q60 ปลดล๊อกการปล่อยสินเชื่อเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ (มูลค่าลงทุนงานโครงสร้างเหมืองฯราว ±3.5 หมื่นล้านบาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  TISCO* อยู่ระหว่างพิจารณาปรับประมาณการฯ การเข้าซื้อสินเชื่อผู้บริโภคมูลค่า 4.16 หมื่นล้านบาทมาจากธนาคาร Standard Charter Bank ทำให้ภาพแนวโน้มระยะยาวของ TISCO เปลี่ยนไป โดยฝ่ายวิจัยฯประเมินจะทำให้กำไรสุทธิโตประมาณ 18-20% หรือคิดเป็นประมาณ 1.0 บาท/หุ้น เมื่อประเมินมูลค่าโดยใช้ P/E ที่ 10x (จากราคาเป้าหมายในปัจจุบันที่ 62 บาท).

  LPH แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 11 บาท คาดกำไรสุทธิของ LPH ใน 4Q59 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 45 ล้านบาท (+19% YoY, +4% QoQ) โดยปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญได้แก่ i) การที่ยังอยู่ในช่วง high season ii) ประสิทธิภาพของ ‘ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์’ และ iii) การรับรู้รายได้จากสำนักงานประกันสังคม

Market strategy      Thailand

  จิตวิทยาตลาดวันนี้:  ---   ค่าเฉลี่ยสี่วันที่รับ 1570 จุด

  วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือรับ 1570 จุดได้นั้น อาจรักษาแรงผลักขึ้นในกรอบ 1570-1591 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1570 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1570-1558 จุด

   แนวรับวันนี้:         1570/1563                   แนวต้านวันนี้:                1577/1587

 หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ

อดิศักดิ์ คำมูล      66.2658.8888 ต่อ 8843                [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!