- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 10 January 2017 09:43
- Hits: 1411
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)
Technical highlights
SET Index : แนวต้านสำคัญ 1580-1585
ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1571.48 จุด เพิ่มขึ้น 0.43 จุด มูลค่าการซื้อขาย 61,143 ล้านบาท ตลาดเมื่อวันศุกร์เคลื่อนไหวในกรอบแคบเหนือระดับ 1570 จุด หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเข้าใกล้แนวต้านสำคัญของโครงสร้างระยะยาวที่ 1580-1585 จุด
Weekly: ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวต้านสำคัญของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 1580-1585 จุด หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1555 จุดขึ้นไปได้ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านสำคัญของโครงสร้างในระยะยาวที่ 1580-1585 จุด แต่เราแนะนำให้ระวังความเสี่ยงจากการขายทำกำไร โดยมีแนวรับสำคัญในระยะสั้นที่ 1550 จุด
กลยุทธ์ :SET Index ในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านสำคัญของโครงสร้างในระยะยาวที่ 1580-1585 จุด แต่เรายังคงแนะนำให้เน้นการขายทำกำไร เพื่อถือเงินสด โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1550 จุด ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขาย
Asia Fund Flow : 6 มกราคม 2560
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ซื้อสุทธิ 25 ล้านเหรียญ (9 ม.ค.)
ตลาดหุ้นไต้หวัน ซื้อสุทธิ 84 ล้านเหรียญ รวมทั้งสัปดาห์ ซื้อสุทธิ 173 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ซื้อสุทธิ 10 ล้านเหรียญ รวมทั้งสัปดาห์ ขายสุทธิ 27 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ซื้อสุทธิ 7 ล้านเหรียญ รวมทั้งสัปดาห์ ซื้อสุทธิ 32 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นไทย ซื้อสุทธิ 54 ล้านเหรียญ รวมทั้งสัปดาห์ ซื้อสุทธิ 198 ล้านเหรียญ
Most Active Value: แนวรับ แนวต้าน
IVL สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 38.00 และ 39.00 แนวรับสำคัญ 35.00 36.50 / 36.00 38.00 / 39.00
BANPU แนวโน้มขึ้นทดสอบ 20.50-20.80 แนวรับสำคัญ 19.50 20.00 / 19.70 20.50 / 20.80
IRPC สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 5.15 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ แนวต้านถัดไป 5.30 5.00 / 4.96 5.10 / 5.15
CPF แนวต้าน 31.00 เป็นจังหวะขาย แนวรับ 30.00 30.00 / 29.50 31.00 / 31.50
BEM เคลื่อนไหวในกรอบ 7.40-7.80 7.50 / 7.40 7.70 / 7.80
PTT ขายที่แนวต้าน 388-390 แนวรับ 380 และ 370 384 / 380 388 / 390
CPALL แนวโน้มขึ้นทดสอบ 67.00 และ 69.00 แนวรับ 64.00 และ 63.00 63.50 / 63.00 65.00 / 66.00
AOT แนวรับสำคัญ 390 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขาย แนวรับถัดไป 382 และ 375 390** / 382 394 / 398
KBANK ขายที่แนวต้าน 185 และ 187 แนวรับสำคัญ 176 182 / 180 185 / 187
