- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 04 January 2017 20:35
- Hits: 1589
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
แกว่งขึ้นต่อ แต่คาดตลาดจะปรับฐานเร็วๆ นี้
สวัสดีปีใหม่ 2560... KGI คาด SET วันพุธปรับขึ้น แต่มองอัพไซด์จำกัด และมีโอกาสปรับฐานเร็วๆ นี้ (ก่อนหยุดยาวดัชนีฯ แกว่งขึ้น ตามคาด) ทั้งนี้ตลาดหุ้นต่างประเทศที่ค่อนข้างสดใส หลังดัชนี PMIs ภาคการผลิตของตลาดหลักๆ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่ง ISM การผลิตสูงสุดรอบ 2 ปี ยังหนุนตลาดได้บ้าง แต่ช่วงสั้น valuations ของดัชนีฯ ไม่น่าสนใจ เทรดที่ PE2560-KGI ที่ 15.1 เท่า และ PE2560-consensus ที่ 14.5 เท่า เทียบกับการประมาณการเติบโตของกำไรปี 2017 ที่อยู่ในช่วง 7-10% นอกจากนี้มีโอกาสที่นักลงทุนจะไถ่ถอนกองทุน LTF ออกมาในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะกองที่ซื้อช่วงปลายปี 2556 ที่มีผลตอบแทนเกือบ 20% มาถึงปัจจุบัน ขณะที่ฟันด์โฟลว์ยังมีแนวโน้มผันผวนตามการแข็งค่าของเงินดอลล่าร์ฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงก่อนการรับตำแหน่งและแถลงนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยมองกรอบการซื้อขายของดัชนีฯ ในเดือนนี้ อยู่ที่ 1,500-1,560 จุด
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร CPF*, AOT*, COM7*
CPF* (เป้าพื้นฐาน 42 บาท) 1) ราคาหุ้น Breakout ผ่านแนวต้านกรอบ Sideway ที่ 29.25 บาทได้ ประเมินมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่บริเวณ ±31 บาท แนวรับ 29.25 บาท (Stop loss 28 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มอัตรากำไรธุรกิจเนื้อสัตว์ผ่านจุดต่ำสุดใน 4Q59 3) ประเมินราคาหุ้นที่ปรับลงก่อนหน้านี้ เป็นผลจากตลาดฯกังวลเรื่องการซื้อธุรกิจ Bellisio (ผลิตและจำหน่ายอาหารแช่แข็ง ส่วนแบ่งตลาดฯ อันดับ 3 ในสหรัฐฯ) มากเกินไป โดยฝ่ายวิจัยฯประเมินจะสร้างกำไรให้ CPF ในปี 2560 ±500 ล้านบาท
AOT* (เป้าพื้นฐาน 454 บาท) 1) ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 27 ม.ค.60 อนุมัติการแตกพาร์จาก 10 บาท เป็น 1 บาท 2) ประเมินผลกระทบจากการปราบทัวร์ผิดกฏหมาย สะท้อนในราคาหุ้นที่ปรับลงก่อนหน้าแล้ว 3) ประเด็นเรื่องการขอปลดธงแดง ICAO ภายในกลางปีนี้ คาดเป็น Sentiment บวกต่อ AOT* ด้วย ในด้านของการเปิดเส้นทางการบินได้มากขึ้น ... นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไร THAI* ที่คาดจะสามารถเปิดเส้นทางการบินไปสหรัฐฯได้ใน 4Q60 หลังการปลดธงแดง ICAO กลางปีนี้ 4) ประเมินแนวรับ ±395 บาท / แนวต้าน 400 บาท และถัดที่ 408 บาท (Stop loss 387 บาท)
COM7* (เป้า Consensus 14.1 บาท ... สูงสุด 17.5 บาท) 1) เราประเมินอุตสาหกรรมค้าปลีกไอทีไทยกำลังอยู่ในช่วงวัฏจักรขาขึ้นจาก i) นโยบายไทยแลนด์ 4.0 รวมถึงโครงการอินเตอร์เนตประชารัฐฯ (เพิ่มดีมานด์อุปกรณ์ไอที เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเลต ฯลฯ) ii) ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกสินค้าไอที เลิกนโยบายสงครามราคาหลังใช้มาต่อเนื่อง 3 – 5 ปี (จากการสัมภาษณ์ผู้บริหาร IT) 2) Earning momentum จะยังเติบโตแบบ YoY ต่อเนื่องโดย i) 4Q59 ได้อานิสงส์โครงการช้อบช่วยชาติ + พันธมิตร TRUE* (บริหารร้าน