- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 04 January 2017 19:57
- Hits: 1630
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : Commodities WoW, HMPRO
Our Portfolio Jan 2017 : EKH, GFPT, HMPRO, KSL, LIT
SET ขึ้นมาพอควรแล้ว ต้องระวังปรับพัก ดังนั้นรอเลือกซื้อช่วงอ่อนตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : เมื่อวันสิ้นปี(30 ธ.ค.2016) SET ยังขยับบวกต่อเนื่องได้ดีจากค่าเงินดอลลาร์ที่ชะลอการแข็งค่า ส่งผลให้เงินบาทมีจังหวะแข็งค่าขึ้นได้ในช่วงท้ายปี โดยนักลงทุนต่างชาติและสถาบันในประเทศยังเป็นผู้ซื้อหลัก แต่ก็เริ่มมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนมากขึ้น จากแรงขายทำกำไรช่วงบวก หลังดัชนีเริ่มเข้าใกล้ระดับดัชนีพื้นฐานที่ FSS ประเมินไว้ที่ 1550 จุดมากขึ้น ขณะที่ในรอบสัปดาห์ตลาดก็ขยับขึ้นมาถึงเกือบ 50 จุดแล้วด้วย
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET จะเริ่มเปิดเทรดเป็นวันแรกของปี 2017 ในขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ได้เปิดทำการไปตั้งแต่วานนี้ (3 ม.ค.) ซึ่งยังขยับบวกต่อเนื่องอยู่ ส่วนเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเริ่มเปิดทำการก็ยังปิดบวกโดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐที่ขยายตัวแข็งแกร่งในเดือน ธ.ค. รวมทั้งตัวเลขภาคการผลิตของจีนก็ขยายตัวแข็งแกร่งด้วยเช่นกันโดยตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็ยังเปิดบวกต่อ ทำให้ FSS คาดว่า SET มีแนวโน้มที่จะขยับบวกได้เช่นกัน แต่เนื่องจากช่วงท้ายปีที่แล้ว SET ขยับบวกต่อเนื่องขึ้นมาพอควร และยังมีแรงกดดันจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบโลกด้วย ดังนั้นต้องเริ่มระวังตลาดปรับพักตัวลงในช่วงถัดไป
กลยุทธ์ : หลังแบ่งส่วนทำกำไรช่วงบวกแล้ว ให้ถือเงินสดไว้รอซื้อช่วงอ่อนตัว
แนวรับ 1540-1538 , 1535-1530 จุด
แนวต้าน 1545-1547 , 1550-1554 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : EKH, GFPT, TVO(buy back)
Fund Flow เมื่อวันศุกร์-วันอังคารกระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคทุกประเทศและหนาแน่น US$594ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$271ล้าน ไต้หวัน US$212ล้าน และไทย 82ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางกลับมาไหลเข้าภูมิภาคโดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ (ISM และ PMI)
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (-) มุมมองตลาดหุ้นเดือน ม.ค. เรามองตลาดมีโอกาสสูงที่จะพักฐาน จากแรงขายของLTF/RMF ที่ครบกำหนดขายได้ และกระแสเงินทุนยังกระจุกอยู่ในตลาด DM โดยเฉพาะสหรัฐและญี่ปุ่น รอพิสูจน์ผลงานของ Trump (รับตำแหน่ง 20 ม.ค.) ดอลลาร์มีทิศทางแข็งค่า Bond yield ของสหรัฐยังอยู่ในระดับสูง ความกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย (ประชุม 2ก.พ.) ยังอยู่แต่เชื่อไม่ขึ้นเร็วๆนี้ ส่วน ECB และ BOJ ไม่น่ามีมาตรการเพิ่มเติมในเดือนนี้ระวังราคาน้ำมันในช่วงกลางเดือนที่อาจดันตลาดขึ้นหรือฉุดลงขึ้นกับผลประชุม OPECและ non-OPEC สำหรับตลาดที่ผันผวนในเดือนนี้เราแนะนำ EKH (ราคาพื้นฐาน 8 บาท),GFPT (ราคาพื้นฐาน 17.70 บาท), HMPRO (ราคาพื้นฐาน 12 บาท), KSL (ราคาพื้นฐาน4.80 บาท), LIT (ราคาพื้นฐาน 14 บาท)
• (+) มุมมองตลาดหุ้นทั้งปี 2017 เราประเมิน SET Target 1,650 จุดสิ้นปี คาดการณ์EPS +12% PE 15.5 เท่า เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าอีกเพียงเล็กน้อยและมีจังหวะแข็งค่าระหว่างปีด้วยความแข็งแกร่งของดุลบัญชีเดินสะพัดและเงินสำรองระหว่างประเทศที่สูงเชื่อกนง.คงดอกเบี้ย 1.5% ตลอดทั้งปี คาด GDP +3.5% ขับเคลื่อนด้วยการลงทุนและการบริโภค กลุ่มที่น่าสนใจได้แก่รับเหมาและวัสดุก่อสร้าง ไฟแนนซ์ ค้าปลีก เกษตร-อาหาร และอสังหาริมทรัพย์