PTTEP ขายที่แนวต้าน 100 แนวรับ 94.00 96.00 / 94.00 99.00 / 100
BJC Heavy Industries (BJCHI TB; THB 5.30) - ซื้อ
แนวต้าน : 5.60 และ 5.80 / แนวต้านสำคัญ 6.00
แนวรับ : 5.30 และ 5.20
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคต่อเนื่อง พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเข้าใกล้ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ BJCHI โดยมีแนวรับที่ 5.30 และ 5.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.60 และ 5.80 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 5.15 ลงไป
LDC Dental (LDC TB; THB 1.62) - ซื้อ
แนวต้าน : 1.70 และ 1.75 / แนวต้านสำคัญ 1.82
แนวรับ : 1.62 และ 1.60
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานใต้เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ LDC โดยมีแนวรับที่ 1.62 และ 1.60 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.70 และ 1.75 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.53 ลงไป
Trading Pick Follow up: แนวรับ แนวต้าน
ITEL แนวโน้มขึ้นทดสอบ 12.50 และ 13.00 แนวรับสำคัญ 11.60 11.80 / 11.60** 12.20 / 12.50
TRC แนวต้านสำคัญ 1.54 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ แนวต้านถัดไป 1.60 และ 1.64 1.52 / 1.50 1.54** / 1.60
CSS แนวโน้มขึ้นทดสอบ 3.04 และ 3.16 แนวรับสำคัญ 2.74 2.84 / 2.80 3.00 / 3.04
TTA แนวโน้มขึ้นทดสอบ 10.00 และ 10.30 แนวรับสำคัญ 9.00 9.50 / 9.40 9.80 / 10.00
TIPCO สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 15.50 และ 16.00 แนวรับสำคัญ 13.70 14.60 / 14.40 15.00 / 15.50
THCOM สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 21.00 และ 21.50 แนวรับสำคัญ 19.50 20.70 / 20.50 21.00 / 21.50
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ
ดัชนี SET ที่วิ่งขึ้นมาใกล้ 1580 จุด ถือว่าเป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อของตลาด กล่าวคือ หากสามารถขึ้นไปยืนเหนือ 1580 จุดได้ในทางเทคนิค ดัชนี SET น่าจะขึ้นไปที่ประมาณ 1600-1610 จุด แต่หากไม่ผ่าน แนวโน้มการปรับฐานจะเกิดขึ้น จากรูปด้านซ้าย เราแสดงทิศทางดัชนี SET ผ่านค่า Trend line ที่คำนวณเป็นค่า +/-1 และ +/-2 SD เพื่อดูว่าแนวโน้มดัชนี SET จะเป็นอย่างไร จากรูปกำลังบอกว่าดัชนี SET สามารถขึ้นไปยืนเส้น Trend line -1SD และมีแนวโน้มว่าจะไปต่อ อย่างไรก็ตามหากไม่มีแรงหนุนที่ดีจริงๆ เรามองว่าการขึ้นของดัชนี SET จะเลื้อยขึ้นบริเวณเหนือเส้น Trend line -1SD คล้ายๆ กับปลายปี 2552 ต้นปี 2553 และกลางปี 2559 นั่นก็หมายถึงดัชนีจะยังย่ำอยู่บริเวณ 1580-1550 จุด
