WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ASIAwealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

พักฐาน
       คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบวันนี้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ที่เปิดในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ จากหุ้นสหรัฐที่ถอยหลังหลังจากวิ่งขึ้นอย่างโดดเด่นติดต่อกันมาหลายสัปดาห์ ทั้งนี้น่าจะมาจากสัญญาณแรกของความกังวลที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐที่อาจได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed นอกจากนั้นการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ที่จะทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ ก็จะเป็นปัญหาสำคัญในปีหน้าสำหรับทุกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน นโยบายปกป้องทางการค้าของ Trump จะยิ่งเพิ่มปัญหาต่อไป ปัจจัยภายในประเทศวันนี้โดยรวมยังเป็นบวก กระทรวงการคลังคาดการใช้จ่ายและการลงทุนตามงบประมาณจะพุ่งสูงขึ้นถึง 2 แสน ลบ. ในเดือน มี.ค. 2017 มากสุดเป็นประวัติการณ์ มีผลบวกต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจยิ่ง สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือมองว่าส่งออกจะไม่โตปีนี้แต่จะโต 1-2% ปีหน้า

 

หุ้นเด่นวันนี้ : SPALI (ราคาปิด 24.70 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 32.00 บาท)
เลือก SPALl เป็น pick of the day จากการที่เป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่สามารถทาได้ตามเป้าหมายปี 2559 ที่ตั้งไว้ ส่วนใหญ่ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์มีการปรับลดเป้าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี โดยงวด 11 เดือน SPALl มียอด Presales เท่ากับ 23,000 ล้านบาท เทียบกับเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 24,500 ล้านบาท และยอดโอนก็คาดว่าได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 22,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2560 จะมียอดโอนเพิ่มขึ้นเป็น 25,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% YoY นอกจากนี้ ยังมียอดขายและกำไรที่เติบโตดีต่อเนื่องในปี 2560 โดยเราคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2559 เติบโต 14.5% และปี 2560 เติบโตอีก 10.4% ทั้งนี้ในไตรมาส 4/59 เรายังคาดการณ์ว่า SPALl มีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,297 ล้านบาท เติบโต 53% QoQ โดยคาดมียอดโอนในไตรมาส 4/59 จำนวนมาก และ SPALl มีการเปิดตัวโครงการใหม่ขนาดใหญ่ในไตรมาส 4/59 ได้แก่ Supalai Veranda พระราม 9 มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท และ Supalai Oriental สุขุมวิท 39 มูลค่า 7,500 ล้านบาท มียอดจองที่ดีและคาดว่าดีต่อเนื่องไปถึงช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 ซึ่งในไตรมาส 1/60 เมื่อเริ่มทำกิจกรรมทางการตลาดได้เต็มที่คาดว่ายอดขายอสังหาริมทรัพย์จะกลับมาสดใสอีก เราประเมินราคาเป้าหมายในปี 2560 ของ SPALl ไว้ที่ 32.00 บาท เทียบกับค่า PER ที่ 10 เท่า ราคาปัจจุบันยังมี upside 30% Price Pattern ของ SPALl มีความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง จากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal โดยหากสามารถปิดตลาดรายเดือนได้เหนือ 24.40 บาท จะทำให้กลับมามีแนวโน้มหลักเป็นขาขึ้น (Uptrend) อีกครั้ง จากการกลับมาเกิด Monthly Buy Signal ครั้งใหม่ เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ SPALl มีเป้าหมายหลักอยู่ที่ 26.50 บาท ทั้งนี้ SPALl มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 23.60 บาท (Resistance: 24.90, 25.00, 25.25; Support: 24.50, 24.30, 24.10)

 

ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
      การใช้จ่ายภาครัฐคาดว่าจะถึง 2 แสน ลบ. ภายใน มี.ค. สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุว่าเงินลงทุน 4.93 หมื่น ลบ. ได้ถูกใช้ไปในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 60 และ ณ จนถึง 23 ธ.ค. ได้เบิกจ่ายไปแล้ว7 หมื่น ลบ. รัฐคาดว่าจะมีงบอีก 1 แสน ลบ.ถูกเบิกในช่วง ม.ค.-มี.ค. ปี 60 ซึ่งเป้าหมายการใช้จ่ายในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 60 น่าจะแตะ 2 แสน ลบ. เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ (Bangkok Post)
ผู้ส่งออกคาดส่งออกโต 1-2% ปีหน้า สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยคาดว่าการส่งออกของไทยน่าจะเสมอตัวในปีนี้ แต่จะเพิ่มขึ้น 1-2% ปีหน้า การเติบโตค่อนข้างน้อยเพราะแนวโน้มการค้าระหว่างประเทศยังเปราะบางและมีการกีดกันทางการค้าทั้งเรื่องภาษีและไม่ใช่ภาษี นำโดยนโยบายกีดกันของสหรัฐและความขัดแย้งการเมืองระหว่างประเทศ (Bangkok Post) ความเห็น: การคาดการณ์ของสภาฯ ต่ำกว่าของ ก.พาณิชย์ซึ่งคาดว่าปี 60 ส่งออกจะเติบโต 2.5-3%
     ปีหน้ากลุ่มการพิมพ์น่าจะแย่ เจ้าหน้าที่อาวุโสของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่าภาคการพิมพ์ ได้แก่ หนังสือพิมพ์ นิตยสารน่าจะหดตัว 5% ในปีหน้าเพราะสื่อออนไลน์เป็นที่นิยมมากขึ้นสำหรับบริษัทที่โฆษณา ปัจจุบัน 45% ของภาคการพิมพ์มาจากการพิมพ์เชิงพาณิชย์ ส่วนอีก 55% มาจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ แม้การพิมพ์เชิงพาณิชย์จะหดตัว แต่ส่วนบรรจุภัณฑ์น่าจะโตได้ 5-6% ในปีหน้าหนุนจากการเจริญขึ้นของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและธุรกิจอาหาร (Bangkok Post)

ต่างประเทศ :
       ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเทียบกับปอนด์สเตอริงเมื่อวันพุธ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาต่อรองในปีหน้าหลังจากที่อังกฤษลงประชามติออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในขณะที่ความคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวมากขึ้นเป็นตัวหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เงินยูโรอ่อนค่าลง 0.8% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 วันที่ 1.0372 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลง 0.15% สู่ระดับ 117.21 เยน ร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 6 วันก่อนหน้านี้ที่ 117.81 เยน ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐล่าสุดแข็งค่าขึ้น 0.28% สู่ระดับ 103.310 หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบวันที่ 103.630 และขึ้นถึงระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีที่ระดับ 103.650 เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. (Reuters)
       อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อวันพุธ หลังการประมูลพันธบัตรอายุ 5 ปีมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรองรับความต้องการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและหลังการประกาศยอดขายบ้านมือสองที่ลดลงอย่างมาก อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลงมากหลังการประมูลพันธบัตร โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีแตะระดับต่ำสุดนับแต่วันที่ 8 ธ.ค. (Reuters)

 

สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบและปริมาณการซื้อขายเบาบางในวันพุธ ปรับตัวลงในวงกว้างจากสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ที่ลดลงมาก และจากความเห็นของนายจอห์น แครี่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐเกี่ยวกับอิสราเอล ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายที่ร่วงลงบ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจกดดันตลาดอสังหาริมทรัพย์ ส่วนความเห็นของนายแครี่เกี่ยวกับการขยายอาณาเขตที่ดินของอิสราเอลซึ่งสั่นคลอนสันติภาพของตะวันออกกลางเป็นการชี้ว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้เห็นตรงกันและเร่งให้ตลาดปรับตัวลง Reuters)
ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายในเดือนพ.ย. ร่วงลงต่ำสุดในรอบเกือบปี เป็นสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ ดัชนียอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายซึ่งอิงกับจำนวนสัญญาในเดือนพ.ย. ลดลง 2.5% สู่ระดับ 107.3 ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดว่ายอดดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ย. ทั้งนี้ ดัชนีฯ ปรับตัวลงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และปรับตัวลดลง 0.4% เทียบกับเดือนพ.ย. 2015 (Reuters)

