- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 30 December 2016 16:12
- Hits: 37627
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)
SET lndex: แนวต้านสำคัญ 1550 จุด
SET lndex: 1537.81 ตลาดวานนี้ดัชนีแกว่งแคบในช่วงเช้า ขณะที่มีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาหนุนในช่วงบ่ายดันให้ SET Index ดีดขึ้นทำจุดสูงสุดที่ระดับเหนือ 1540 จุดก่อนมาปิดที่ 1538 จุด ทิศทางตลาดยังแกว่งในกรอบขาขึ้น อย่างไรก็ตามให้ระมัดระวังแรงขายทำกำไรบริเวณ 1540-1550 จุด
แนวต้าน : 1542 และ 1550
แนวรับ : 1530 และ 1525
PTT = 373 / 377, SCC = 486 / 496, AOT = 394 / 400, BANPU = 18.40 / 19.10,PTTEP= 60.75 / 61.50
M.C.S. Steel (MCS TB; THB 17.40) - ซื้อ
แนวต้าน : 18.00 และ 18.40
แนวรับ : 17.20 และ 17.00
ราคาหุ้นดีดขึ้น หลังยืนเหนือ 17 บาทได้ ด้วยปริมาณซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ราคามีแนวโน้มปรับขึ้นต่อทดสอบแนวต้านเดิมบริเวณ 18.00-18.40 บาท
MACD มีแนวโน้มแกว่งเหนือเส้นค่าเฉลี่ย แนะนำซื้อ MCS โดยมีแนวรับที่ 17.20 และ 17.00 และมีแนวต้านที่ 18.00 และ 18.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 16.80 ลงไป
Srisawad Power 1979 (SAWAD TB; THB 40.50) - ซื้อ
แนวต้าน : 42.00 และ 43.25
แนวรับ : 40.50 และ 40.00
ราคาหุ้นปรับขึ้นต่อเนื่องด้วยวอลุ่มที่เพิ่มขึ้น ราคามีแนวโน้มปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปได้ หากราคาทะลุผ่าน 41 บาท
MACD แกว่งเหนือเส้นค่าเฉลี่ย
แนะนำซื้อ SAWAD โดยมีแนวรับที่ 40.50 และ 40.00 และมีแนวต้านที่ 42.00 และ 43.25 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 39.50 ลงไป
Analysts :
Pornvilai Santusatharom +662 657-9230 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
กรอบการขึ้นของดัชนี SET
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการซื้อขายในตลาดหุ้น ซึ่งยังคงเป็นไปในลักษณะเงียบๆและไร้ทิศทาง หุ้นที่ขึ้นมาซื้อขายกันคึกคักยังคงเป็นหุ้นเล็กหรือหุ้นเข้าใหม่ ส่วนหุ้นใหญ่ ยังเงีบยๆ หุ้นขนาดกลางที่ยังมีการซื้อขายกันคึกคัก ยังคงเป็นหุ้นที่อิงกับพวก Soft commodity ทั้ง ยาง น้ำตาลและถั่วเหลือง หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก ปรับตัวขึ้น เรามองว่าเปิดขึ้นมาในช่วงต้นปี หุ้นที่อิงกับ Soft commodity และ โลหะพื้นฐาน อย่าง เหล็ก ทองแดง สังกะสี น่าจะเริ่มเผชิญกับแรงขายทำกำไร หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้ ปรับตัวขึ้นมาสูง เกินพื้นฐาน จากภาวะการคาดการณ์ที่ดีเกินไปรวมทั้งแรงกดของค่าเงินดอลลาร์ที่จะแข็งตัวขึ้น จากรูปด้านซ้าย พบว่าดัชนีกลุ่ม Soft commodity ของ Goldman Sach และ โลหะพื้นฐาน เริ่มมีแรงขายทำกำไร นับตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค. ถึงปัจจุบัน