• (+) แนวโน้มกลุ่มเกษตรและอาหารปี 2017 ทิศทางราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้นตามราคาน้ำมันและความต้องการที่เติบโต โดยเฉพาะราคาน้ำตาลที่เข้าสู่ภาวะขาดดุลเป็นปีที่ 2 ราคายางพาราคาดว่าสดใสจนถึง 2Q17 เพราะเป็นช่วงปิดหน้ายางแต่พื้นฐานของราคายางไม่ดีนัก ส่วนราคาถั่วเหลืองคาดทรงตัว สำหรับกลุ่มเนื้อสัตว์ ราคากุ้งไก่ ปลาทูน่า และปลาแซลมอน มีทิศทางฟื้นตัว Top pick กลุ่มนี้: KSL (ราคาพื้นฐาน4.80 บาท), TU (ราคาพื้นฐาน 26 บาท), GFPT (ราคาพื้นฐาน 17.70 บาท)
• (+) FN เราคงราคาพื้นฐาน 10.20 บาท เป็นหุ้นที่ชอบที่สุดในกลุ่มค้าปลีก เพราะกำไรที่โตสูงสุดในกลุ่ม คาดกำไรปีนี้ +47% Y-Y ส่วนกำไร 4Q16 คาด +29% Q-Q, +150%Y-Y เป็น 40 ล้านบาทสูงสุดของปีสวนทางกับบรรยากาศการจับจ่ายที่ไม่สดใส แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นต่อเนื่องทำให้เหลือ upside จำกัด แนะนำซื้ออ่อนตัว (FSS เป็นแกนในการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ FN)
• (+) HMPRO เราคาดกำไร 4Q16 จะทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.34 พันล้านบาท+41% Q-Q, +17% Y-Y แม้บรรยากาศการจับจ่ายจะไม่สดใสในช่วง ต.ค.-พ.ย. แต่ชดเชยได้ทั้งหมดจากมาตรการช้อปช่วยชาติ สาขาใหม่ที่เปิด 5 แห่ง และความสำเร็จของงาน Expo เราปรับกำไรปี 2016-17 เพิ่มเล็กน้อยเป็น +19% และ +13% ตามลำดับ ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 12 บาท แนะนำซื้อ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
4 ม.ค. - ไทย: เงินเฟ้อ (ธ.ค.)
- สหรัฐ: Fed Minutes from 13-14 Dec FOMC Meeting
- จีน: Caixin China PMI Composite (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: เงินเฟ้อ (ธ.ค.)
5 ม.ค. - สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (ธ.ค.) (ตลาดคาด +1.7 แสน
ตำแหน่ง ชะลอจากเดือนก่อนที่ +2.16 แสนตำแหน่ง)
6 ม.ค. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจ (ธ.ค.)
8 ม.ค. - จีน: ดุลการค้า (ธ.ค.)
9 ม.ค. - จีน: อัตราเงินเฟ้อ (ธ.ค.)
13 ม.ค. - OPEC และ Non-OPEC ประชุมติดตามผลเรื่องการลดการผลิต
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BoK) ประชุม
17 ม.ค. - จีน: 4Q16GDP, Industrial production (ธ.ค.), ยอดค้าปลีก (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (ม.ค.)
18 ม.ค. - ยูโรโซน: เงินเฟ้อ (ม.ค.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาพุ่งขึ้นได้ในวันแรกของปี 2017หลังตัวเลข ISM ภาคการผลิตเดือน ธ.ค. ออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนส่วนใหญ่ปิดในแดนบวกได้เช่นกันหลังตัวเลขเศรษฐกิจหลายๆตัวของภูมิภาคออกมาในเชิงบวก
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นจากบรรยากาศการลงทุนที่ค่อนข้างสดใส โดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ได้แรงหนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์
(-) ค่าเงินบาทเริ่มแกว่งอ่อนตัวลงหลังจากแข็งค่าในช่วงก่อนหน้าล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.75-35.95 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ร่วงลง 1.39 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 52.33 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น หลังจากระหว่างวันราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดี
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 10.30 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,162.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และแตะจุดสูงสุดในรอบ 3สัปดาห์ อย่างไรก็ตามเช้านี้ราคาทองคำเริ่มถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าสูงสุดในรอบเกือบ 14 ปี
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research