ส่วนรูปด้านขวา เราแสดง ค่า Fibonacci retracement ในระดับต่างๆ พบว่าปัจจุบันดัชนี SET กำลังจะขึ้นไปที่ค่า Fibonacci 100% ซึ่งก็คือดัชนีที่ 1600-1610 จุด อย่างไรก็ตามจุดสำคัญ คือ ดัชนีจะต้องยืนเหนือให้ได้ คือ บริเวณ 1580+/- จุด หากไม่ผ่าน แล้วเหมือนกับต้นปี 2559 (2015) ดัชนี SET จะค่อยๆปรับตัวลงมาที่บริเวณ 1500+/- อีกครั้ง โดยดัชนี SET ในช่วงต้นปี 2559 จะเหมือนปัจจุบันตรงที่ ขึ้นจากบริเวณใกล้เคียงกัน(Fibonacci 61.8%) คือที่ 1500+/- แล้วขึ้นรอบเดียวไปที่บริเวณ 1600+/- จุด แล้วหลังจากนั้นลงกลับมาที่ 1500+/- จุด
กรณี ดัชนีสามารถขึ้นผ่าน 1580+/- ได้ มีแนวโน้มสูงที่จะขึ้นไปที่บริเวณ 1600+/- จุด เรามองกลุ่มที่น่าจะนำพาดัชนีขึ้นไปคือ กลุ่มพลังงาน รองลงมาคือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ กรณีนี้เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไร TOp และ IRPC ส่วนธนาคารคือ TISCO และ TMB แต่หากดัชนีไม่ผ่าน 1580+/- จุด เรามองว่าในสัปดาห์นี้ น่าจะย่อตัวลงมา ตามดัชนีในภูมิภาค เพื่อรอประเมินผลการดำเนินงาน Q4/16 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์และการแถลงนโยบายของนาย Donald trump
ทิศทางดัชนี SET ในสัปดาห์นี้จะเป็นไปได้ 2 ทาง คือ ขึ้นแตะ 1600 จุด และย่อตัวลงต่ำกว่า 1550 จุด ขึ้นอยู่กับ ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก ค่าเงินดอลลาร์ ราคาน้ำมันและแรงซื้อของต่างชาติ โดยแนวทางที่เป็นไปได้มากที่สุด คือ ดัชนีน่าจะย่อตัวลงมา มากกว่าที่จะขึ้นไปต่อ เนื่องจากมองว่าแรงซื้อทั้งต่างชาติและกองทุนในประเทศน่าจะแผ่วตัวลง หลังไม่มีปัจจัยหนุนที่ดีพอ แต่หากดันขึ้นไปต่อที่ 1600+/- จุด อาจมีความเสี่ยงที่จะติดหุ้น หากตลาดเกิดความผันผวนรอบใหม่หลังการแถลงของนาย Donald trump
วันนี้ มองดัชนีในช่วงเปิดตลาดน่าจะมีแรงซื้อขึ้นทดสอบระดับ 1575 จุด หากผ่านได้จะทำจุดสูงสุดใหม่ของปีนี้ที่ 1580 จุดได้ แต่เราเชื่อว่าจะมีแรงขายทำกำไรจากกองทุนในประเทศ (เมื่อวันศุกร์เริ่มขายสุทธิออกมาเป็นวันแรกในรอบ 9 วันจำนวน 374 ล้านบาท) ออกมากดดันดัชนีให้มีการปรับฐานลงในช่วงปลายตลาดแต่คาดว่ายังสามารถยืนเหนือระดับ 1560 จุดได้ ดังนั้นหากดัชนีไม่สามารถผ่านระดับ 1575 จุดได้ เราแนะนาให้ทยอยขายทำกำไรระยะสั้นออกไปก่อนเพราะคาดว่าตลาดในช่วงสัปดาห์หน้าจะมีความผันผวนรอบใหม่หลังการแถลงของนาย Donald trump ในวันที่ 20 ม.ค. ที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ วันนี้เราให้แนวรับที่ 1558-1564 จุดและแนวต้านที่ 1575-1580 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ADVANC BJC GFPT WHA
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์: ทิศทางดัชนี SET ในสัปดาห์นี้จะเป็นไปได้ 2 ทาง คือ ขึ้นแตะ 1600 จุด และย่อตัวลงต่ำกว่า 1550 จุด ขึ้นอยู่กับ ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก ค่าเงินดอลลาร์ ราคาน้ำมันและแรงซื้อของต่างชาติ โดยแนวทางที่เป็นไปได้มากที่สุด คือ ดัชนีน่าจะย่อตัวลงมา มากกว่าที่จะขึ้นไปต่อ เนื่องจากมองว่าแรงซื้อทั้งต่างชาติและกองทุนในประเทศน่าจะแผ่วตัวลง หลังไม่มีปัจจัยหนุนที่ดีพอ แต่หากดันขึ้นไปต่อที่ 1600+/- จุด อาจมีความเสี่ยงที่จะติดหุ้น หากตลาดเกิดความผันผวนรอบใหม่หลังการแถลงของนาย Donald trump วันนี้มองดัชนีในช่วงเปิดตลาดน่าจะมีแรงซื้อขึ้นทดสอบระดับ 1575 จุด หากผ่านได้จะทาจุดสูงสุดใหม่ของปีนี้ที่ 1580 จุดได้