 

ยุโรป :
หุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อวันพุธ เนื่องจากหุ้นในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ที่ปรับตัวขึ้นหนุนตลาดโดยรวมและช่วยให้ FTSE100 ปิดที่จุดสูงสุดใหม่ โดยที่บริษัททรัพยากรเหล่านี้ถูกหนุนโดยราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ฟื้นตัว งบดุลที่ดีขึ้น และความคาดหวังของมาตรการกระตุ้นทางการเงินของสหรัฐ (Reuters)

 

เอเชีย :
BOJ ทำให้ yield curve ชันขึ้น: เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นชันขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางในวันพุธที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทน 10 ปีมาตรฐานขยับลง 0.5 จุด เป็น 0.055% อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทน 20 ปีเพิ่ม 2.5 basis points (bps) เป็น 0.595% สูงสุดตั้งแต่ 19 ธันวาคม ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี เพิ่มขึ้น 3.5 bps เป็น 0.715% สูงสุดตั้งแต่ 16 ธันวาคม เส้นอัตราผลตอบแทนชันขึ้นไปถึงระยะเวลาครบกำหนด จากระดับต่ำสุดในช่วงเวลาการซื้อขาย และปรับสูงขึ้นในการซื้อขายช่วงบ่าย (Reuters)
สกุลเงินของจีนพบกับการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ในปี 2560: จากการทิ่อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ เข้าสู่เขตขาขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลักในปี 2560 แนวโน้มสำหรับค่าเงินหยวนจึงจะได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการกระทำของเฟด ประเทศจีนต้องดิ้นรนเพื่อรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนและนำเงินทุนสำรองเงินตราต่างประเทศออกมาใช้กว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ จนถึงปีนี้ โดยลดลงรวมถึงปัจจุบันมากกว่า 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ วิธีการนี้จะเห็นได้ชัดว่าการควบคุมเงินทุนเป็นพื้นฐานที่ไม่ยั่งยืน เงินหยวนยังคงลดค่าลงและการมีโอกาสอ่อนไปถึง 7 หยวนต่อดอลลาร์ จากนโยบายของทรัมป์ที่จะลดการนำเข้าของจีนและการกำหนดอัตรากำแพงภาษีที่สูงอาจเพิ่มความยากลำบากในการรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2560 (Reuters)

 

สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันดิบสหรัฐบวกต่อเป็นวันที่สี่ในวันพุธ ใกล้จุดสูงสุดนับแต่กลางปี 58 ก่อนที่จะมีตัวเลขสต็อกน้ำมันออกมา และเพราะตลาดรอหลักฐานการลดการผลิจของผู้ผลิต OPEC จากวันที่ 1 ม.ค. เป็นต้นไป น้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบ ก.พ. บวก 16 เซนต์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 54.06 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่ไม่ไกลจากระดับสูงสุดของปีเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ 54.51 ดอลลาร์เท่าใดนัก น้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้าส่งมอบ ก.พ. บวก 13 เซนต์หรือปิด 56.22 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบอ้างอิงตลาดโลก แตะ 57.89 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในวันที่ 12 ธ.ค. จุดสูงสุดนับแต่ ก.ค. 58 (Reuters)
ราคาทองคำบวกวันพุธ หลังจากความต้องการเงินสดอ่อนลงและผู้ลงทุนปิดสถานะชอร์ตช่วยหักล้างผลจากดอลลาร์ที่แข็งค่า ราคาทองคำตลาดจรบวก 0.27% ปิดที่ 1,141.92 ดอลลาร์สหรัฐ หลังไปแตะ 1,148.98 ดอลลาร์สหรัฐในวันอังคาร อันเป็นจุดสูงสุดนับแต่ 14 ธ.ค. ราคาทองคำล่วงหน้าเดือน ก.พ. บวก 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 1,140.90 ดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)


Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!