ปีนี้ถือว่าตลาดหุ้นไทย Outperform ที่สุดในบรรดาตลาดหุ้นอาเซียน คือปรับตัวขึ้นไปเกือบ 18% โดยมีปัจจัยหนุนจากแรงซื้อของนักลงทุนในประเทศ ที่มองว่าเศรษฐกิจไทยและกำไรของตลาดปีหน้าจะดีขึ้นกว่าปีนี้ จากแรงหนุนของมาตรการการลงทุนในโครงส้รางพื้นฐานและกำลังซื้อในประเทศ นอกนั้นเป็นตลาดที่อ่อนไหวกับดอกเบี้ยของสหรัฐ ต่ำกว่าหลายประเทศในอาเซียน สำหรับอัตราการทำกำไรของตลาด (EPS growth) ในปีนี้คาด จะขยายตัวที่ประมาณ 12 % ส่วนปีหน้าจะขยายตัวที่ประมาณ 9-10% (IBES MSCI Thailand) หลังการฟื้นตัวของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ยังเป็นไปอย่างเชื่องช้า
จุดเปลี่ยนการลงทุนในปีหน้าของตลาดหุ้นไทย เรายังมองไปที่แนวโน้มการทำกำไรของตลาด ผ่าน ค่า Earning revision ratio และอัตราการทากำไรของตลาดรวมหรือ EPS growth ในส่วนของค่า ERR พบว่ายังติดลบเพิ่มขึ้น คืออยู่ที่มากกว่า-4% มากกว่าภูมิภาค เรามองว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว น่าจะเริ่มเห็นในช่วงหลังการประกาศงบกลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็นต้นไป ส่วนอัตราการทำกำไรของตลาดก็เช่นกัน จะปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลง ยังต้องติดตามหลังประกาศงบ Q4/16 อย่างไรก็ตามในตอนนี้ ค่า EPS growth ของตลาดยังทรงตัวที่ระดับ 9-10% ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ต่ำกว่าภูมิภาคในรอบมากกว่า 5 ปี โดยมองอัตราการขยายตัวในระดับ 9-10% ในปีหน้า กรอบดัชนี SET น่าจะอยู่ที่ 1500-1550 จุด แต่หากอัตราการทำกำไรของตลาดเกิดเพิ่มขึ้นไปถึง 14-15% จากการเร่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจฟื้นตัว กรอบดัชนีจะอยู่ที่ 1600-1650 จุด หากเป็นไปตามคาด น่าจะอยู่ที่กลางปีหรืออย่างช้าครึ่งปีหลังปีหน้า
ตลาดหุ้นไทยขึ้นได้สูงสุดในบรรดาตลาดหุ้นเกิดใหม่เอเชีย ถึง 18% หากช่วงสั้นๆนี้ไม่มีปัจจยัหนุนใหม่ๆ เข้ามา ยังมีความเป็นไปได้ที่เปิดขึ้นมาต้นปี จะยังเผชิญกับแรงขายของต่างชาติและกองในประเทศ เนื่องจากสัดส่วนของดัชนี MSCI Thailand เทียบภูมิภาค เริ่มขึ้นมาถึงระดับที่มักจะถูกขายทำกำไร (ดูรูปด้านขวา) วันนี้มองทิศทาง SET อาจขึ้นต่อหลังมีแรงซื้อต่างชาติคืน แต่คงไม่แรงมาก โดยมองแนวต้านที่ 1545-1550 และแนวรับที่ 1530-1525 จุด วันนี้แนะนำซื้อเก็งกำไร PTTGC IVL BANPU และ KKP
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
lnvestment Strategy
กลยุทธ์: จุดเปลี่ยนการลงทุนในปีหน้าของตลาดหุ้นไทย เรายังมองไปที่แนวโน้มการทำกำไรของตลาด ผ่าน ค่า Earning revision ratio และอัตราการทำกำไรของ ตลาดรวมหรือ EPS growth ในส่วนของค่า ERR พบว่ายังติดลบเพิ่มขึ้น คืออยู่ที่มากกว่า-4% มากกว่าภูมิภาค เรามองว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว น่าจะเริ่มเห็นในช่วงหลังการประกาศงบกลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็นต้นไป