True shop + ขายซิม True ได้ค่าคอมฯ) + iPhone7 และ ii) 1Q60 เริ่มรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อ “บ. บางกอก เทเลคอม 999” หรือ BKK ทำให้จำนวนสาขาเพิ่มขึ้นอีกทันที 44 แห่ง (ก่อนซื้อ BKK มีสาขารวม 277 แห่ง ไม่รวม True shop ที่เข้าบริหารแล้วราว 40 สาขา และจะทยอยเพิ่มขึ้นทุกไตรมาส) 4) ประเมินแนวรับ 13 บาท วันนี้พิจารณาที่แนวต้านแรก 13.2 บาท (แนวต้านเทรนไลน์) หากดีดพ้นได้ ประเมินมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 14 บาท (Stop loss 12.6 บาท)
หุ้นในกระแส
หุ้นสินค้าโภคภัณฑ์เกษตร ปาล์มน้ำมัน (VPO, UVAN, UPOIC, LST, CPI) ยางพารา (STA, TRUBB) และน้ำตาล (KSL, BRR) เราประเมินราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มฯ โดยเราประเมินหุ้นที่มีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาต่ำที่สุดคือกลุ่ม น้ำตาล (หุ้นเด่น KSL) เนื่องจากในปี 2559/60 ยังใช้ระบบ 70:30 และบริษัทฯทำการล๊อกราคาส่งออกน้ำตาลล่วงหน้าแล้ว >70% ขณะที่หุ้นกลุ่มน้ำมันปาล์มยังปรับขึ้นน้อย เมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มยางพารา แนะนำ “เก็งกำไร” VPO, CPI ... สำหรับการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์นักลงทุนควรกำหนดจุดตัดขาดทุนเมื่อขาดทุน >3 – 5%
หุ้นมีข่าว
(+) เศรษฐกิจไทยในเดือนพฤศจิกายน 2559 ขยายตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อน ตามมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวสูง สอดคล้องกับการผลิตในอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกและการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางโดยเฉพาะชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ การใช้จ่ายอุปโภคและลงทุนภาครัฐขยายตัวดีต่อเนื่องและยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี ภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากการหดตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศและการชะลอตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวไทย ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนชะลอลงเป็นเดือนที่สองและการลงทุนภาคเอกชนยังคงหดตัว (ธนาคารแห่งประเทศไทย) เรายังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อภาวะเศรษฐกิจว่าจะสามารถขยายตัวในอัตราที่สูงขึ้นต่อเนื่องได้โดย GDP มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 2.8% ในปี 2558 เป็น 3.3% ในปี 2559 และ 3.6% ในปี 2560 การเมืองในประเทศมีเสถียรภาพมั่นคงสูงมาก คาดว่าการเลือกตั้งทั่วไปอาจจะเกิดขึ้นหลังช่วงไตรมาสที่ 1/61 เพราะช่วงเวลาไม่เหมาะสมที่จะมีการเลือกตั้งในปลายปี 2560 การลงทุนภาครัฐทั้งโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่และโครงการลงทุนใหม่จะเร่งตัวมากขึ้นในช่วงตั้งแต่ไตรมาสที่ 3/60 การบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของรายได้เกษตรกรมากกว่า 10% ผลผลิตภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น ปริมาณน้ำมีพอเพียงช่วยเพิ่มผลผลิตทั้งพืชไร่และพืชสวน บวกกับราคาสินค้าเกษตรหลายรายการ เช่น ยางพารา น้ำตาล น้ำมันปาล์ม มันสำปะหลัง และ ราคาผลไม้มีแนวโน้มสูงกว่าปี 2559 มูลค่าและปริมาณการส่งออกมีแนวโน้มกลับมาขยายตัว 2.6% ตามการเพิ่มขึ้นของระดับราคาน้ำมัน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และปริมาณการค้าโลก ขณะที่ GDP ประเทศคู่ค้าเช่นกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC เศรษฐกิจ ASIAN มีแนวโน้มดีขึ้นกว่าปี 2559
