- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 11 January 2017 18:31
- Hits: 1186
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
จุดสนใจอยู่ที่การแถลงข่าวของทรัมพ์
คาดหุ้นไทยขยับขึ้นต่อวันนี้ โดยที่นักลงทุนคาดว่าโดนัลด์ ทรัมพ์ จะกล่าวเน้นย้ำเรื่องมาตรการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การลดภาษีและตัดทอนกฎระเบียบ ซึ่งจะเป็นบวกต่อหุ้น ในระหว่างการแถลงข่าวครั้งแรกในวันนี้ อย่างไรก็ตาม หากเขายังคงเน้นแนวนโยบายตั้งประจันกับจีนและการปกป้องทางการค้า นักลงทุนหลายส่วนจะกลับมาหวาดวิตกถึงขั้นระมัดระวังการลงทุนนับจากนี้ ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอันที่จะมีผลต่อตลาด และออกไปทางลบเล็กน้อย ครม. ให้สามารถนำเงินบริจาคช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ไปหักภาษีได้ ค่าใช้จ่ายโฆษณาปี 2016 หดตัวเกือบ 12% แต่เรามองว่าปีนี้น่าจะสดใสจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
หุ้นเด่นวันนี้ : SCB (ราคาปิด 157.50; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 185.00 บาท)
บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นหุ้นเด่นในวันนี้เนื่องจากการคาดการณ์ว่ากำไรในไตรมาส 4/59 จะเติบโตดี คุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น และสินเชื่อที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง หุ้น SCB ยังเป็นหนึ่งในหุ้นเด่นของเราในกลุ่มธนาคารนอกเหนือจาก BBL (ราคาปิด 168.00 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายของ AWS 203.00 บาท) และ TCAP (ราคาปิด 44.50 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายของ AWS 51.00 บาท) เราคาดว่ากำไรของ SCB ในไตรมาส 4/59 จะเติบโต 7.2% QoQ และ 4.8% YoY อยู่ที่ 1.24 หมื่นล้านบาท การเติบโตดังกล่าวจะมาจากการตั้งสำรองที่ลดลงเนื่องจากเราคาดว่า SCB จะจัดชั้นสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของ SSl จำนวน 1.1 หมื่นล้านบาทให้เป็นสินเชื่อที่ก่อให้เกิดรายได้หลังจากที่ศาลได้อนุมัติแผนฟื้นฟูของ SSl แล้วเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา การจัดชั้นสินเชื่อใหม่นี้อาจทำให้อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) ลดลงถึง 2.3% จาก 2.85% ในไตรมาส 3/59
ขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage ratio) อาจปรับตัวสูงถึง 157% จาก 128.9% ตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกว่าธนาคารจะมีแรงกดดันที่ลดลงในการตั้งสำรองเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆ ซึ่งยังเผชิญกับปัญหาของ NPL ที่เพิ่มขึ้น ถึงแม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวในปีที่แล้ว SCB ยังแสดงการเติบโตของสินเชื่ออย่างมั่นคงที่ประมาณ 4.6% YTD ณ เดือนพฤศจิกายน 59 ซึ่งเติบโตสูงสุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ และเราคาดว่าสินเชื่อปี 59 จะเติบโตที่ 6% นอกจากนี้ เราคาดการณ์อย่างอนุรักษ์นิยมว่าสินเชื่อปี 60 จะเติบโต 6% แต่มีความเป็นไปได้ว่าสินเชื่อของธนาคารจะเติบโตได้มากกว่าประมาณการของเราหนุนโดยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ
ถึงแม้เราประมาณการว่ากำไรจะโตเพียงแค่ 0.2% ในปี 59 แต่เราคาดว่ากำไรในปีนี้จะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 9.3% YoY หุ้นดังกล่าวยังให้อัตราเงินปันผลตอบแทนที่น่าสนใจที่ 3.8% ในปี 60 Price Pattern ของ SCB มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ SCB ที่สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือเป้าหมายถัดไปที่ 155 บาทไปได้ จึงมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 165 บาท ทั้งนี้ SCB มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 145 บาท (Resistance: 158.50, 159.50, 161.00; Support: 156.50, 155.00, 154.00)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ลดหย่อนภาษีแก่เงินบริจาคให้ภาคใต้ ครม.ได้เห็นชอบการลดหย่อนภาษีให้แก่บุคคลหรือบริษัทที่บริจาคเงินหรือสินทรัพย์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน 12 จังหวัดภาคใต้ระหว่าง 1 ม.ค. - 31 มี.ค. 60 โดยให้ลดหย่อน 1.5 เท่าของจำนวนที่บริจาคและการบริจาคจะต้องกระทำผ่านหน่วยงานที่ได้รับความเห็นชอบโดยกรมสรรพากร โดยไม่เกิน 10% ของเงินได้สุทธิและไม่เกิน 2% ของกำไรสุทธิสำหรับบริษัท (Bangkok Post)
ครม.เห็นชอบคณะทำงานดูแลเมกะโปรเจ็กต์ วานนี้คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบแนวทางการดำเนินโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (CoST) และแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อคุมโครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ เพื่อสนุบสนุนความโปร่งใสในการก่อสร้าง ทุกโครงการที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พัน ลบ. และโครงการที่มีผลกระทบสำคัญจะต้องเปิดเผยข้อมูลที่กำหนดแก่สาธารณชน (Bangkok Post)
ค่าใช้จ่ายโฆษณาปี 59 ร่วงเกือบ 12% Nielsen ระบุว่าร่วงราว 11.7% สู่ 1.08 แสน ลบ. เพราะเศรษฐกิจชะลอตัวและการบริโภคที่ยังอ่อนแอ โดยเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมลดลงมากที่สุดถึง 42.3% ขณะเดียวกัน การใช้จ่ายโฆษณาทางอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 63.6% (Bangkok Post)ความเห็น: อุตสาหกรรมน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงปลายปีก่อนหลังจากผ่านพ้นช่วงแห่งความโศกเศร้าและเราคาดว่าจะเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นในปีนี้จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัว
PTTEP (96.00 บ. ขาย ราคาเป้าหมาย AWS 73.00 บ.) ประกาศแผนลงทุน 5 ปี (2560-64) ภายใต้งบลงทุน 8.8 พันล้านดอลลาร์ฯ โดยส่วนใหญ่ยังคงมุ่งเน้นการรักษาระดับปริมาณการผลิตปิโตรเลียมของโครงการในปัจจุบัน โดยเฉพาะโครงการในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ควบคู่ไปกับการลดต้นทุนการผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง แม้จะมีเงินสดในมือมากแต่พบว่างบลงทุน 5 ปีข้างต้นถือว่าถูกปรับลดจากมุมมองเมื่อปีที่แล้วที่อยู่ที่ระดับ 1.11 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ เนื่องจากกิจกรรมการลงทุนที่อาจน้อยลงในโครงการที่อยู่ระหว่างการสำรวจและพัฒนา จากเหตุผลของความล่าช้า ขณะที่ยังไม่มีแผนการเข้าซื้อสินทรัพย์ปิโตรเลียมใหม่ๆ อย่างชัดเจน มุมมองต่อแนวโน้มยอดขายปิโตรเลียมพบว่าแย่ลงหลังบริษัทฯ กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่สัมปทานแหล่งก๊าซฯ บงกชที่จะสิ้นอายุในปี 2566 อาจไม่ได้รับการต่ออายุ (SET) ความเห็น: มุมมองยังคงเป็นในเชิงลบต่อยอดขายปิโตรเลียมและปริมาณสำรองปิโตรเลียม ด้วย Downside risk หลายประการที่มีต่อประมาณการ เรายังคงแนะนำ ขาย
ต่างประเทศ :
ดอลลาร์สหรัฐเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนมีวิตกกังวลก่อนทรัมป์จะเปิดการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกในวันพุธที่ 11 ม.ค. ตามเวลาสหรัฐ ทั้งนี้ นักลงทุนเกรงว่าทรัมป์ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค. อาจทำให้ตลาดสั่นคลอนโดยดำเนินการในประเด็นต่าง ๆ อย่างแข็งกร้าว เช่นนโยบายทางการค้าและความสัมพันธ์กับจีน ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ล่าสุดปรับตัวขึ้น 0.08% สู่ระดับ 102.010 ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า 0.7% เทียบกับเงินเยนสู่ระดับ 115.21 เยน เงินยูโรล่าสุดปรับตัวลง 0.14% สู่ระดับ 1.0557 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์ทรงตัวและล่าสุดอยู่ที่ระดับ 1.2164 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์ก่อนหน้านี้อ่อนค่าลงจากความกังวลว่าอังกฤษจะถอนตัวจากสหภาพยุโรปแบบ hard exit ซึ่งหมายถึงอังกฤษจะถอนออกจากตลาด Single Market ทั้งหมด (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเมื่อวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนเปิดช่องสำหรับการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 ปี วงเงิน 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหักกลบกับความต้องการพันธบัตรเพิ่มขึ้นเนื่องจากหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 2.378% หลังจากเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ๆ ที่ 3 bps (Reuters)
