WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

AIRAบล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน


ทิศทางตลาด
  ปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่อยู่ในขอบเขตจำกัด? เราคาดว่า SET Index จะปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่อยู่ในขอบเขตจำกัด มีทั้งปัจจัยบวกและลบเข้ามา โดยปัจจัยบวกมาจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของหลายๆประเทศออกมาดีกว่าคาด เช่น PMI ของจีน , PMI ของอังกฤษ , PMI ของเยอรมัน และตัวเลขการว่างงานของเยอรมัน ช่วยลดความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับเติบโตของเศรษฐกิจโลก แต่หักล้างกับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงจากค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้น กดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน 

  ด้านทิศทางของ Fundflow มีการกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยอีกครั้งของนักลงทุนต่างชาติกว่า 8,000 ล้าน ในช่วง 2 วันสุดท้ายก่อนสิ้นปี หลังจากค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าลง อย่างไรก็ตามเรามองปัจจัยดังกล่าวเป็นเพียงปัจจัยสั้น โดยแนวโน้มของค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าในระยะยาว โดยนักวิเคราะห์คาดว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นอีก 10% ใน 18 เดือนข้างหน้า หากทรัมป์สามารถผลักดันนโยบายลดภาษีผ่านสภาคองเกรสได้สำเร็จ คาดว่าจะมีขึ้นในช่วง มี.ค.60 ซึ่งจะส่งผลให้เงินทุนไหลออกจากตลาด EM อีกครั้ง 


  ยังแนะติดตามประเด็นต่างประเทศ โดยเฉพาะการเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการของโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20/1/60 ที่คาดหมายการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ตามที่หาเสียงไว้ ซึ่งคาดทำให้ค่าเงินสหรัฐฯ มีโอกาสแข็งค่าขึ้นอีก ยังแนะจับตา ราคาสินค้า Commodity ที่ซื้อขายในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีราคาลดลง แต่ในทางตรงข้ามคาดส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มส่งออก จากเงินบาทที่อ่อนค่าลงด้วย 


  ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ ยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์การเติบโต GDP ปี 2560 ของสำนักวิจัยเศรษฐกิจหลายๆสำนัก เฉลี่ยที่ 3.2-3.5% โดยแรงขับมาจาก 1.การลงทุนของภาครัฐที่ได้แรงขับจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.รายได้เกษตรกรที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก และสถานการณ์ภัยแล้งที่มีแนวโน้มผ่อนคลายลง และ 3.การส่งออกปรับตัวดีขึ้นจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่เริ่มมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น ,ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปี 2560 จะอยู่ที่ 37.2 ล้านคน

SET SET50 SET100
1,542.94 +5.13 964.84 +2.88 2,178.19 +7.81

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
  (-) ตลาดต่างประเทศ DJIA +119.16, NASDAQ +45.96, S&P +19.00, FTSE +35.06, CAC +16.95 และ DAX -14.09
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากการประกาศตัวเลข PMI ภาคการผลิตสหรัฐเดือน ธ.ค. ออกมาที่ 54.7 สูงสุดในรอบ 2 ปี นอกจากนี้ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐเดือน พ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% MoM มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 0.4% 
       ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยได้รับแรงหนุนจากการประกาศตัวเลข PMI ภาคการผลิตของหลายๆประเทศในยุโรปที่ออกมาดีกว่าคาด เช่น เยอรมัน , อังกฤษ และ ยูโรโซน
  ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. -US$1.39 อยู่ที่ US$52.33ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงหลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้น โดยค่าเงินดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากการประกาศตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตที่ออกมาดีเกินคาด อย่างไรก็ตามเราอยากแนะนำให้ติดตามการประกาศตัวเลขสต๊อกน้ำมันสหรัฐประจำสัปดาห์ของ EIA ในวันพฤหัสบดี นี้
  ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. +US$10.3 อยู่ที่ US$1,162 ต่อออนซ์ จากการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นของนักลงทุน อย่างไรก็ตามเรามองว่าแนวโน้มของราคาทองคำระยะกลาง ยังคงได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้น  

P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
18.55 1.96 3.04

ที่มา: www.set.or.th

มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 38,687.14
สถาบัน 3,547.61
บัญชีหลักทรัพย์ -1,258.93
ต่างประเทศ 2,943.63
ในประเทศ -5,232.31

และยังแนะจับตา
 กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
  (2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น SCC
  (3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI ในขณะที่ CPN จะได้รับประโยชน์ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น
  (4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK, STEC, SYNTEC
  (5) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น
ส่วน BANPU ได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูง
   (6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท 
  (7) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วง 1Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น WORK  
  (8) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจสนามบิน เช่น AOT จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี  +0.0073 อยู่ที่ 2.4554% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) 

ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.19 อยู่ที่ 12.85
หุ้นแนะนำ : VNG

นักวิเคราะห์ : ประวิทย์  เจียวก๊ก     โทร .02-684-8797
นักวิเคราะห์ : พลเทพ วงษ์นาค, FRM     โทร .02-684-8796

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!