(+) Charoen Pokphand Foods (CPF.BK/CPF TB)* เข้าซื้อหุ้น 33% ใน SuperDrob ซึ่งเป็นธุรกิจอาหารในประเทศโปแลนด์ (Bangkok Post) ความเห็น: เรามีมุมมองเป็นกลางต่อธุรกรรมดังกล่าว ซึ่งคิดเป็นเพียง 0.4% ของทรัพย์สินของ CPF ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมจากบริษัทดังกล่าว จะคิดเป็น 0.5% ของคาดการณ์กำไรปี 2559 ของเรา ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งความพยายามของ CPF ในการขยายธุรกิจอาหารในตลาดโลก โดย SuperDrob เป็นธุรกิจครอบครัวสัญชาติโปแลนด์ ซึ่งจำหน่ายเนื้อสัตว์ปีกทั้งแบบแช่แข็งและปรุงสำเร็จ โดยผลิตภัณฑ์กว่าครึ่งของบริษัทถูกส่งออกไปยังอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน และจีน
(+) บจ.กู้นอกตั้งรับดอลล์แข็ง บินไทย-TOP* บริหารค่าเงิน (ประชาชาติธุรกิจ) บริษัทจดทะเบียนปรับตัวรับเงินดอลล์แข็งค่า "บินไทย" เร่งแปลงหนี้ต่างประเทศกว่า 1.2 หมื่นล้านบาทเป็น "ฟรังก์สวิส" ชี้เป็นสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยถูกสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมล็อกอัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนจาก "ลอยตัว" เป็น "คงที่" หวังต้นทุนการเงินลงกว่า 312 ล้านบาท ฟาก "ไทยออยล์" ไล่ช้อนซื้อดอลลาร์สหรัฐเข้าพอร์ต ลดผลกระทบระยะข้างหน้า
(+) ARROW ลั่นรายได้ปี 60 โต 15% ส่งบริษัทลูกลุยรับงานก่อสร้างเต็มสตีม (ข่าวหุ้น) “ARROW” กางแผนธุรกิจปี 60 เน้นธุรกิจหลักงานท่อร้อยสาย พร้อมส่งบริษัทลูก “เมฆา-เอส” รับเหมาก่อสร้างงานระบบ ชี้อุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาฯ สดใส "ธานินทร์" ลั่นเป้ารายได้ประมาณ 1,600 ล้านบาท หรือโต 10-15%
(+) ASEFA ตุนแบ็กล็อก 1.9 พันล. หนุนผลงานปี 2560 โต 15% (ทันหุ้น) ASEFA ตั้งเป้ารายได้ปี 2560 เติบโต 15% พร้อมอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท ตุน Backlog กว่า 1.8-1.9 พันล้านบาท ทยอยรับรู้ในปี 2560-61 เดินหน้าขยายสาขาให้ครบ 10 สาขาในปี 2560 จากปี 2559 มีทั้งสิ้น 4 สาขา
(+) TNP จ่อลุยเมียนมา-ลาว เร่งอัพรายได้นอกบ้าน การันตีผลงานเข้าเป้า (ทันหุ้น) TNP ซุ่มศึกษาตลาดเมียนมา-ลาว หนุนการเติบโตในอนาคต กางแผนงานปี 2560 เปิดสาขาเชียงแสนพร้อมเล็งอัพสัดส่วนรายได้ต่างแดนโต 10% เล็งเปิดทดสอบระบบ System Warehouse สาขาใหม่ หวังช่วยลดต้นทุน พร้อมการันตีรายได้ปี 2559 เข้าเป้าโต 10-15%
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
TNR (เป้า Consensus 20.26 บาท ... คาดมีโอกาสปรับขึ้น) ประเมินแนวรับ 30 บาท แนวต้าน 32 บาท หากผ่านได้แนวต้านดังกล่าวได้ แนะนำ “Let profit run” ... ประเมินได้อานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อน + 4Q เป็น High season + คาดกำไรปีหน้าโตเด่นจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น (โรงงานที่หยุดผลิตในปีนี้กลับมาผลิต ด้วยกำลังการผลิต +30% … รายได้โต + ไม่ต้องแบกค่าเสื่อมราคาโรงงงานที่หยุดการผลิตไปแบบในปีนี้)