แต่เราเชื่อว่า จะมีแรงขายทำกำไรจากกองทุนในประเทศ (เมื่อวันศุกร์เริ่มขายสุทธิออกมาเป็นวันแรกในรอบ 9 วันจำนวน 374 ล้านบาท) ออกมากดดันดัชนีให้มีการปรับฐานลงในช่วงปลายตลาดแต่คาดว่ายังสามารถยืนเหนือระดับ 1560 จุดได้ ดังนั้นหากดัชนีไม่สามารถผ่านระดับ 1575 จุดได้ เราแนะนำให้ทยอยขายทำกำไรระยะสั้นออกไปก่อนเพราะคาดว่าตลาดในช่วงสัปดาห์หน้าจะมีความผันผวนรอบใหม่หลังการแถลงของนาย Donald trump ในวันที่ 20 ม.ค. ที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ วันนี้เราให้แนวรับที่ 1558-1564 จุดและแนวต้านที่ 1575-1580 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ADVANC BJC GFPT WHA
Themes play :
TIPCO : เราแนะนำให้ ซื้อเก็งกำไร TIPCO โดยมีราคาเป้าหมาย 16.70 บาท ทั้งในแง่ของ value Play และ laggard Paly โดยในเชิง laggard Play เราจะเห็นได้ว่าราคาหุ้น TIPCO ปรับตัวขึ้นแค่ 8% ในขณะที่ TASCO (TIPCO ถือหุ้นอยู่ 23.82%) เพิ่มขึ้นมา 27% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อ TIPCO (TIPCO ถือหุ้นในสัดส่วน 23.82%) ส่วนกรณี value Play หากกรณีที่เราใช้ราคา ณ ปัจจุบันของ TASCO ที่ 21.70 บาทต่อหุ้นในประมาณการของเรา (มูลค่าหุ้น TASCO ที่ TIPCO ถืออยู่ตามราคาตลาดจะอยู่ที่ 8,026 ล้านบาท มากกว่ามูลค่าตลาดรวมของ TIPCO ที่ 7,045 ล้านบาทในปัจจุบัน แปลว่าซื้อหุ้น TIPCO ราคานี้เหมือนได้ธุรกิจน้ำผลไม้, ผลไม้กระป๋องและน้ำแร่มาฟรี) จะได้มูลค่าหุ้นที่เหมาะสมของ TIPCO ตามวิธี SOTP ที่ 21.68 บาทต่อหุ้น นอกจากนั้นเราเชื่อว่าการประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจเมื่อสัปดาห์ก่อนจะช่วยเพิ่มมูลค่าหุ้นให้กับบริษัทแบบเดียวกันกับที่ MALEE ทำสำเร็จไปในปีก่อนและทำให้สามารถปลดล๊อค (unlock value) มูลค่าที่แท้จริงของบริษัทออกมาได้
ประเด็นในสัปดาห์
10 ม.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Wholesale Inventories MoM เดือนธ.ค.
12 ม.ค. : ยุโรปประกาศตัวเลข Industrial Production SA MoM เดือนพ.ย. จากเดือนก่อนหน้า -0.1%
12 ม.ค. : การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) โดยตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25%
13 ม.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Retail Sales Advance MoM เดือนธ.ค. โดยตลาดคาด 0.5% จากเดือนก่อนหน้าที่ 0.1%
Fundamental Stock :
POWER : Sector Note คำแนะนำ : Overweight Top pick : BPP และTPCH
AAV: Company Note คำแนะนำ : ถือ ราคาเป้าหมาย : 6.06 บาท
Technical Pick:
กลยุทธ์ : SET Index มีแนวต้าน 1580-1585 และมีแนวรับสำคัญ 1550 จุด
BJC Heavy Industries (BJCHI TB; THB 5.30) - ซื้อ
LDC Dental (LDC TB; THB 1.62) - ซื้อ
SET Index : แนวต้านสำคัญ 1580-1585
Retail Research Team