ส่วนอัตราการทำกำไรของตลาดก็เช่นกัน จะปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลง ยังต้องติดตามหลังประกาศงบ Q4/16 ตลาดหุ้นไทยขึ้นได้สูงสุดในบรรดาตลาดหุ้นเกิดใหม่เอเชีย ถึง 18% หากช่วงสั้นๆนี้ไม่มีปัจจยัหนุนใหม่ๆ เข้ามา ยังมีความเป็นไปได้ที่เปิดขึ้นมาต้นปี จะยังเผชิญกับแรงขายของต่างชาติและกองในประเทศ เนื่องจากสัดส่วนของดัชนี MSCI Thailand เทียบภูมิภาค เริ่มขึ้นมาถึงระดับที่มักจะถูกขายทำกำไร วันนี้มองทิศทาง SET อาจขึ้นต่อหลังมีแรงซื้อต่างชาติคืน แต่คงไม่แรงมาก โดยมองแนวต้านที่ 1545-1550 และแนวรับที่ 1530-1525 จุด วันนี้แนะนำซื้อเก็งกำไร PTTGC IVL BANPU และ KKP
Themes play :
CPALL : เราแนะนำ ซื้อ CPALL โดยมีราคาเป้าหมาย 71 บาท โดยเราเชื่อว่า CpALL เป็นหุ้นที่ควรมีไว้ในพอร์ตจากสถานะที่แข็งแกร่งในธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และมีความเสี่ยงต่ำในช่วงตลาดผันผวน ทั้งนี้เราประมาณการว่า CPALL จะมีกำไรเติบโตเฉลี่ย 20% CAGR ในปี FY15-18 จากการเดินหน้าขยายกิจการเชิงรุกและมาร์จินที่สูงขึ้น นอกจากนั้นราคาหุ้น CpALL ยังเป็น laggard เมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยซื้อขายที่ P/E เพียง 27x ในปี FY17 เทียบกับกลุ่มค้าปลีกที่ซื้อขายที่ p/E 31.87 เท่า เราเชื่อว่าปัญหาระหว่าง CPALL และ AIS เกี่ยวกับค่าคอมมิชชั่นในการจำหน่ายบัตรเติมเงินได้ตอบรับเข้าไปในราคาหุ้นแล้ว แต่เราเชื่อว่าที่สุดแล้วทั้งสองฝ่ายจะสามารถหาทางออกที่ดีร่วมกัน ถึงแม้ร้านสะดวกซื้อจะระงับบริการดังกล่าวตั้งแต่เดือนตุลาคม ทั้งนี้หากอิงตามประมาณการของเรา กรณีที่ CPALL สูญเสียรายได้ค่าคอมมิชชั่นจาก AIS เราเชื่อว่าผลกระทบต่อกำไรสุทธิของ CPALL จะอยู่ที่ 4%
ประเด็นในสัปดาห์
1 ม.ค. : จีนประกาศตัวเลข Manufacturing PMI เดือนธ.ค. โดยตลาดคาด 51.6 จากเดือนก่อนหน้าที่ 51.7
2 ม.ค. : จีนประกาศตัวเลข Caixin China PMI Mfg เดือนธ.ค. โดยตลาดคาด 51.0 จากเดือนก่อนหน้าที่ 50.9
3 ม.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Markit U.S. Manufacturing PMI เดือนธ.ค. โดยตลาดคาด 54.2 จากเดือนก่อนหน้าที่ 54.2
3 ม.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข ISM Manufacturing เดือนธ.ค. โดยตลาดคาด 53.5 จากเดือนก่อนหน้าที่ 53.2
SET lndices semi-annual review results for 1H17
SET50
ADD : GLOBAL KKP PTG SPRC THAI
DELETE : BEC MTLS SAWAD TASCO TTW
SET100
ADD : BIG KAMART SCN SPRC SUPER THANI TKN VIBHA
DELETE : ANAN BJCHI ERW GL JWD SVI TRC WORK
SETHD
ADD : THANI THCOM TMB
DELETE : ANAN BJCHI BLAND
Technical Pick:
กลยุทธ์ : SET Index มีแนวรับ 1530-1525 จุด แนวต้าน 1550 จุด
M.C.S. Steel (MCS TB; THB 17.40) - ซื้อ
Srisawad Power 1979 (SAWAD TB; THB 40.50) - ซื้อ
SET lndex : แนวต้านสำคัญ 1550
Retail Research Team