ASEFA (เป้า Consensus 8.9 บาท) แนะนำ “รอซื้ออ่อนตัว” แนวรับ 7.6 บาท แนวต้าน 7.8 บาท และถัดไป 8.05 บาท ... คาดกำไร 4Q59 ลุ้นโต YoY และ QoQ จากเป็น High season ของการส่งมอบงาน (ตู้ระบบไฟฟ้า)
UNIQ* (เป้าพื้นฐาน 23.3 บาท) ประเมินแนวรับ 19.5 บาท แนวต้าน 20 บาท และถัดไปที่ 20.7 บาท (Stop loss 19 บาท) … ประเมินได้อานิสงส์แนวโน้มวัฏจักรขาขึ้นของอุตสาหกรรมรับเหมาฯ
TPBI (เป้า Consensus 16.2 บาท) ประเมินแนวรับ 14.8 บาท แนวต้านแรก 15.4 บาท หากทะลุผ่านได้แนวต้านได้ ประเมินแนวต้านถัดไป 16.3 บาท ... ยังได้อานิสงส์แนวโน้มราคาเม็ดพลาสติกต้นทุนต่ำในไตรมาสนี้ต่อเนื่อง + ค่าเงินบาทที่อ่อนค่า
VGI* (เป้า Consensus 4.98 บาท ... สูงสุด 5.5 บาท) แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุด Trailing stop 5.40 บาท ... ประเมินแนวโน้มการบริโภคในประเทศฟื้นตัว โดยเฉพาะช่วงปลายปี จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯ และการกระตุ้นการท่องเที่ยว
THAI* (เป้าสูงสุด Consensus 34 บาท) พิจารณาที่แนวต้านเส้นเทรนไลน์ขาลง 23 บาท หากทะลุผ่านได้ มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 25 บาท (โดยจะยืนยันว่าพ้นแนวโน้มขาลงได้ หากยืนเหนือแนว CBL: Count Back Line 23.5 บาท) ถ้ายังไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าวประเมินแนวรับ 22.5 บาท ... Cabin factor เดือน ต.ค. – พ.ย. ยังเติบโต YoY ไม่ได้ผลกระทบจากการปราบทัวร์ผิดกฏหมาย
TRC* (เป้าสูงสุด Consensus 1.8 บาท) เริ่มสร้างฐานราคาที่ 1.41 บาท แนะนำ “ทยอยสะสม” ... คาดอยู่ระหว่างรอการเปิดประมูลท่อส่งก๊าซของ PTT* (ท่อก๊าซเส้นที่ 4 มูลค่า 4.3 หมื่นล้านบาท) + การปลดล๊อกการลงทุนเหมืองแร่โปแตซ (APOT) ภายใน 1Q60 ปลดล๊อกการปล่อยสินเชื่อเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ (มูลค่าลงทุนงานโครงสร้างเหมืองฯราว ±3.5 หมื่นล้านบาท)
ITEL (เป้าสูงสุด Consensus 15 บาท) หากทะลุผ่านแนวต้าน 11.6 บาท แนะนำ “Let profit run” ประเมินแนวต้านถัดไป 12.2 บาท
KSL (เป้าพื้นฐาน 5.4 บาท ... เป็นเป้าฯแบบอนุรักษ์นิยม ใช้ PE เฉลี่ย) แนะนำ “Let profit run” สำหรับนักลงทุนที่เข้าซื้อบริเวณ 4.9 บาท ตามที่เราแนะนำก่อนหน้า กำหนดจุดขายล๊อกกำไร Trailing stop ถ้าต่ำกว่า 5.40 บาท
สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลยุทธ์รายเดือน ม.ค. 2560: คาดดัชนีฯ มีโอกาสปรับฐานช่วงครึ่งเดือนแรก หลัง valuations ค่อนข้างสูง ผนวกกับฟันด์โฟลว์ยังแกว่ง/ไหลออกตามเงินดอลลาร์ฯ ที่น่าจะแข็งค่าต่อ อย่างไรก็ดีหากตลาดปรับฐานเรามองเป็นโอกาสซื้อ คาดหลังนาย Trump รับตำแหน่งและตลาดย่อยข่าวแล้ว อาจมีเงินไหลกลับเข้าหุ้นเอเชีย หุ้นเด่นรายเดือน: BCH*, MALEE, ROBINS*, SCB*, SEAFCO, SMT, TKN และ UNIQ*
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยรับ 1540 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1540 จุดได้นั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1540-1559 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1540 จุดนั้น อาจกดราคาในกรอบ 1540-1523 จุด
แนวรับวันนี้: 1537/1524 แนวต้านวันนี้: 1547/1559
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]