- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 10 January 2017 16:01
- Hits: 1381
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET เริ่มปรับตัวลง...ให้เป็นโอกาสในการเลือกหุ้นทยอยซื้อใหม่อีกครั้ง!
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET เริ่มแกว่งตัวด้านลบมากขึ้น โดยดัชนีค่อยๆ ซึมลงกว่า 10 จุด ก่อนจะทรงตัวได้บ้างในช่วงชั่วโมงสุดท้าย แต่แรงซื้อกลับยังค่อนข้างบางตา ขณะที่สถาบันในประเทศเป็นผู้ขายหลัก ซึ่ง FSS คาดว่าแรงขายส่วนหนึ่งมาจาก LTF ที่ครบกำหนด และการทำกำไรช่วงสั้น หลังตลาดวิ่งขึ้นมาค่อนข้างแรงและเร็วพอควรในรอบที่ผ่านมา
แนวโน้มตลาดวันนี้ : บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ยังไม่สดใสนัก หลังตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ปิดปรับตัวลดลง จากการที่สายการบินลุฟฮันซา ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการลง นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังร่วงลงเกือบ 4% จากตัวเลขจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 10 สัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจะกดดันให้ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ยังคงเคลื่อนไหวในด้านลบต่อเนื่องได้ ซึ่งตลาดหุ้นไทยยังต้องระวังแรงขายจาก LTF ที่ครบอายุ ที่อาจจะยังมีออกมากดดัน SET ต่อเนื่องได้อีก อย่างไรก็ตาม FSS คาดว่ากรอบลบของ SET จะไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจากค่าเงินบาทยังมีจังหวะแข็งค่าให้เห็นอยู่
กลยุทธ์ : คาด SET ปรับลงเป็นเพียงการลดความร้อนแรงของการวิ่งขึ้นรอบก่อน เพื่อสร้างฐานรอการวิ่งขึ้น
ครั้งใหม่ ดังนั้นแนะนำเลือกหุ้นทยอยซื้อลบ
แนวรับ 1562-1560 , 1555-1550 จุด
แนวต้าน 1567-1570 , 1572-1575 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : ASEFA, LPH, BLA(buy back)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$268ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$193ล้าน และไทย US$44ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคแต่อาจชะลอตัวลงหลังเมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันร่วงลงแรงจากรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่เพิ่มขึ้น
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) ราคาน้ำมันร่วง 4% กังวลอุปทานจากอิรักและสหรัฐ ตลาดกังวลกับการส่งออกน้ำมันดิบของอิรักที่เพื่มเป็น 3.51 ล้านบาร์เรล/วันในเดือน ธ.ค. และจำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 10 สัปดาห์เป็น 665 แท่น ธนาคารบาร์เคลย์สคาดว่าแท่นขุดเจาะจะเพิ่มสู่ระดับ 850-875 แท่นในปลายปี 2017 เป็นลบต่อหุ้นพลังงานโดยเฉพาะ PTTEP (แนะนำขาย ราคาพื้นฐาน 86 บาท)
(+) TISCO นำร่องประกาศงบ 4Q16 วันนี้ เราคาดกำไรสุทธิ 4Q16 +5.6% Q-Q, +6.1% Y-Y กำไรที่เพิ่มขึ้น Q-Q ถือว่าดีสวนทางกลุ่ม และน่าจะทำให้กำไรทั้งปี 2016 +18.4% Y-Y และคาดปี 2017 +6.2% Y-Y และจะเร่งตัวขึ้นในปีหน้าหลังได้ synergy จากการซื้อพอร์ตรายย่อยจาก StanChart เต็มที่ TISCO เป็น Top pick ของเราเพราะกำไรปี 2017-18 ที่จะโดดเด่นกว่ากลุ่ม และคาด Dividend yield 5%
(+) TU ขายหุ้นที่ถือทั้งหมด 50% ในธุรกิจทูน่ากระป๋องแบรนด์ Century ในจีนคืนให้ผู้ถือหุ้นเดิม และตั้งบริษัทย่อยของตัวเองจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ตนเอง เน้นอาหารทะเลพรีเมี่ยม เช่น Shrimp และ Lobster เรามองบวกที่ TU ขายทูน่ากระป๋อง Century เพราะแม้จะทำมานานและเป็นแบรนด์ระดับท็อปแต่กลับไม่ค่อยโต การสร้างแบรนด์ตัวเองและเน้นอาหารทะเลพรีเมี่ยมน่าจะประสบความสำเร็จเพราะชาวจีนนิยม TU เป็นหนึ่งในหุ้นเราชอบที่สุดในกลุ่มอาหารเพราะกำไรที่ turnaround ในปีนี้ คาด +22% Y-Y ราคาหุ้นที่ laggard มากทำให้มี PE เพียง 13.7 เท่า ยังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 26 บาท