พรรครีพับลิกันกำลังพิจารณาแผนการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้า นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและบรรดาสมาชิกในทีมถ่ายโอนอำนาจของทรัมป์กำลังพิจารณาแผนการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้า ทั้งนี้ นักวิเคราะห์เตือนว่ามาตรการปกป้องทางการค้าอาจทำให้การค้าระหว่างประเทศชะงักงันและทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอตัว (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดแบบผสมเมื่อวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุนก่อนทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค. นี้ ดัชนี S&P500 ปิดไม่เปลี่ยนแปลงเนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานในขณะที่หุ้นกลุ่มบริการด้านสุขภาพและการเงินปรับตัวขึ้น ส่วนดัชนีแนสแดคปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลงทำให้เป้าหมายที่จะแตะระดับ 20,000 จุดยังยากที่จะเป็นไปได้ (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันอังคารปรับตัวสูงขึ้นนำโดยการปรับตัวสูงขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่มากกว่าการอ่อนตัวลงของหุ้นกลุ่มการเงิน ขณะที่ดัชนีหุ้น Blue chip ของ FTSE 100 ยังคงเดินหน้าปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่จากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ (Reuters)
เอเชีย :
จีนให้คำมั่นว่าจะคุมระดับหนี้ที่สูงของบริษัทและปรับลดกำลังการผลิตส่วนเกินของเหล็กและถ่านหินในวันอังคารที่ผ่านมา: รัฐบาลจีนพยายามที่จะรักษาอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและสมดุลมากขึ้น ขณะเดียวกันก็หลีกเลี่ยงการเกิดฟองสบู่สินทรัพย์ที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัว 6.7% ในปีที่ผ่านมา เป็นประมาณการในระดับกลาง ๆ ของเป้าหมายรัฐบาล แต่ก็เผชิญกับความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นในปี 2560 ตามคำกล่าวของคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน หรือ NDRC (Reuters)
ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในประเทศจีนเพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคม: ดัชนีราคาผู้ผลิตเริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายนจากที่เกิดภาวะเงินฝืดในรอบเกือบห้าปี ข้อมูลในวันอังคารที่แสดงให้เห็น PPl ในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 5.5% YoY เป็นอัตราการเพิ่มที่เร็วที่สุดในรอบกว่าห้าปี เนื่องจากราคาถ่านหินและวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันดิบลบ 1% วันอังคาร มีแรงเทขายแรงต่อจากวันก่อนเพราะมีความกังวลว่าความร่วมมือลดกำลังการผลิตจะยั่งยืนหรือไม่ น้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้าลบ 76 เซนต์หรือ -1.4% ปิด 54.18 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าลบ 64 เซนต์หรือ -1.2% ปิด 51.32 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองคำวิ่งแตะจุดสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือนในวันอังคาร เพราะดอลลาร์อ่อนค่าก่อนจะมีการแถลงข่าวในวันพุธโดย Donald Trump และความกังวลว่าอังกฤษอาจเลือกออกจาก EU แบบไม่ประนีประนอม ราคาทองคาตลาดจรแตะจุดสูงสุดนับแต่ 30 ก.ย. ที่ 1,190.46 ดอลลาร์ก่อนจะปิดบวก 0.6% ที่ 1,188.20 ดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)
ทองแดงแตะจุดสูงสุดรอบ 1 เดือนวันอังคาร เพราะตัวเลขเงินเฟ้อของจีนที่เป็นผู้ใช้ทองแดงมากสุดสะท้อนว่าเศรษฐกิจจะฟื้น ขณะที่สังกะสีแตะจุดสูงสุดรอบสามสัปดาห์เพราะอุปทานขาดแคลน ทองแดงสามเดือนในตลาด London Metal Exchange ปิดบวก 3% เป็น 5,760 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน หลังจากก่อนหน้านี้ก็ไปแตะจุดสูงสุดนับแต่ 13 ธ.ค. ที่ 5,779 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094