(+) SAWAD เราคาดกำไรสุทธิ 4Q16 +6.8% Q-Q, +46% Y-Y ทำให้กำไรทั้งปี +44% Y-Y (น้อยกว่า MTLS ที่คาด +70% Y-Y) การซื้อ BFIT คาดรวมกิจการอย่างเร็วปลาย 2Q17 แต่อาจไม่ได้เพิ่ม Synergy มากนักเพราะสัดส่วนการถือหุ้นอาจน้อยกว่าที่คาดไว้ แต่ถึงแม้ SAWAD จะถือหุ้น 100% ใน BFIT คาดกำไรเพิ่มขึ้นเพียง 4% ส่วนการโอนธุรกิจเงินให้สินเชื่อจำนำหลักประกันไปให้กับ BFIT ได้ประโยชน์น้อยกว่าที่ทำภายใต้บริษัทเดิม เราคงประมาณการกำไรปี 2017 +26% Y-Y (ต่ำกว่า MTLS ที่คาด +36% Y-Y) คงราคาพื้นฐาน 55 บาท แนะนำซื้อเพราะ PE ที่เริ่มถูกคือ 16.7 เท่า แต่ชอบ MTLS (ราคาพื้นฐาน 28.80 บาท) มากกว่า
(-) ADVANC เราคาดกำไรปกติ 4Q16 -16% Q-Q, -49% Y-Y จากต้นทุนที่สูงทั้งค่าเสื่อมราคาและค่าเช่าคลื่น 2100MHz ที่เริ่มจ่ายให้ TOT ไตรมาสนี้เป็นไตรมาสแรก ไตรมาสละ 975 ล้านบาท ทำให้คาดกำไรปกติทั้งปี 2016 หดตัว 21.5% Y-Y (ดีกว่า DTAC ที่คาดหดตัว 52% Y-Y) แนวโน้มผลประกอบการน่าจะเริ่มฟื้นใน 2H17 แต่รวมทั้งปี 2017 น่าจะยังหดตัว 1% Y-Y แม้ราคาหุ้นมี upside กว่า 10% จากราคาพื้นฐานที่ 175 บาท แต่ยังแนะนำถือรับปันผล (คาด yield 2.8% ใน 2H16) เพราะกำไรน่าจะแย่ต่อไปอีกระยะ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
10 ม.ค. - จีน:อัตราเงินเฟ้อ (ธ.ค.),ยอดปล่อยสินเชื่อ (ธ.ค.)
12 ม.ค. - ยูโรโซน:Industrial Production (พ.ย.)
13 ม.ค. - OPEC และ Non-OPECประชุมติดตามผลเรื่องการลดการผลิต
- จีน:ดุลการค้า (ธ.ค.)
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ธ.ค.),คำแถลงของนาง Yellen, เริ่มประกาศผลการดำเนินงาน 4Q16นำโดย JP Morgan, Wells Fargo, BofA
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BoK) ประชุม
17 ม.ค. - จีน: 4Q16GDP, Industrial production (ธ.ค.),ยอดค้าปลีก (ธ.ค.)
- ยูโรโซน:ZEW Survey Expectations (ม.ค.)
18 ม.ค. - สหรัฐ:เงินเฟ้อ (ม.ค.)
- ยูโรโซน:เงินเฟ้อ (ม.ค.)
19 ม.ค. - ECBประชุม
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- สหรัฐ:Housing start & building permits (ธ.ค.)
20 ม.ค. - จีน:4Q16 GDP, Industrial Production, Retail sales (ธ.ค.)
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบโดยถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงแรง ขณะที่นักลงทุนเริ่มจับตาดูการประกาศผลประกอบการ 4Q16
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดค่อนมาในแดนลบเช่นกันนำโดยหุ้นในกลุ่มธนาคารและน้ำมัน ขณะที่กลุ่มยานยนตร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนลบตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงแรง รวมถึงจิตวิทยาเชิงลบที่ DJIA ยังไม่สามารถทะลุ 20,000 จุดได้
(+) ค่าเงินบาทเริ่มพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.55-35.70 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ร่วงลง 2.03 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 51.96 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยประเทศที่ส่งออกน้ำมันหลักอย่างซาอุดิอาระเบียและรัสเซียมีการลดกำลังการผลิตลง แต่อุปทานกลัเพิ่มขึ้นในภูมิภาคอื่นซึ่งรวมถึงอเมริกาเหนือ อิรักและอิหร่าน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 11.50 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,184.90 ดอลลาร์/ออนซ์ จากตลาดหุ้นทั่วโลกที่เริ่มอ่อนตัวลง รวมถึงนักลงทุนประเมินทิศทางและผลกระทบทางเศรษฐกิจอีกครั้งจากการเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯของนายทรัมป์
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch